Theขี้ฝุ่นริมทาง
วันอังคารที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
ได้มา เสียไป
หมาน้อยไม่ใช่จะได้เศษอาหารชิ้นเล็กจากคุณฝ่ายเดียว
คุณได้อาหารทางใจจานใหญ่จากการให้ทานกับมันด้วย
การได้มาและการเสียไปสำหรับคนส่วนใหญ่
เกิดจากการตัดสินโดยเอาวัตถุภายนอกเป็นเกณฑ์
ถ้ายื่นหมูไปแล้วได้แมวมา แปลว่าเกิดการแลกเปลี่ยน
ส่วนจะคุ้มหรือไม่คุ้มก็ต้องตีราคาหมูกับแมวว่าเทียบกันได้ไหม
แต่หากยื่นหมูไปแล้วไม่ได้อะไรคืนมาเลย
อันนี้เรียกว่าเสียเปรียบเต็มประตู ไม่มีอะไรอื่นให้ตีความ
ที่มีแต่มุมมองอย่างนั้น
ก็เพราะคนส่วนใหญ่ถูกลวงให้มองออกนอกตัวท่าเดียว
แทบไม่เคย ‘ฝึก’ ที่จะมองเข้ามาข้างใน
ว่าเกิดอะไรขึ้นกับใจตัวเองบ้าง
หากฝึกมองให้เห็นว่าแต่ละการให้
มีการ ‘ได้ทางใจ’ หรือ ‘เสียทางใจ’ แค่ไหน
เรื่องของการแลกเปลี่ยนและการให้เปล่า
จะแตกต่างไปจากมุมมองที่ผ่านมาทั้งชีวิตทีเดียว
สำหรับคนที่ให้ทานจนความสุขทางใจปรากฏเด่นชัดมากพอ
จะเริ่มรู้สึกถึงการได้การเสียที่ข้างในซึ่งแปลกไป
กล่าวคือ เมื่อไหร่ที่หยุดให้ ความสุขก็สะดุดชะงัก
ความรู้วิธีคำนวณกำไรและขาดทุนโดยอาศัยเพียงวัตถุภายนอก
ไม่พอเสียแล้วสำหรับใจที่อิ่มต่อเมื่อเสวยรสสุขแห่งการให้เปล่า
ยิ่งให้เป็น ก็จะยิ่งเห็นว่า
วัตถุที่ลวงใจคนทั้งโลกให้หลงใช้เป็นมาตรวัดการได้มาและการเสียไป
อย่างมากก็เป็นสมบัติติดตัวได้ชั่วคราว รู้ได้ด้วยการคำนวณอายุวัตถุ
ต่างจากความสุขและ ‘ความสว่างทางใจ’
ที่ดูจะทอดเงายาวออกไปได้ไกลเกินกว่าจะหยั่งรู้ด้วยการคะเนธรรมดา
ทราบเพียง ‘รู้สึกว่า’ จะไม่จบสิ้นแค่ใกล้ๆ หรือกระทั่งวันสิ้นชีวิตชาตินี้
ยิ่งเห็นความจริงเกี่ยวกับการได้และการเสียทางใจมากขึ้นเท่าไร
คุณจะยิ่งเข้าใจและเข้าถึงเรื่องการสะสมบุญมากขึ้นเท่านั้นครับ
ดังตฤณ
มิถุนายน ๕๖
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น