++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพฤหัสบดีที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

มุสาวาทหรืออกุศลกรรมบถสี่อย่างพาไปอบายได้


ตามหาแก่นธรรม 235 มุสาวาทหรืออกุศลกรรมบถสี่อย่างพาไปอบายได้

มุสาวาทหรืออกุศลกรรมบถสี่อย่างพาไปอบายได้


                    ความประพฤติผิดธรรมทางวาจา มีสี่อย่าง

                   1.เป็นผู้กล่าวเท็จคือ ไปในที่ประชุมหรือไปในหมู่ชน หรือไปในท่ามกลางญาติ หรือไปในท่ามกลางขุนนาง หรือไปในท่ามกลางราชสกุล หรือถูกนำไปเป็นพยาน ถูกถามว่า แน่ะบุรุษผู้เจริญ เชิญเถิด ท่านรู้เรื่องใด ก็จงบอกเรื่องนั้น เขาเมื่อไม่รู้ก็บอกว่า รู้บ้าง เมื่อรู้บอกว่า ไม่รู้บ้าง เมื่อไม่เห็น ก็บอกว่าเห็นบ้าง เมื่อเห็นก็บอกว่า ไม่เห็นบ้าง เป็นผู้กล่าวคำเท็จทั้งรู้อยู่ เพราะเหตุตนบ้าง เพราะเหตุผู้อื่นบ้าง เพราะเหตุเห็นแก่สิ่งเล็กน้อยบ้าง
                    2.เป็นผู้ส่อเสียด คือ ได้ฟังข้างนี้แล้ว นำไปบอกข้างโน้น เพื่อทำลายพวกข้างนี้บ้าง หรือฟังข้างโน้นแล้ว นำไปบอกข้างนี้ เพื่อทำลายพวกข้างโน้นบ้าง ยุพวกที่พร้อมเพรียงกันให้ แตกกันไปบ้าง ส่งเสริมพวกที่แตกกันบ้าง ส่งเสริมพวกที่แตกกันแล้วบ้าง ชอบใจในคนที่แตกกันเป็นพวก ยินดีในความแตกกันเป็นพวก ชื่นชมในพวกที่แตกกัน และกล่าววาจาที่ทำให้แตกกันเป็นพวก
                    3.เป็นผู้มีวาจาหยาบ คือ กล่าววาจาที่เป็นโทษหยาบ อันเผ็ดร้อนแก่ผู้อื่น อันขัดใจผู้อื่นอันใกล้ต่อความโกรธ ไม่เป็นไปเพื่อความสงบจิต
                    4.เป็นผู้กล่าวคำเพ้อเจ้อ คือ พูดในเวลาไม่ควรพูด พูดเรื่องที่ไม่เป็นจริง พูดไม่เป็นประโยชน์ พูดไม่เป็นธรรม พูดไม่เป็นวินัย กล่าววาจาไม่มีหลักฐาน ไม่มีที่อ้าง ไม่มีที่สุด ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ โดยกาลไม่สมควร

                    ในอกุศลกรรมบถสิบนั้น เกือบครึ่งหนึ่งที่เป็นกรรมที่เกิดทางวาจา พ่อแม่ครูบาอาจารย์ท่านถึงย้ำนักกำชับหนาว่า"อย่าได้ก่อกรรมเช่นนี้กันเลย" สุดท้ายมันจะหาที่ยังความเจริญกันไม่ได้เลยที่เรียกว่าอบาย
แม้ผู้เขียนจะเขียนบทความทางธรรมะมากว่าสามปีแล้วก็ตาม ยังต้องสำรวมให้มากกว่าเดิม โลภ โกรธ หลง บางครั้งอาจจะเบาบางลงไปบ้างเหมือนกัน แต่ก็กลับหวนคืนมา จนบ่อยครั้งก็นึกไม่ถึงว่าจะมากมายเช่นนี้ ที่ท่านผู้อ่านเรียกผู้เขียนว่าท่านอาจารย์กันนั้น ก็คงจะเป็นได้แค่"จานกินข้าว"เท่านั้นเอง
                     ในบทความเพื่อคนหมู่มาก บางครั้งจำเป็นต้องใช้สำนวนบางอย่างที่ให้เหมาะกับเรื่องและให้ผู้อ่านที่มีประสบการณ์ในการอ่านหนังสือทางธรรมได้เข้าใจได้ดีขึ้น แต่ยังคงเนื้อหาในความจริงไว้ โดยไม่พยายามบิดเบือนแต่อย่างใด
ที่เรามีผู้อ่านมากมายมาถึงขนาดนี้ ผู้เขียนเชื่อว่าพวกเราชาวแก่นธรรมมีผัสสะทางใจต่อกันด้วยความงดงาม บริสุทธิ์ สะอาด สว่างและเป็นกำลังใจให้แก่กันและกันด้วยคุณค่าแห่งกัลยาณมิตร ที่รับรู้ได้ด้วยใจ
                    ขอยังความเจริญในทางธรรมเกิดแก่ท่านผู้อ่านทั้งหลายจงเกิดความสงบ สันตติ สุข แห่งเส้นทางแห่งการรู้แจ้งด้วยเทอญ เอวังด้วยประการฉะนี้แล
                     ธรรมะสวัสดี

                     วิเวก
                     ผู้ที่จะไม่เลือกชอบหรือไม่ชอบ

                     ตามหาแก่นธรรม
                     อ้างอิง วิกีซอร์ซ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น