++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพุธที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

คณะวิจัย ม.อ.แยกสารในบอระเพ็ด พิสูจน์แล้วช่วยลดความดันโลหิต

บอระเพ็ด เป็นสมุนไพรไทย มีรสขม ตามตำราไทย มีสรรพคุณแก้ไข้ แก้กระหายน้ำ เป็นยาเจริญอาหาร ยาอายุวัฒนะ และลดความดันโลหิต แต่ยังไม่มีรายงานทางวิทยาศาสตร์ยืนยัน ทีมงานวิจัยของ รศ.ดร.ฉวีวรรณ จั่นสกุล ภาควิชาสรีรวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จึงได้ทำการศึกษาฤทธิ์ของบอระเพ็ดต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด และลดความดันโลหิตได้จริง เพื่อพิสูจน์ผลก่อนอ้างอิงทางวิทยาศาสตร์

รศ.ดร.ฉวีวรรณ จั่นสกุล เปิดเผยว่า ได้ทำการทดลองโดยนำลำต้นบอระเพ็ดมาสกัดด้วยวิธีเดียวกับที่ใช้ในตำรายาไทย คือต้มด้วยน้ำ จากนั้นแยกเอาส่วนน้ำต้มไปสกัดด้วยสารละลายเคมีเพื่อให้ได้ตัวยาที่เข้มข้น กำจัดตัวทำลายออกแล้วนำไปทำให้แห้ง นำสารสกัดที่ได้ไปทดสอบฤทธิ์ต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด โดยนำสารสกัดมาละลายน้ำ เพื่อทำการพิสูจน์ว่าจะใช้เป็นยารักษาได้หรือไม่ ขั้นตอนในการศึกษาเราได้ทำในหนูขาวใหญ่ โดยตัดแยกหลอดเลือดแดงออกมาศึกษาในหลอดทดลอง พบว่าสารสกัดบอระเพ็ดมีผลทำให้หลอดเลือดคลายตัว และศึกษาในตัวหนูขาวใหญ่โดยการฉีดสารสกัดบอระเพ็ดเขาไปในหลอดเลือดดำ

“เราพบว่าสารสกัดมีฤทธิ์ลดความดันโลหิต และมีฤทธิ์ต่ออัตราการเต้นของหัวใจสองแบบคือ ลดอัตราการเต้นของหัวใจก่อนและตามด้วยการเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ ซึ่งผลดังกล่าวนี้เป็นการยืนยันได้ว่า บอระเพ็ดมีฤทธิ์ลดความดันโลหิต แต่มีผลต่ออัตราการเต้นของหัวใจด้วย ทั้งนี้อาจเป็นไปได้ว่าในบอระเพ็ดสารออกฤทธิ์หลายตัวทำงานร่วมกัน เพื่อจะพิสูจน์สมมุติฐานดังกล่าว จึงได้ศึกษาทางเคมีเพื่อแยกสารออกฤทธิ์จากสารสกัดบอระเพ็ด สามารถแยกสารบริสุทธิ์ ที่มีผลต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด ชนิดของสารที่แยกออกมาได้ประมาณครึ่งหนึ่งมีนักวิจัยท่านอื่นๆเคยพบมาแล้วแต่ไม่มีผลต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด สารสำคัญที่มีผลลดความดันโลหิตได้แก่ อะดีโนซีน adenosine) ซาลโซลีนอล (salsolinol) และไฮเจนนามีน (higenamine)”

ทั้งนี้สารที่มีฤทธิ์ลดความดัน มีผลต่อหัวใจและหลอดเลือด เป็นสารที่ไม่มีรสขมเลย ส่วนสารที่ขมได้ศึกษาแล้วปรากฏว่ามันไม่มีฤทธิ์ในการลดความดันโลหิต สารนั้นชื่อบอระเพโตซาย (borapetoside) ซึ่งสารนี้เป็นสารองค์ประกอบหลักในลำต้นบอระเพ็ด

“เราเป็นกลุ่มแรกที่พิสูจน์ได้ว่า บอระเพ็ดมีผลลดความดันได้จริง สามารถออกฤทธิ์ลดความดันโลหิต แต่ในขณะเดียวกันมันก็เพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ มีผลทำให้หัวใจบีบตัวแรงขึ้น ดังนั้นสิ่งที่ชาวบ้านหรือตำราอ้างไว้ สามารถพิสูจน์ได้ว่าจริง สาเหตุที่เรายังไม่ผลิตเป็นเม็ดยา เนื่องจากมีการศึกษาของทั้งในประเทศไทย และในต่างประเทศ พบว่าบอระเพ็ดถ้ากินเข้าไปนานๆมีพิษต่อตับ ต่อไต

สิ่งที่ควรศึกษาก่อนผลิตออกไปเป็นเม็ดยา ก็คือสารที่ออกฤทธิ์ดังกล่าวมีพิษหรือไม่ แล้วส่วนไหน ที่มีพิษอยู่ในบอระเพ็ด จะได้กำจัดส่วนนั้นออก เพราะฉะนั้น ยังต้องขอเวลาในการศึกษาอีกระยะหนึ่ง เหตุผลอีกอย่างเพราะว่าสารที่อยู่ในลำต้นบอระเพ็ดมีปริมาณน้อยมาก เพียง 0.25 % แต่มันมีประสิทธิภาพที่สูงมากๆ ถึงแม้สารที่เราสกัดมาจะมีน้อย มันก็แสดงฤทธิ์ให้เราเห็น สิ่งที่เรากำลังศึกษาอยู่คือ 1.แยกสารที่ออกฤทธิ์ให้บริสุทธิ์ที่สุด ขณะเดียวกันก็สามารถขจัดส่วนที่เป็นองค์ประกอบจำนวนมากออกไป เวลากินเข้าไป เราจะได้ไม่ต้องกินขยะเข้าไปมากเกินความจำเป็น เพราะมันจะไปมีผลต่อตับ และ/ หรือไต ทีมงานวิจัยของเราต้องพิสูจน์สารพิษที่อยู่ในลำต้นบอระเพ็ด เพื่อแยกสารนั้นออกมาก่อนที่จะผลิตเป็นยาสู่ผู้บริโภค” รศ.ดร.ฉวีวรรณ กล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น