++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันเสาร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

ชำระล้างความโสโครกของสภาผู้แทนราษฎรเดี๋ยวนี้

โดย ปราโมทย์ นาครทรรพ


ผมตั้งใจจะเขียนที่ซ่อนไว้ประเด็นที่ 3 แต่ดูมันจะขัดข้องไปเสียหมด
ถึงกรุงเทพฯ ก็มีนัดสำคัญทันที เป็นสื่อฝรั่ง เพื่อนเก่าพลเอกสายหยุด
เกิดผล ชื่อ John Thomson เขารักเมืองไทย รู้ไส้รู้พุงทักษิณ
และสื่อฝรั่งดี

เขาอยากจะสัมภาษณ์นายกฯ อภิสิทธิ์ ลง Washington Times กับ
National Review แต่ติดต่อยากเย็นเหลือเกิน ตั้งกว่า 3 อาทิตย์
จวนจะถึงวันกลับอยู่แล้ว ทำเนียบยังไม่ตอบ
ไม่รู้ว่าไม่สนใจหรือทำงานไม่เป็น

ที่เสียใจสุดซึ้ง คือ ข่าวการจากไปของศาสตราจารย์ ดร.นิพนธ์
ศศิธร อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ สมัยคึกฤทธิ์เป็นนายกฯ
อ.นิพนธ์เป็นเลขาธิการพรรคการเมืองใหญ่ที่สุดใน (2517-18)
เป็นผู้ตั้งชื่อพรรคธรรมสังคม ที่ผมชอบชื่อนี้มาก
บังเอิญหัวหน้าที่เป็นนายทุนพรรคคือ ทวิช กลิ่นประทุม สอบตก
และไม่มีอะไรทัดเทียมอาจารย์นิพนธ์นอกจากเงิน
พรรคจึงต้องยอมให้อาจารย์คึกฤทธิ์เป็นนายกฯ ทั้งๆ ที่พรรคกิจสังคมมีแค่
18 ที่นั่ง ไม่มีหมาที่ไหนประท้วงว่าไม่เป็นประชาธิปไตย
ตำรวจเด็กชื่อทักษิณมานั่งเป็นหน้าห้องของปรีดา พัฒนถาบุตร
รมต.ประจำสำนักนายกฯ ของพรรคกิจสังคม เจ้าตำรับ "เงินผัน" ในยุคนี้เอง

พวกเรายุติบทบาททางการเมือง และจากไปก่อน 2 คน คือ ดร.บุญสนอง
บุณโยทยาน เลขาธิการพรรคสังคมนิยมแห่งประเทศไทย กับดำรง ลัทธพิพัฒน์
เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ อาจารย์นิพนธ์ถามผมว่า เอ๊ะ! พวกเรา 4 คน
ล้วนศิษย์เก่ารัฐศาสตร์ด้วยกัน แถมรักและสนิทกันแท้ๆ
ผมก็เป็นเลขาธิการพรรคพลังใหม่ ทำไมเรา 4 คนจึงไม่คิดตั้งรัฐบาลด้วยกัน 4
พรรคเสียงก็เหลือพอแล้ว

จริงเสียด้วย อาจารย์นิพนธ์เลยอดเป็นนายกรัฐมนตรี
ไม่งั้นการเมืองไทยอาจไปโลดแล้ว ไม่จมปลักอยู่อย่างนี้

แต่ในชีวิตจริง อาจารย์เป็นรัฐมนตรีได้ปีเดียว คึกฤทธิ์ก็ยุบสภา
เพราะนับเลขผิด คิดว่าจะแพ้เสียง

พอเลือกตั้งใหม่ นายกฯ คึกฤทธิ์สอบตก เพราะไม่ยอมย้ายจากเขตดุสิต
ที่พล.อ.กฤษณ์ สีวะรา วางแผนจับตายไว้
เพื่อช่วยให้พรรคประชาธิปัตย์ได้จัดตั้งรัฐบาล
พล.อ.กฤษณ์ได้เป็นรัฐมนตรีกลาโหมไม่ถึงปีก็ถึงแก่อนิจกรรม
ประชาธิปัตย์ถูกรัฐมนตรีกลาโหมรับเชิญของตนเองคือพล.ร.อ.สงัด ชลออยู่
ยึดอำนาจในเหตุการณ์ 6 ตุลามหาโหด ประชาธิปไตยก็ล่มลงอีก

