++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันอาทิตย์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี

พระอาจารย์
เล่าว่า "ช่วง ๗-๘ วันที่ผ่านมารบกับเณรทุกวัน บางทีพ่อแม่เขามาดู
เห็นลูกโดนตีต่อหน้าต่อตา อาตมาระบุเอาไว้ชัดแล้วว่า
อะไรทำได้..อะไรทำไม่ได้ ถ้าทำผิดครั้งที่ ๑ โดนตีหนึ่งที ครั้งที่ ๒ สองที
บวกไปเรื่อยๆ

การลงโทษเด็ก..ถ้าเขา
รู้ว่าเขาทำผิด เขาจะรับได้ แต่ถ้าอยู่ๆ แล้วไปตี เขาจะดื้อ
เราต้องแจ้งกติกาก่อน เขาจึงรับได้ โบราณเขาพูดถูกที่บอกว่า รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี ถ้าพูดไม่รู้เรื่องต้องตี จึงจะสามารถทำลิงทำค่างให้กลายเป็นเณรได้

ตั้งแต่
กระทรวงมีคำสั่งให้เด็กนักเรียนที่สอบตกให้ซ่อมได้ กับไม่ให้ตีเด็ก
รู้สึกว่าความประพฤติเด็กแย่มากขึ้นทุกที ถ้าไม่ตีเดี๋ยวเด็กออกไปเป็นโจร
สมัยนี้ถึงได้ออกไปเป็นเด็กแว้นกัน

ถ้าบวชชีที่นี่แล้วจะรู้ว่าแม่ชีวัดท่าขนุนก็โดนตี ชีโหล่
โดนอาตมาตีแล้วต้องนอนคว่ำเป็นอาทิตย์ เพราะก้นแตกเป็นทางยาว
นอนหงายไม่ได้ ตีให้เขารู้เพราะตกลงกันแล้วว่าทำอะไรผิด ทำอะไรไม่ผิด
แล้วยังฝืนอีกก็แปลว่าสมควรโดน

พวกนี้เขารักกันมากเลยนะ มีอยู่คนหนึ่งโดนตี ๑๓ ที เขาช่วยกันรับคนละที ปรากฏว่าก้นแตกไปตามๆ กัน"

"แม่
ชีคนนั้นเขาไม่รู้ว่าเขาผิด อาตมาก็บอกว่า สิ่งไหนที่เคยเตือนแล้ว
ห้ามแล้วยังทำอีก ก็แสดงว่าเป็นคนที่ไม่รู้จักดีไม่รู้จักชั่ว
คนประเภทนี้สมควรโดนตีกี่ที ? เขาบอกว่า ๑๒ ที
เขาไม่รู้ว่ากำลังตัดสินตัวเอง พอตัดสินเสร็จอาตมาบอกว่าหันก้นมาแล้วตีเลย

สาเหตุที่ตีเพราะเขาหนีไปคุยกับเณรในป่าช้าเวลากลางคืน ถ้าไม่ตัดไฟแต่ต้นลมไว้ก่อนเดี๋ยวบรรลัยหมด
คราวนี้พอพรรคพวกเห็นว่าโดน ก็เลยช่วยกันรับไปคนละทีสองที
นั่นแหละ...ชีโหล่รับแทนไปทีหนึ่ง นอนคว่ำไปเป็นอาทิตย์เลย นอนหงายไม่ได้
ก้นแตกเป็นทางยาว อาตมามือหนักเกินชาวบ้านเขา...

เด็กวัดรุ่นนั้นโดน
ตีทุกวัน บางคนโดนตีเป็นสิบที เขาก็รับได้เพราะเขารู้ว่าเขาผิด
พออาตมาไปรับสังฆทานที่กรุงเทพฯ อยู่พักเดียว กลับไปเด็กวัดหายหมด..!
สอบถามถึงได้รู้ว่า อาจารย์สมพงษ์ตี ๖ ที เด็กหนีเลย

เวลา
เด็กทำผิด อาจารย์สมพงษ์ท่านจะปล่อยไปเรื่อย
ปล่อยจนตัวเองทนไม่ไหวแล้วไปตีระบายอารมณ์ทีเดียว
เด็กเขารู้ว่าเขาไม่ได้ผิดขนาดนั้น ไปตีระบายอารมณ์นี่เขารับไม่ได้
เขาจึงหนีกลับบ้าน ส่วนอาตมาตีมากกว่าเป็นเท่าเขาไม่หนี

บางทีโยมมาใส่บาตรเห็นเด็กวัดเดินน่องลายพร้อย "โห..หลวงพ่อ ตีมันขนาดนี้เลยหรือ ?" อาตมาบอกว่า "ตีมันตอนนี้ ดีกว่าปล่อยให้มันโตแล้วกลายเป็นโจร..!"

อาตมา
ให้โอกาสเขามากเลย บอกว่า ๑. ถ้าข้าไม่เห็นเอง
๒.ถ้าไม่มีคนฟ้องแล้วเป็นพยาน เอ็งจะทำอะไรก็ทำไปเถอะ
แต่ถ้าข้าเห็นต่อหน้าต่อตา..โดน..!
หรือถ้ามีคนฟ้องแล้วเป็นพยาน..เอ็งโดน..! บางทีตีไปเด็กก็บ่นพรรคพวกไป "ไอ้ห่..เอ๊ย..ทำไมต้องให้หลวงพ่อรู้ด้วยวะ" นั่นเขาตัดพ้อต่อว่ากันเอง"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น