++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

อกุศลกรรม เจ้ากรรมนายเวร และการแก้ไข

กรรมคือการกระทำ ทั้งทางกาย วาจา ใจ มีสามชนิดคือ กรรมชั่ว กรรมดี และกรรมที่เป็นกลางๆ

กฏแห่งกรรม

1 ทำกรรมดี(กุศลกรรม)ให้ผลดีภายหลัง ทำกรรมชั่ว(อกุศลกรรม)ให้ผลดีภายหลัง

2 คนทั่วไปไม่อาจรู้เวลาและรูปแบบการให้ผลของกรรม

3 เมื่อก่อกรรมแล้วลบล้างไม่ได้ ทำกรรมดีจะลบล้างกรรมชั่วไม่ได้

เจ้ากรรมนายเวร คือผู้ที่ถูกเรากระทำกรรมชั่วในอดีต แล้วจิตมีความอาฆาต พยาบาท จองเวรกัน เมื่ออยู่ในช่วงเวลาและสภาวะที่เหมาะสม ก็จะกระทำการแก้แค้น เอาคืนที่ได้ถูกกระทำไว้

เจ้ากรรมนายเวรนี้จะมีสิทธิ์พิเศษในการแก้แค้น เช่น เราเป็นคนมีฝีมือในการต่อสู้ แต่เมื่อสู้กับเจ้ากรรมนายเวร ที่แม้จะมีฝีมือน้อยกว่าเรา แต่กลับสามารถทำร้ายเราได้สำเร็จ เช่นนี้เป็นเพราะสิทธิ์ในการเป็นเจ้ากรรมนายเวรนั้น จะทำให้ผลกรรมชั่วที่เราทำเขาไว้ในอดีตให้ผลในเวลานั้น จนทำให้เราพ่ายแพ้และถูกทำร้าย

อีกตัวอย่าง ในอดีตเป็นชายไปหลอกลวงหญิงแล้วทอดทิ้ง ปัจจุบันเกิดเป็นหญิงที่มีใจคอหนักแน่นรักคนยาก จะรักชอบใครก็ดูเหตุผลความเหมาะสม แต่เมื่อพบกับเจ้ากรรมนายเวรที่มาเกิดเป็นชาย แม้จะไม่เหมาะสมเพียงใด แต่เมื่อได้พบหน้า ผลกรรมก็ส่งผลให้ตกหลุมรักเจ้ากรรมนายเวรของตน นี่เป็นการให้ผลของอกุศลกรรม เพื่อที่ภายหน้าจะต้องเสียใจที่ถูกท้อดทิ้งเช่นเดียวกับที่ได้กระทำเขาไว้

การจองเวรนี้เป็นคนละส่วนกับการให้ผลของอกุศลกรรม แต่มักเสริมให้การให้ผลของอกุศลกรรมรุนแรงขึ้น แต่การแก้แค้นของเจ้ากรรมนายเวรนี้ เป็นการสร้างกรรมใหม่ด้วย เมื่อการกระทำสำเร็จตัวเจ้ากรรมนายเวรนั้นก็ได้รับอกุศลกรรมที่ตนได้ทำต่อไป และจะเปลี่ยนสถานะกัน ผู้ถูกกระทำก็กลับเป็นเจ้ากรรมนายเวร ซึ่งหากทั้งสองฝ่ายมีจิตอาฆาต พยาบาท ไม่รู้จักการอโหสิกรรม ก็จะเกิดการจองเวรกันไปมาจนหาที่สุดไม่ได้

อโหสิกรรม มีสองความหมาย คือการให้อภัย ไม่อาฆาตจองเวรเมื่อถูกผู้อื่นกระทำ อีกความหมายคือกรรมที่ไม่อาจให้ผลได้ตามกำหนด จะด้วยสาเหตุใดก็ตาม เมื่อเลยกำหนดก็ถือเป็นโมฆะ เป็นอโหสิกรรม (ในที่นี้ไม่ขออธิบายโดยละเอียดเพราะยาวมาก)

การแก้ไข (การแก้กรรม) กรรมนั้นแม้จะลบล้างไม่ได้ แต่พอมีทางบรรเทาปัญหาได้ดังนี้

1 การแก้กรรมโดยสมบรูณ์แบบ ทำได้ทางเดียว คือ ปฎิบัติตามแนวทางของพระพุทธองค์ จนจิตหลุดพ้นจากกิเลส เป็นพระอริยะบุคคล จะแก้กรรมได้ดังนี้

เมื่อเป็นพระอริยะบุคคลตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไป กรรมหนักที่ส่งผลให้ไปเกิดใน อบายภูมิสี่ สัตว์นรก๑ เปรต๑ อสุรกาย๑ สัตว์เดรัจฉาน๑ จะไม่ให้ผล(เป็นอโหสิกรรม)ทันที แต่เมื่อมีกายเนื้อ (ยังเป็นคนที่มีชีวิต) กรรมที่ให้ผลกับกายยังส่งผลอยู่ คือ จะยังป่วย ของหาย โดนนินทา ถูกกล่าวร้าย เป็นต้น

แต่เมื่อถึงความเป็นพระอรหันต์และทิ้งกายเนื้อแล้ว กรรมทั้งหมดเป็นอโหสิกรรมทันที

2 การแก้กรรมที่ไม่มีเจ้ากรรรมนายเวร ไม่ว่าจะเป็นเพราะผู้ถูกกระทำให้อภัยเป็นอโหสิกรรม หรือเจ้ากรรมนายเวรไม่อยู้ในสภาวะที่ไม่อาจทวงคืนได้ เช่นกำลังตกนรก เป็นอรูปพรหม หรือเกิดคนละสถานที่ไม่มีโอกาสพบเจอกัน เป็นต้น กรณีนี้เราลบล้างอกุศลกรรมไม่ได้ ทำได้เพียงบรรเทาด้วยการทำบุญ เพื่อให้กรรมนั้นให้ผลเบาลง

เปรียบอกุศลกรรมเป็นยาพิษ บุญก็เปรียบเหมือนน้ำ หากน้ำน้อยยาพิษย่อมจะให้ผลแรง แต่เมื่อมีน้ำมากขึ้นยาพิษมีจำนวนเท่าเดิม เท่ากับพิษย่อมจางลง ตัวอย่างกรรมจากปาณาฯ หากไม่มีบุญมากพออาจส่งผลให้ถึงตายก่อนเวลา หรือพิการ แต่หากบุญมากพออาจส่งผลเพียงทำให้ป่วยหลายๆครั้ง แต่เมื่อหายก็มีร่างกายเป็นปรกติ

บุญนั้นต้องทำสามประการจึงจะให้ผลดี สามประการนั้นคือ ให้ทาน๑ รักษาศีล๑ บำเพ็ญภาวนากรรมฐาน๑ ทั้งสามนั้นหากให้ดีที่สุดต้องทำสม่ำเสมอทุกวัน ทำทานแต่ละครั้งไม่ต้องมากแต่ทำบ่อยๆ และคิดว่าจะหาโอกาสทำบุญอยู่เสมอ ศีลนั้นต้องเพียรรักษาให้ได้ขั้นต่ำศีล5 ให้ได้ตลอดเวลา กรรมฐานก็ควรทำให้บ่อยที่สุดทำได้ทุกวันยิ่งดี และไม่ใช่แต่การเจริญสมาธิเท่านั้น การเจริญสติทั้งวันก็ต้องทำด้วย

บุญอื่นๆในบุญกิริยาวัตถุ 10 สามารถทำได้ทั้งสิ้นแต่สามข้อด้านบนนี้เป็นขั้นต่ำ

3 การแก้กรรมที่มีเจ้ากรรรมนายเวร การแก้กรรมกรณีนี้ ทำได้โดยการทำบุญเหมือนข้อต้น แต่ให้เพิ่มการอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร และขออโหสิกรรมต่อกันด้วยความจริงใจ และต้องไม่สร้างกรรมใหม่ที่คล้ายเดิมอย่างเด็ดขาด เช่นขออโหสิกรรมเจ้ากรรมนายเวรที่เราละเมิดศลีข้อกาเมฯ ปัจจุบันก็ห้ามละเมิดข้อกาเมฯ

กรณีนี้ผู้ที่ทำกรรมฐานจนได้มโนมยิทธิหรือทิพย์จักขุญาณ จะได้เปรียบหน่อยเพราะเห็นและเจรจากับเจ้ากรรมนายเวรที่ไม่มีกายเนื้อได้โดยตรง เขาขอให้ทำอะไรก็รู้ได้ทำไดถูกใจเขา(แต่หากเขาแกล้งของสิ่งที่ละเมิดศีล5 ก็อย่าได้ทำ) การอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรก็ทำได้ถูกตัว การให้อโหสิกรรมก็ง่ายกว่าคนทั่วไปเล็กน้อย

แต่หากเจ้ากรรมนายเวรมาเกิดมีกายเนื้อเหมือนกัน กรณีนี้ยากที่สุดเพราะอุทิศส่วนกุศลให้เขาอนุโมทนาโดยตรงไม่ได้ ด้วยจิตของเขาถูกขวางกันจากกายจนไม่อาจไม่รับรู้การอุทิศบุญของเราได้