คึกฤทธิ์ปิดตำนานการเมืองน้ำเน่าไม่สำเร็จ
เพราะไม่เชื่อพรรคการเมืองน้ำดีที่สัญญาว่าจะยกมือให้ฟรีๆ
โดยไม่รับตำแหน่ง ทั้งๆ ที่พรรคพลังใหม่ก็ยกมือให้ประชาธิปัตย์ฟรีๆ
มาก่อนแล้ว1 ครั้ง อาจารย์คึกฤทธิ์กลับคิดมากว่า
พลังใหม่จะไปร่วมกับประชาธิปัตย์ล้มรัฐบาลซะอีก

แต่ความจริงพลังใหม่ไม่เห็นด้วยกับประชาธิปัตย์ที่กระสันจะล้มรัฐบาล
ทั้งๆ ที่กิจสังคมบริหารไปยังไม่ครบปี และไม่มีข้อผิดพลาดฉกรรจ์เรื่องใด

สมัยนายกฯ คึกฤทธิ์
กองทัพถล่มพลังใหม่กับพรรคสังคมนิยมจนผมจะเอาชีวิตไม่รอด
ดร.บุญสนองถูกลอบสังหารจับมือใครดมไม่ได้ทุกรัฐบาลจนหมดอายุความ

การเมืองไทยซึ่งพอจะมีความหวังหลัง 14 ตุลาคม 2516
ก็ล่มสลายลงในมือพรรคประชาธิปัตย์

ถ้าอาจารย์คึกฤทธิ์คำนวณไม่ผิด ไม่หลงยุบสภา หรือหงอทหารจนเกินไป
เมืองไทยอาจจะไม่เลวสุดๆ อย่างทุกวันนี้

ผมยกความหลังเรื่องทหาร และการยุบสภามาให้สติ
เพราะไม่อยากให้อภิสิทธิ์ตกหลุมประวัติศาสตร์อีก

นายกฯ อภิสิทธิ์จะอยู่ได้ครบเทอม
หากไม่เป็นเบี้ยล่างทหารและพรรคร่วมอย่างนี้ จะต้องกล้าหาญ หาทางออก
เพิ่มภาวะผู้นำ และความเข้มแข็งให้ตนเอง ด้วยการปฏิรูปการเมือง

นายกฯ เขียนเองมิใช่หรือว่า ปฏิรูปได้ทันทีโดยไม่ต้องรอแก้รัฐธรรมนูญเลย

ผมใบ้ให้ว่า ปฏิวัติประชาธิปไตยเลยก็ยังได้
โดยไม่ต้องละเมิดโครงสร้างและพฤติกรรมประชาธิปไตย
ด้วยการพึ่งพระราชอำนาจและพลังของปวงชนชาวไทยตามจารีตและหลักรัฐธรรมนูญ!

ฉบับที่แล้ว ผมพูดถึงการชำระล้างความโสโครกของสภาผู้แทนฯ ไม่ละเอียด

ปลื้มจริงๆ ครับ ผู้อ่านหลายท่านโพสต์มาเติมเต็ม คุณวิบูลย์
คุณคนผ่านทาง คุณทวิช ผมขอบคุณและเชิญให้มาช่วยกันเขียนเร็วๆ
ผมจะได้พักเสียที

นักการเมืองและนักวิชาการชอบอ้างว่าเราเหมือนอังกฤษ มาแล้วครับ
ตัวอย่างจากอังกฤษ

เรื่องการชำระล้างความโสโครกของสภา ที่เรากำลังพูดกันพอดี!

