++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันเสาร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ปัญหาชายแดน ไทย – กัมพูชา


เมื่อวันที่ 8 ต.ค. 52 ที่โรงเรียนศิลปะมวยไทยหนองกี่พหุยุทธ์ อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ สภาประชาชน 4 ภาคโดยสภาเครือประชาชนอีสาน ( ส.อ.ส. ) ได้จัดสัมมนากรณีปัญหา ตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชาขึ้น โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 150 คน จาก 13 จังหวัด ในภาคอีสาน และภาคตะวันออก

ช่วงเช้าเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูล สถนการณ์ ทั้งที่เป็นข้อมูลของทางรัฐบาล ที่ล่าสุดยังยืนยันว่าประเทศไทยยังไม่เสียดินแดนแม่แต่ตารางนิ้วเดียว ทั้งจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเอง ก็ยืนยันในลักษณะเดียวกัน โยมีข้อมูลของอาจารย์ปราโมทย์ หอยมุก ได้นำเสนอข้อมูลของนักวิชาการและข้อมูลของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

โดยเฉพาะการชี้หลักเขตแดน ไทยกัมพูชา ที่สันเขื่อนห้วยเมฆา ต.บึงเจริญ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์  ประกอบกับภาพถ่ายทางอากาศเปรียบเทียบ ระหว่างปี 2549 กับปี 2552 ที่นายวีรพล โสภา ได้นำมาเปิดเผยชี้ให้เห็นว่าเขื่อนห้วยเมฆา ได้หายไปจากแผนที่ได้อย่างไร ซึ่งเห็นสอดคล้องกับชาวบ้านที่อยู่ตลอดแนวชายแดนว่าปัจจุบันคนกัมพูชาได้รุกเข้ามาชิดชายแดนไทยมากขึ้น หลักเขตเดิมที่เคยพบ ก็๔กรุกเข้ามาจริงในพื้นที่ ซึ้งมีทั้งอดีตตำรวจตระเวนชายแดน และทหารพราน ที่เคยราดตะเวนหรือประจำการอยู่เขตนั้น ๆ มาให้ข้อมูล โดยเฉพาะที่ภุมะเขือ ต.เสาธงชัย อ. กัณทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ

"นับแต่คำเชิญชวนคนไม่มีที่ดินทำกินของสภาประชาชน 4 ภาค ออกไปเมื่อวันที่ 15 กันยายน ที่ผ่านมาทีวัดอาตมา ได้มีญาติโยมจากทั่วสารทิศ หลั่งไหลกันมาแสดงเจตจำนงเข้าร่วมแล้วกว่า 20000 คน " พระอาจารย์พนม ศีลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดป่าเขาโต๊ะ อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ที่ร่วมเป็นวิทยากร กล่าว แสดงให้เห็นว่า

1.ประชาชนคนไทยเดือดร้อนเรื่องที่ดินทำกินจริง

2.เชื่อถือข้อมูลทางพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยว่าเป็นจริงเพราะสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์ที่ชาวบ้านในพื้นที่พบเจอได้ด้วยตนเอง

ท่านอาจารย์เพิ่มเติม

ช่วงบ่ายเป็นการกำหนดยุทธศาสตร์ ยุทธวิธีซึ่งที่ประชาชนได้เห็นตรงกันว่า ต้อง "ทวงคืนแผ่นดิน" เพราะมูลมันชี้ไปว่าประเทศไทยได้พลาดท่าทางการเมืองและการทหารให้แก่ สมเด็จฮุนเซน แล้วการสูญเสียดินแดนตลอดแนวชายแดน 1800000 ไร่ น่าจะเป็นจริง

ส่วนยุทธวิธีที่นำเสนอกันส่วนใหญ่เห็นด้วยกับข้อเสนอสภาประชาชน 4 ภาค คือ "รวมคนไว้ที่ชายแดน" สร้างป่าล้อมเมืองหรือสร้างที่ดินทำกินและสร้างชุมชนขึ้นตลอดแนวชายแดน 700 กว่ากิโลเมตร ส่วนไหนที่มีสภาพป่าหนาแน่นหรือเขตต้นน้ำ ให้อนุรักษ์ไว้ส่วนไหนที่เป็นที่โล่งหรือป่าเสื่อมโทรมแล้วให้พี่น้องเข้าทำกินและสร้างชุมชน" พวกเราจะยึดพื้นที่คืนด้วยอาวุธประจำกายของชาวไร่ชาวนา คือ มีด พร้า จอบ เสียม และคันไถ" นายวีรพล กล่าว

มีการแบ่งงานเป็น 2 ลักษณะใหญ่ ๆ คือ งานระดับนโยบาย / วิชาการ มอบหมายให้อาจารย์ปราโมทย์ หอยมุก และนายวีรพล โสภา รับผิดชอบ และงานในระดับพื้นที่มีนายประภาส โงกสูงเนิน ประธาน ส-ประชาชน 4 ภาคและคณะกรรมการ รับผิดชอบ

มีแผนงานเฉพาะหน้า 3 เรื่องคือ 1. แสวงหาข้อเท็จจริงในกรณีนี้ 2 . ระงับการพัฒนาในพื้นที่รอบปราสาทพระวิหารร่วม 3. เตรียมคนเข้าพื้นที่ตลอดแนวชายอแดน


ช่วงเวลาดำเนินการ / กิจกรรมเฉพาะหน้า

1. ติวเข้มแกนนำจังหวัดละ 5 คน ยกเว้นจังหวัดแนวชายแดน ให้อำเภอละ 1 คน ภายใน 1 อาทิตย์นี้

2. เข้าพบแม่ทัพภาค 2 ที่จังหวัดนครราชสีมา โดยตัวแทนสภาประชาชน 4 ภาค 1000 คน ภายใน 15 จากนี้

3.  เปิดศูนย์ประสานงานตามยุทธศาสตร์ " ทวงคืนแผ่นดินแม่ที่ อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ภายในต้นเดือน พฤศจิกายน 52 นี้"


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น