++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันจันทร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ทดลองวัคซีนหวัด 09 ในคนเลื่อนยาว เหตุเชื้อไวรัสไม่เสถียร

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 ตุลาคม 2552 18:01 น.
นพ.วิชัย โชควิวัฒน

อภ.เผยเลื่อนการ ทดลองวัคซีนหวัด 2009 ในคนออกไปอีกไม่มีกำหนด
หลังพบวัคซีนที่เก็บไว้เกิดปัญหาเชื้อไวรัสไม่เสถียร มีการเปลี่ยนแปลง
ปริมาณเชื้อไวรัสลดลง คาดว่า จะเริ่มการทดลองในคนได้เดือน
พ.ย.หวังผลิตวัคซีนสำเร็จในเดือน ม.ค.2553

วันที่ 4 ตุลาคม นพ.วิชัย โชควิวัฒน ประธานบอร์ดองค์การเภสัชกรรม
(อภ.) เปิดเผยว่า ได้เลื่อนการทดลองวัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
ในคนออกไปแบบไม่มีกำหนด
หลังจากตรวจสอบพบว่าปริมาณเชื้อไวรัสในวัคซีนที่ต้องการให้ไปกระตุ้นภูมิ
คุ้มกันในร่างกายไม่เสถียร เกิดการเปลี่ยนแปลงและปริมาณเชื้อไวรัสลดลง
ทั้งนี้ เชื่อว่า สาเหตุที่ปริมาณไวรัสในวัคซีนไม่เสถียร
มาจากการเก็บในอุณหภูมิที่ไม่เหมาะสม โดยวัคซีนที่เตรียมทดลองในคน
ในวันที่ 9 ตุลาคม เก็บไว้ที่อุณหภูมิที่ -20 องศาเซลเซียส
แต่ปริมาณวัคซีนที่เก็บไว้และปริมาณเชื้อไวรัสไม่เปลี่ยนแปลงที่ -80
องศาเซลเซียส อย่างไรก็ตาม ความผิดพลาดที่เกิดขึ้น
ได้มีการหารือกับเจ้าหน้าที่ขององค์การอนามัยโลก
เจ้าหน้าที่จากประเทศรัสเซีย และทีมที่ปรึกษาในการผลิตวัคซีนแล้ว
โดยเตรียมเริ่มการทดลองวัคซีนใหม่ และจัดเก็บในอุณหภูมิที่เหมาะสม

นพ.วิชัย กล่าวว่า
ประสบการณ์การทดลองวัคซีนมีการเรียนรู้และเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
ซึ่งได้ความรู้เรื่องการเพาะเชื้อในไข่ไก่ และการเก็บเกี่ยวปริมาณไวรัส
รวมถึงการเก็บรักษาเพื่อประสิทธิภาพของวัคซีน
การเริ่มการทดลองวัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
คงไม่ต้องเริ่มทำใหม่ทั้งหมด
เนื่องจากมีปริมาณวัคซีนบางส่วนได้เก็บไว้ในอุณหภูมิที่เหมาะสม
แต่ก็ต้องมีการผลิตวัคซีนเพิ่ม
และเริ่มการทดลองความเป็นพิษและความปลอดภัยใหม่ คาดว่า
การทดลองวัคซีนจะทราบว่าวัคซีนมีความเสถียรหรือไม่ ในปลายเดือนตุลาคม
2552 เดือนพฤศจิกายนจะเริ่มทดลอง
และสามารถผลิตเป็นวัคซีนได้ในประมาณต้นเดือนมกราคม 2553

นพ.วิชัย กล่าวว่า
สาเหตุที่การทดลองวัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ของไทย
และรัสเซียแตกต่างกัน เนื่องจากการทดลองวัคซีนของไทย
เป็นการทดลองครั้งแรก และต้องทำในเวลารวดเร็ว จึงทำในรูปแบบของวัคซีน
แต่การทดลองในรัสเซียทำให้วัคซีนเป็นชนิดผง จากนั้นค่อนนำไปละลายน้ำ
และใช้พ่นเข้าร่างกาย อีกทั้งมีประสบการณ์ในการทดลองจึงไม่มีปัญหา
พร้อมยืนยันการทดลองวัคซีนที่ผ่านมามีความปลอดภัย
เหลือเพียงผลการทดลองเรื่องการกระตุ้นภูมิคุ้มกันเท่านั้น
http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9520000116920

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น