16 ก.พ. 49 ผมเขียน ทักษิณ แบลร์ : ใครจะไปก่อนกัน ทั้งๆ
ที่ได้รับเลือกสมัย 2 มาอย่างท่วมท้นด้วยกัน ผมไม่ได้เขียนอย่างหมอดู
ว่าวันเกิดทั้งคู่เลข 6 เป็นทั้งมรณะและกาลกิณี
ผมอาศัยหลักวิทยาศาสตร์และหลักอิทัปปจจยตาของพระพุทธเจ้าต่างหาก

ในที่สุดทักษิณก็ไปก่อนเกือบปี แต่แบลร์เขาไปสง่างาม
ไม่เผาบ้านเผาเมือง หรือใส่ร้ายประเทศเหมือนของเรา

แต่ผมไม่เคยคาดฝันเลยว่า ประธานสภาล่างหรือ House of Commons
ของอังกฤษจะไปก่อนโมเช่ ดา ชัย ชิดชอบ ของเรา

ก่อนเช้าวันพุธ ผมเปิดบีบีซี บนบัลลังก์ในสภาล่าง ณ
มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ ที่คับแคบกว่าสภาของเราเป็นไหนๆ
แต่ไม่มีวันจะย้ายไปที่อื่นชั่วกัลปาวสาน ประธาน Michael Martin
ลาออกต่อหน้าสมาชิกสภา

เขาประกาศสั้นๆว่า "I have always felt that the House is at its
best when it is united. In order that unity can be maintained, I have
decided that I will relinquish the office of speaker on Sunday, June
21. This will allow the House to proceed to elect a new Speaker on
Monday 22 June. That is all I have to say on this matter
ข้าพเจ้าคิดเสมอว่า สภานี้จะมีค่าที่สุดเมื่อมีเอกภาพ
เพื่อจะรักษาความสามัคคีให้ดำรงอยู่ ข้าพเจ้าตัดสินใจสละตำแหน่งประธาน
มีผลในวันอาทิตย์ที่ 21 มิถุนายน นี้ฯลฯ"

ทั้งนายกฯ บราวน์ หัวหน้าฝ่ายค้าน และคนอังกฤษ
สรรเสริญท่านประธานว่าจิตใจสูง เสียสละเห็นแก่สวัสดิภาพของสภา

วันที่ 22 มิถุนายน 2552 สภาจะเลือกประธานคนใหม่
ใครได้รับเลือกก็จะเป็นกลางอย่างเคร่งครัด เลิกสุงสิง
ไม่เข้าประชุมกับพรรค เมื่อสภาหมดอายุ ถึงเวลาเลือกตั้งผู้แทนใหม่
ก็จะไม่มีพรรคใดส่งผู้สมัครลงแข่งขันกับท่านประธานฯ สาธุ

ทั้งหมดนี้ เริ่มจากการกระทำเงียบๆ เล็กๆ
ของผู้สื่อข่าวสาวชาวอเมริกันชื่อ Heather Brooke
เมื่อเธอไปกรอกแบบฟอร์มขอดูรายจ่ายของสมาชิกสภาล่าง ตามFreedom of
Information Act
หรือพ.ร.บ.เสรีภาพในการรับรู้และหาข้อมูลซึ่งเพิ่งออกมาไม่นาน ของไทยก็มี
มีคณะกรรมการและสำนักงานอยู่ในทำเนียบ แต่หาผู้ใช้ไม่ค่อยจะได้
จึงไร้ประโยชน์อยู่

บัดนั้น ภูเขาน้ำแข็งก็เริ่มละลาย
มีการเปิดเผยค่าใช้จ่ายที่ไม่สมควร หมิ่นเหม่ต่อกฎหมายแต่ผิดจริยธรรมแน่ๆ
ของผู้แทนทุกพรรค นายกรัฐมนตรีบราวน์ รัฐมนตรี
รวมแนวหน้าของฝ่ายค้านก็ไม่เว้น เกิดลุกฮือขึ้นทุกฝ่าย
รวมทั้งข่าวเจาะใหม่ๆ ลามไปถึงท่านประธาน แต่ละพรรคมีการลงโทษและคาดโทษ
ส.ส.ของตนไปแล้ว ให้พ้นจากตำแหน่งบ้าง จะไม่ให้ลงสมัครในสมัยหน้าบ้าง ฯลฯ
(ที่ญี่ปุ่นเอง รัฐมนตรีคนหนึ่งก็เพิ่งลาออกไป
เพราะเอาตั๋วรถไฟด่วนตามสิทธิผู้แทนไปให้แฟนสาวใช้)

ผู้นำอังกฤษและสภาล่างเอง ประกาศอย่างกล้าหาญว่า
เวลาที่จะปฏิรูปและทำความสะอาดสภามาถึงแล้ว
ถึงจะช้าไปหน่อยก็ต้องเริ่มเสียตั้งแต่บัดนี้
และเขาก็มิได้ดีแต่ปากเหมือนอย่างเรา