อีกทั้งการเกิดของเจ้ากรรมนายเวรนี้มีหลายสภาวะ แต่ที่โหดร้ายกับทั้งเราและเขามีบางกรณี คือ เกิดเป็นครู1 เกิดเป็นคู่รัก คู่ครอง1 เกิดเป็นญาติพี่น้อง1 เกิดเป็นบิดา มารดา1 ร้ายที่สุดคือเกิดเป็นบุตร

การแก้ไขกรณีนี้ทำได้ยากมาก เพราะนอกจากเขาจะมีกายเนื้อที่ยากต่อการอุทิศส่วนกุศลให้เขาแล้วเขายังต้องมีจิตอาฆาตรุนแรงมากและมักเป็นคนไม่สนเรื่องบาปกรรม จนยอมมาเกิดในฐานะที่เมื่อแก้แค้นสำเร็จ จะเกิดอกุศลกรรมใหม่ที่หนักมาก (โดยเฉพาะที่เกิดเป็นลูกนี่หนักยิ่งยวดจริงๆ)

หนทางบรรเทาการจองเวรของเจ้ากรรมนายเวรที่มีกายเนื้อนั้นให้ใช้การบำเพ็ญบุญ 3 ประการเช่นกัน แต่จะต้องทำอย่างเข้มข้น จริงจังกว่าสองข้อต้น

การทำทาน ต้องเป็นทานใหญ่ (สังฆทาน วิหารทาน) ทำด้วยจิตบริสุทธิ วัตถุที่ถวายต้องได้มาโดยบริสุทธิ

การรักษาศีลต้องบริสุทธิ ควรถือศีลแปดเป็นบางกาล

การทำกรรมฐาน ต้องปฏิบัติจริงจัง ต้องให้ไดัอัปนาสมาธิ (ปฐมฌาน
ถึงฌานสี่)

กรรมฐานที่เหมาะสมต้องเป็นกรรมฐานที่เพิ่มพลังจิต คือ กสิณ หรือ พุทธานุสสติแบบกำหนดภาพพระพุทธเจ้า(พระพุทธรูป) ทั้งสิบเอ็ดกองให้เลือกกองใดกองหนึ่ง ทำคู่กับอานาปานสติกรรมฐาน

การทำกรรมฐานทุกครั้งให้สงบถึงอัปนาสมาธิ เมื่อสงบแล้วระยะหนึ่งแล้ว ให้ถอยมาที่อุปจารสมาธิ แล้วกำหนดรูปเจ้ากรรมนายเวรท่านนั้นให้ปรากฎขึ้นตรงหน้า จากนั้นให้กำหนดอุทิศส่วนกุศล และขอขมาขออโหสิกรรมต่อกัน เป็นกระแสจิตให้เจ้ากรรมนายเวรโดยตรงในขณะจิตเป็นอุปจารสมาธิ

เพียรทำเช่นนี้เนืองๆ ระหว่างที่ยังไม่สำเร็จให้ ใช้ความอดทนอดกลั้นไม่ตอบโต้ เพียรรักษาจิตให้ผ่องใส ไม่เศร้าหมองไปกับการกระทำของเจ้ากรรมนายเวร ใช้กสินสมาธิมาเจริญสติตลอดเวลา เพื่อรักษาจิต

หากปฏิบัติกสิณกรรมฐานถึงฌานสี่ ให้ทำพรหมวิหารสี่กองเมตตาหรือกรุณาก็ได้เพียงกองเดียว การทำพรหมวิหารกรรมฐานต่อจากกสิณจะเป็นปัจจัยให้ได้ฌานในพรหมวิหารสี่ เมื่อได้ฌานแล้วก็ถอยจิตมาที่อุปจารสมาธิ แล้วแผ่เมตตา กรุณาให้เจ้ากรรมนายเวร จะได้ผลเร็วขึ้น

แต่หากเจ้ากรรมนายเวรเป็นคู่รักให้ทำอุเบกขาก็ได้ เมื่ออุปเบกขาถึงฌาน ให้ถอยจิตมาที่อุปจารสมาธิเหมือนกัน แต่ให้ตัดกระแสความรัก ความผูกพันธ์ ให้ขาดจากกันให้จงได้

เพียรทำเช่นนี้ หากทำได้ตามที่แนะนำ ไม่นานผลดีจะปรากฏให้เห็นแน่นอน

ข้อเขียนนี้เกิดจากหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ความดีหากเกิดแก่ท่านใด ก็ให้ทราบว่าเป็นเพราะบารมีหลวงพ่อฤาษีฯ และพระพุทธองค์เป็นที่สุด แต่ข้อบกพร่องผิดพลาดเป็นของข้าพเจ้า โปรดเมตตาให้อภัยด้วยเถิด
จบครับ ลุงจิ้ง
18เม.ย.54 ขึ้น15ค่ำ เดือน5
Sent from my iPhone

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น