++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันศุกร์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2548

สืบนี้จะสืบทอดเจตนา


๑.
ในความชื้นแฉะของเม็ดฝน
ถนนเลียบแม่น้ำดูหม่นนหมอง
มองเห็นคนกางร่มสีสดใส
ดำรงอยู่ในเม็ดฝนที่พรำสาย
พอใจในสายรุ้งที่สดสวย
สายรุ้งที่สดสวย
รื่นเริงระเริงหลง
หลงฝันในภาพลวง
ใครลวงให้อยู่ในน
ในโลกใครในโลกมัน


บ่ายหมองเดือนกันยา
จดหมายลาซุกซ่อนไว้

๓.
สายฝนที่เปียกฟ้า
น้ำตาที่ท่วมใจ
เห็นร่างคนนๆนั้นชัดเจน
สืบเท้าก้าวเดินไม่หวั่นเกรง
ขับขานบทเพลงชื่อปกป้อง
คุ้มครองผองป่า
ตกอยู่ในพายุร้าย
ถึงที่สุดแล้ว
เพื่อนเอ๋ย พี่น้องเอ๋ย
ขอเสื้อเกราะสักตัว
แต่อย่าเลย...

๔.
ลาก่อน..
ลาแล้วทุกสิ่งที่วาดหวัง
ปังปังโป้งโป้ง
เสียงลำไผ่ปะทุแตก
ลำปล้องแตกได้ให้แตกไป
หน่อเนื้อในดินยังมี
หน่อเนื้อเสียดสีเป็นเพลงโศก
เพลงเศร้าของคนแท้
โดดเดี่ยวนี่หนอ
โดดเดี่ยวเกินกว่าจะอยู่สู้

๕.
กว่าจะรู้กว่าจะแก้
คนชั่วพรั่งพรูเหมือนฝนร้าย
ที่ฉีกฟ้า
ตกมาเป็นร้อยเป็นนแสนห่า
ห่าห่าเหี้ยเหี้ย นรก
ตกมาแปรเปลี่ยนเป็นเปลวเพลิง
ทะเลไฟไหม้ลามทะเลคน
ในมือของคนนในบ้านนนี้เมืองนี้
ช่วยกันโกงช่วยกันกินให้ป่นปี้
คนนดีดีเข่นฆ่าลงทำปุ๋ยปลูกคนชั่ว
โอ้..นี่ละหนอ
คนชั่วพรั่งพรูเหมือนฝนร้าย
ที่ฉีกฟ้า..

๖.
พงหญ้าป่าเขา
ถอนนถางมาสร้างสนามกอล์ฟ
ตัดกลบไม้ใหญ่ลงหลุม
ปลูกใหม่ในสวนยูคา
ล่าไล่สัตว์ป่า
ฆ่ามันให้ตายในอ่างน้ำ

๗.
โป้งโป้งปังปัง
ลำใผ่ปะทุแตก
ลำปล้องแตกได้ให้แตกไป
หน่อเนื้อในดินยังมี
ปังปังเปรี้ยงเปรี้ยง
เสียงปืนปะทุลั่น
ร่างคนคนนั้นล้มลง
เลือดแดงไหลลง
ลำห้วยขาแข้ง

๘.
โศกเศร้าสิ้นแล้ว
ฟุบหน้ากับฝ่ามือ
จุกเจ็บอัดแนน่นอยู่ในอก
ประหนึ่งนกที่ปีกขาด
ประหนึ่งมีกบาดฝานหัวใจ
ยามดึกที่หลับไป
หลับไปในความระทดระท้อ
สะดุ้งตื่นมามองฟ้ามืด
ยิ่งมืดยิ่งหมองเมื่อเหม่อหา
ใครจะมาทดแทน
คนดีที่จากไป
ยิ่งคิดยิ่งอาลัย
ยิ่งคิดยิ่งไม่เข้าใจ
ทำไมและทำไม
แม้กระทั่งตัวเอง
ขานชื่อ"สืบ"เมื่อเขาตาย
หรือเราจะคิดแค่อาลัย
มือเหยียดออกไปไม่รู้ตัว
ฝ่ามือของความแค้น
ห่อกำปั้นกำแน่นในความมืด
ไล่ทุบเงาคนชั่วเหมือนนคนบ้า
โอ้อนิจจาคนดีที่จากไป
สืบนี้จะสืบทอดเจตนา

นัสภรณ์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น