สภาของเรามิใช่แค่เลอะเทอะแบบเขา
แต่สกปรกโสโครกน่าสะอิดสะเอียนยิ่งนัก ความสามัคคีไม่ต้องพูดถึง
แต่เอกภาพด้านจริยธรรมเสื่อมกลับบริบูรณ์

ไม่ว่าจะเป็นค่าเดินทาง ไมล์บินสะสมให้อีตัว การจ้างผู้ช่วย
พฤติกรรมกุ๊ยสิบแปดมงกุฎและโจรห้าร้อยในและนอกสภา
ผู้ดำรงตำแหน่งตั้งแต่ประธานลงมาขาดความสง่างาม ถูกฟ้องคดีอาญา
ต้องข้อกล่าวหา ถูกชี้มูล ประวิงคดีความ ฯลฯ

สื่อของเราหายไปไหน นักวิชาการของเราหายไปไหน
องค์การอิสระที่มีหน้าที่หายไปไหน การเมืองภาคประชาชนหายไปไหน พันธมิตรฯ
หายไปไหน จะตั้งพรรคก็ตั้งไป แต่อย่ามัวบ้าเรื่องเดียว
ช่วยกันตรวจสอบเดี๋ยวนี้

ผู้นำประเทศ นายกฯ อภิสิทธิ์ หัวหน้าพรรคต่างๆ พูดออกมาเดี๋ยวนี้

นักศึกษารัฐศาสตร์ นิติศาสตร์ นิเทศศาสตร์
รีบไปกรอกแบบฟอร์มที่ทำเนียบฯ และสำนักงานผู้ตรวจราชการแผ่นดิน
สื่อทุกประเภทติดตามเกาะและเจาะข่าวตั้งแต่บัดนี้

ช่วยกันชำระล้างสภาผู้แทนราษฎรอภิมหาโสโครกชุดนี้ เดี๋ยวนี้
ด้วยเถิด จะเป็นกุศลต่อบ้านเมืองหาที่สุดมิได้

http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9520000056995

ผมว่า ท่านอาจารย์น่าจะเป่าปี่ให้พวก...ควายหูหนวก..ฟังนะครับ
ถ้านักกินเมืองไทยมีความละอายในใจกันบ้าง บ้านเมืองมันคงไม่เละกันขนาดนี้
คุณธรรมของคนเป็นใหญ่ เป็นโตในบ้านเขามันสมค่า สมตำแหน่งครับ
ไม่ใช่ได้ดีเพราะเลีย เพราะทำชั่วประจบประแจง
นักการเมืองบ้านเขาที่ไม่ดีก็มี จับไม่ได้ไล่ไม่ทันก็แล้วไป จับได้ไล่ทัน
เขาก็ไม่เอาไว้ แต่ของเราเลว ๆ กลับเป็นดาวสภา ชาวบ้านชอบใจ
แถมในยุคนี้สภากลับกลายเป็นแหล่งรวมคนชั่ว เพราะชาวบ้านชอบโจรใจกว้าง
โกงแล้วเผื่อแผ่ และตอนนี้นายก ฯ ขวัญใจคนใหม่ก็กำลังจะตกหล่ม
ผมเคยได้ยินคนบอกว่า ท่านนายก ฯ นี่เป็นโอบาร์มาร์ค เทียบเท่า ๆ
โอบาร์ม่าที่อเมริกา
ที่คนอเมริกันเลือกเพราะจะเป็นผูุ้้นำในการเปลี่ยนแปลง และจะเห็นว่า
หลายอย่าง ๆ ท่านประธานาธิบดีก็ทำแล้วตามที่พูด (ยกเว้นเรื่องเดียวคือ
เรื่องเศรษฐกิจที่ผมว่า ยังจมอยู่ในวิธีการเดิม ๆ แต่ผมไม่ขอพูดในที่นี้)
แต่โอบาร์มาร์คผมยังไม่เห็นครับ บางคนอาจจะยกเรื่องที่ท่านเข้าประชุม
ครม. และจัดการเกี่ยวกับเรื่องค้า ๆ ขาย ๆ ก็เป็นสิ่งที่ดีครับ
แต่มันเป็นเรื่องที่ปลายเหตุครับ ต้องจัดการที่ต้นเหตุกันก่อน ถามว่า
ทำไมเรื่องอย่างนี้มันเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา
และทำไมถึงยังมีคนกล้าทำอย่างไม่เกรงกลัวความผิด

