""
พระพุทธองค์ทรงสอนเราว่า มนุษย์เป็นสัตว์ที่ฝึกได้ ต่างจากสัตว์เดรัจฉานหรือสัตว์ในภพภูมิอื่น ความประเสริฐของมนุษย์อยู่ตรงนี้ เช่น สมมติว่าแมวชอบจับหนูกิน เราจะไปสอนแมวให้เลิกทำอย่างนี้ ให้รักษาศีลห้า ถึงแมวจะเข้าใจความหมายของเรา มันก็ทำไม่ได้ เพราะสัตว์เดรัจฉานเป็นทาสของสัญชาตญาณ ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามสัญชาตญาณหมด เรียกว่า กรรมเก่าก็ได้
แต่มนุษย์เรามีลักษณะพิเศษตรงที่ว่า ถึงจะมีสัญชาตญาณป้องกันตัว สัญชาติญาณทางเพศ ฯลฯ แต่ในขณะเดียวกันเรายังมีความสามารถที่จะอยู่เหนือสัญชาติญาณเหล่านั้นได้ หรือพูดอีกนัยหนึ่ง เราอยู่เหนือดวงได้
เรามีศักยภาพในการใช้สติปัญญาพิจารณาว่าอะไรควร ไม่ควร เมื่อเราเห็นว่าอะไรควรไม่ควร เรายังสามารถยับยั้งชั่งใจไม่ทำในสิ่งเหล่านั้น หรือเห็นสิ่งที่ดีที่ควร เราก็สามารถกระทำในสิ่งนั้น ทั้ง ๆ ที่อาจต้องยากลำบากหรือทรมานใจ นี่คือความอัศจรรย์ในชีวิตมนุษย์ที่เรามักมองข้าม
เมื่อเราเชื่อมั่นว่ามีศักยภาพเช่นนี้ เชื่อว่าการเกิดเป็นมนุษย์เป็นโอกาสทองที่จะพัฒนาตัวเองให้พ้นจากความทุกข์ ให้พ้นจากกิเลสความเศร้าหมอง ให้เจริญด้วยปัญญา ความเมตตากรุณา และความเป็นอิสระแล้ว เราก็จะมีความรู้สึกว่าต้องทำ ไม่ทำไม่ได้
ชยสาโรภิกขุ
เทศกาลเจริญสติ
23 ธันวาคม จนถึงปีใหม่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น