มี ผู้อ่านบางท่านบอกว่า ท่านนายก ฯ อภิสิทธิ์ท่านทำได้ดีที่สุดแล้ว
ในสภาพแวดล้อมอย่างนี้ คงต้องฝากให้ไปคิดละครับว่า
ขนาดสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่มันเ็ป็นเรื่องยาก
แต่มนุษย์ก็ยังแก้ไขให้มันดีได้
อย่างประเทศอิสราเอลพลิกฟื้นทะเลทรายให้เป็นโอเอซิส
แล้วสภาพแวดล้อมทางสังคม การเมืองที่มันเกิดมาจากน้ำมือมนุษย์
ทำไมจะทำไม่ได้ ประวัติศาสตร์ในโลกนี้มันก็ชี้ให้เห็นมามากมายแล้วว่า
ทำได้ แต่ต้องอาศัยคนที่ดีและกล้าหาญเท่านั้น
จึงจะสามารถจะเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมของสังคมไปในทิศทางที่ดีได้
คนดีอย่างเดียวหรือกล้าหาญอย่างเดียวจะไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางดีได้
ครับ ดีอย่างเดียวแต่ไม่กล้าก็เป็นหนังหน้าไฟให้พวกคนชั่วเท่านั้น
หรืออย่างที่ผ่านมาเจอคนชั่วที่กล้าหาญเข้า บ้านเมืองมันถึงจะหายนะ
และเมื่อท่านนายก ฯ คนใหม่ยังเที่ยวอ้างความเป็นประชาธิปไตย
แม้แต่เรื่องถูก-ผิด ชั่ัว-ดี
ที่มาตั้งคณะกรรมการปรองดองสมานฉันท์มาถกเถียงกันเรื่อง
นิรโทษกรรมนักกินเมือง การยุบพรรค การแก้ไข รธน. ต้องฟังคนอื่นมาบอกว่า
อะไรถูก อะไรผิด ก็น่าคิด ที่คนเขาบอกว่า ท่านมีวิสัยทัศน์ละครับ

ถ้า ท่านนายก ฯ ตั้งใจจะมาทำประโยชน์เพื่อชาติ
ก็ต้องลงมือในฐานะผู้นำประเทศ รู้ว่า้สภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความชั่ว
คนชั่ว ก็ต้องเข้ามาแก้ไขเปลี่ยนแปลงชะล้าง
ไม่ใช่มานั่งทำงานภายใต้สภาพแวดล้อมอย่างนี้
เขามีนายกรัฐมนตรีไว้ทำอะไรครับ ถ้าไอ้โน่นก็ไม่กล้าทำ
ไอ้นี่ก็ไม่กล้าแตะ อ้างความเป็นประชาธิปไตยต้องฟังคนโน้นก่อน คนนี้ก่อน
และยิ่งเป็นประชาธิปไตยแบบโจรเสียงข้างมาก มัวมานั่งฟังความเห็นโจร
แล้วเมื่อไรจะแก้ไขปัญหาให้ชาติ บ้านเมืองได้ละครับ ผมเองก็ชักสงสัยว่า
ที่ผมว่าท่านนายก ฯ ไม่กล้าหาญทำในสิ่งที่ถูกต้อง ทำผิด-ถูก ชั่ว-ดี
ในสังคมนี้ให้มันถูกต้องชัดเจน ให้สังคมเห็นว่า ทำดีได้ดี
ทำชั่วต้องได้ชั่ว อาจจะเป็นเพราะท่านยังแยกผิด-ถูก ชั่ว-ดี
ไม่ออกหรือเปล่า
คนผ่านทาง
++
ท่านทั้งหลายทราบไหมครับว่าทำไมเราจึงมีแต่
ส.ส.ผู้แทนน้ำเน่าเกือบทั้งสภา เพราะรากหญ้าทั้งหลายขายเสียง
ในขณะที่ชนชั้นกลางก็มีแต่บ่นด่า ว่าเบื่อหน่ายนักการเมืองที่ซื้อเสียง
เบื่อหน่ายรากหญ้าที่ขายเสียง
แล้วก็สร้างมิจฉาทิฐิในใจตนเองว่าไม่มีทางแก้ปัญหาการซื้อสิทธิขายเสียงได้
ตอนเลือกตั้งมีใครบ้างครับที่ลงพื้นที่ให้ความรู้กับพี่น้องประชาชนเรื่อง
การซื้อสิทธิขายเสียง ช่วยรณรงค์ต่อต้านการซื้อเสียงอย่างจริงจัง
ช่วยตรวจสอบการเลือกตั้งอย่างจริงจัง
เมื่อมีนักการเมืองน้ำดีที่เขามีความมุ่งมั่นตั้งใจจริงในพื้นที่ของคุณๆเคย
สนับสนุนอุ้มชูเขาไหมครับ เคยประคับประคองเขาตอนเขาแพ้เลือกตั้งไหมครับ
เคยให้กำลังใจเขาให้เขาสู้ต่อไปไหมครับ ส่วนใหญ่ผมเชื่อว่าพวกเราไม่เคยทำ
พวกเราคิดว่ามันเป็นหน้าที่ของ กกต. ของส่วนราชการ
ซึ่งโคตรอ่อนแอไร้ประสิทธิภาพสุดสุด
แล้วพรรคการเมืองที่เรามีทั้งหมดรวมทั้งประชาธิปัตย์ก็ไม่เคยลงทุนในการ
สร้างนักการเมืองน้ำดีเลย
ส่วนใหญ่จะแย่งชิงนักการเมืองที่มีฐานคะแนนเสียงดีๆ มีหัวคะแนนเยอะๆ
เป็นคนดีหรือไม่ มีความสามารถหรือไม่เขาไม่สนใจหรอกครับ
ผมเคยลงเลือกตั้งในสภาพการเมืองแบบนี้ครับซึ่งโดยส่วนใหญ่เมื่อสัมผัสความ
จริงแบบนี้ ถ้าไม่เลิกเล่นไปเลย
ก็จะเปลี่ยนวิธีหาเงินเยอะๆมาตั้งหัวคะแนนซื้อเสียงเเข่งกับส.ส.เก่า
แต่ผมยังคงเชื่อมั่นในความดีงามครับ
ผมยังเชื่อว่าการเมืองใหม่ที่ดีงามเกิดขึ้นในบ้านเมืองเราได้
เพียงแต่พวกเราต้องร่วมมือกันทำภารกิจที่ผมกล่าวไว้ข้างต้นอย่างจริงจังครับ
เพราะที่ผ่านมาพวกเรามีแต่บ่นแล้วก็เบื่อเท่านั้นครับ
พวกเรายังไม่ได้ทำอะไรอย่างจริงจังเลย
ทศพล พธม. เลย
++
จุดอ่อนของรัฐบาลอภิสิทธิ์ในสายตาของ UN และ นานาชาติ คือ
การบริหารของรัฐบาลยังไม่มีคุณภาพ
เพราะขาดระบบอันเป็นหลักประกันคุณภาพตามมาตรฐานสากล

หลักของภาวะผู้นำ(Leadership)
การปฏิรูปการบริหารหรือการปฏิรูปการเมืองต้องทำโดยผู้บริหารสูงสุด เช่น
นายกฯคนเดียวท่านั้น
และผู้นำต้องทำข้อผูกมัดรูปปณิธานเป็นสัญญาสังคม(Top Management Commitment)ด้วย
มีปณิธานว่าจะปฏิรูปการบริหารภาครัฐให้มีคุณภาพได้อย่างไร

การปฏิรูปการเมือง นายกฯจะให้ผู้อื่นทำแทนมิได้
เพราะต้องแสดงภาวะผู้นำโดยการให้ปณิธานต่อประชาชน

หากผู้บริหารสูงสุดโยนความรับผิดชอบการปฏิรูปให้ผู้อื่น
ย่อมขัดต่อวิธีการปฏิรูปการเมืองตามมาตรฐาน UN
ปฏิรูปการเมือง
++
ส่วน นสพ. Nation Review ที่ อ.ปราโมทย์
บอกว่ามารอสมัภาษณ์นายกหลายวันแล้วนั้น ตรวจสอบดูเช่นกันแล้วว่า
นสพ.นี้เปิดดำเนินการปี ค.ศ. 1970 ที่ประเทศออสเตรเลีย
โดยนักหนังสือพิมพ์อิสระ ชื่อ Gordon Barton แต่ได้ปิดตัวลงเมื่อปี ค.ศ.
1981 หรือเกือบ 30 ปีมาแล้ว

จึงชอบแล้วที่นายกอภิสิทธิ์ไม่ให้โอกาสพบเพื่อสัมภาษณ์ ครับ อ.ปราโมทย์
พธม.ปักธงชัย
++
"....เขาอยากจะสัมภาษณ์นายกฯ อภิสิทธิ์ ลง Washington Times กับ
National Review แต่ติดต่อยากเย็นเหลือเกิน ตั้งกว่า 3 อาทิตย์
จวนจะถึงวันกลับอยู่แล้ว ทำเนียบยังไม่ตอบ
ไม่รู้ว่าไม่สนใจหรือทำงานไม่เป็น..."
..........................
หนังสือ พิมพ์ Washington Times ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1982
โดยนักบวชชาวเกาหลี ชื่อ Sun Myung Moon (born January 6, 1920)
ที่คนรู้จักในชื่อลัทธิศาสนาว่า Unification Church
เป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์ที่แสดงหลักฐานการขอคืนภาษีแบบโกงจนศาลแห่งรัฐ
Connecticut ตัดสินจำคุก 18 เดือน (เหมือนทักษิณกระมัง)

จึงสมควรแล้วที่นายกฯอภิสิทธิ์ไม่ให้เข้าพบเพื่อสัมภาษณ์

อ่านได้ที่นี่ครับ http://en.wikipedia.org/wiki/Sun_Myung_Moon
พธม.ปักธงชัย
++
ผมไม่สนับสนุนนักการเมืองที่นิยมความเป็นประชาธิปไตยแค่การเลือกตั้ง

ผมไม่สนับสนุนให้แกนนำ พธม.จัดตั้งพรรคการเมือง

ผมสนับสนุนให้ พธม.คงบทบาทในการตรวจสอบการโกง และการทุจริตในการบริหารบ้านเมือง

การเมืองใหม่ ใช่จะรีบร้อนให้เกิดใน 5 ปี 10 ปี
พธม. ควรกระจายความรู้ ติดอาวุธคือปัญญาให้แก่ชาวบ้านทุกหย่อมหญ้า

จะตั้งพรรคหรือไม่ เสื้อเหลืองกับเสื้อแดงจะรบกันต่อไปหรือไม่
ไม่ใช่คำถามหรือประเด็นสำคัญ

ตราบ ใด ประชาชนผู้ถือสิทธิพื้นฐานและมีหน้าที่ตามระบอบประชาธิปไตยยังขาดความรู้
ยังไม่รับทราบความจริง
พวกเขาย่อมไม่สามารถใช้สิทธิและทำหน้าที่ได้ถูกต้อง

ผมสังเกตว่าตามแผงหนังสือทั่วไป
และในร้านสะดวกซื้อไม่มีหนังสือพิมพ์ผู้จัดการวางแผงอยู่เลย

ในขณะที่คลื่นวิทยุ 97.75 ก็รับสัญญาณได้ชัดบ้างไม่ชัดบ้าง ทั้งๆที่ผมฟังในกรุงเทพฯ
เก๋ / tharathornkitti@yahoo.co.th
++
เห็นด้วยอย่างยิ่งครับอาจารย์ อ่านทุกครั้ง ให้ความเห็นมาทุกคราว
เปิดอ่านดูอีกที ไม่เคยได้ลง ไม่ทราบเป็นเพราะอะไร
อย่าบ้าตั้งพรรคอยู่เลยครับพี่น้อง ตั้งเมื่อไร
อยู่ได้ไม่เกินพรรคพลังธรรมหรือพรรคความหวังใหม่
เป็นกลุ่มการเมืองภาคประชาชนนั่นดีแล้ว อ.ปราโมทย์ ก็เหมือนกัน
ขืนไปรับตำแหน่งทางการเมือง มันออกความเห็นไม่ได้อย่างนี้หรอก
คนเขาด่าจมธรณี
ประทีป
++
สิ่งแวดล้อม หรือ บรรยากาศ เป็นสิ่งสำคัญมาก มีอิทธิพลต่อความคิดของคน
ต่อการตัดสินใจทำอะไรต่างๆ เราได้ยินว่าสิ่งแวดล้อมไม่ดีมีผลต่อสุขภาพ
บรรยากาศการลงทุนไม่ดี
เราน่าจะมาสนใจบรรยากาศที่จะทำให้การเมืองเป็นประชาธิปไตย
สร้างบรรยากาศที่จะทำให้ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุข
ทำให้ประชาชนสนใจการเมืองมากขึ้น
สนใจสิทธิหน้าที่ตรวจสอบนักการเมืองมากขึ้น
เราน่าจะสร้างบรรยากาศเช่นนี้ได้ สื่อต่างๆน่าจะสร้างบรรยากาศนี้ได้
เหมือนอย่างที่เคยสร้างกระแสให้เกิดรัฐธรรมนูญ2540
อาจเป็นเพราะบรรยากาศเศรษฐกิจครอบงำอยู่ ทำให้เราหลงไปกับมัน
เศรษฐกิจมีอาการสะดุดเราก็รีบที่จะไปแก้ปัญหา
ทั้งๆที่การแก้นั้นเอาเงินภาษีไปแก้ แล้วใครได้ประโยชน์บ้าง
ระบบเศรษฐกิจแบบนี้ให้มันล่มไปก็ดีแล้ว ประชาชนไม่เดือดร้อนเท่าไรหรอก
คนเดือดร้อนคือผู้อยุ่ในระบบ (บางส่วน)เท่านั้น เมืองไทยอุดมสมบูรณ์
คนตกงานส่วนใหญ่ไม่อดตาย จะมีปัญหาคือพวกที่ฟุ้งเฟ้อจนเคยชินเท่านั้น
ปล่อยให้มันปรับตัวไปตามเรื่องเถอะ
ช่วยชาวบ้านที่เดือดร้อนไม่มีกินจริงๆดีกว่า
หันมาสร้างเศรษฐกิจพอเพียงให้เติบโต อย่าไปส่งเสริมการลงทุนแบบเก่าอีกเลย
มันทำลายประเทศเรามากกว่า ทำให้บรรยากาศประเทศเราไม่น่าอยู่
ทำลายสิ่งแวดล้อม ทำลายบรรยากาศแห่งความรักความสามัคคีของคนไทย
ทำให้คนไทยหลงแต่เงินทอง การบริโภค การใช้จ่ายฟุ่มเฟือยฟุ้งเฟ้อ
ต่อไปอาจจะทำงานไม่เป็น อาจจะไม่มีคนปลูกข้าว
อาจจะต้องเป็นลูกจ้างคนอื่นในไร่นาแล้วไปซื้อข้าวกิน ถึงเวลาแล้ว
ที่จะต้องช่วยกันสร้างบรรยากาศแห่งความรักความสามัคคีให้กับประเทศไทยให้จง
ได้ แต่ไม่ใช่สีนำเงิน เหลือง แดง นะ หรือว่าทำไม่เป็นแล้ว
บรรยากาศ
+
สส ส่วนใหญ่ไม่เข้าใจบทบาทของตัวเอง
ใช้ประชาชนเป็นแค่เครื่องมือนำไปสู่ตำแน่งและอำนาจของของตัวเอง
แล้วก็ไม่เห็นหัวประชาชน
ถ้าเป็นตัวแทนที่แท้จริง จะต้องรับฟังประชาชนทั้งผู้ที่เลือกและไม่ได้เลือกตน
ไม่ใช่ไปฟังมติพรรคแล้วก็เป็นทาสหัวหน้าพรรคที่เป็นนักธุรกิจการเมืองรายใหญ่
นักการเมืองไทยน้ำเน่าจริง
++
อาจารย์ครับ พวกที่นั่งอยู่ในสภามีกี่คนครับที่เราสามารถเรียกว่านักการเมืองที่เป็นตัว
แทนประชาชน และเป็นกระบอกเสียงแทนประชาชนได้ครับ
ผมดูแล้วมีแต่นักเลือกตั้ง และนักประสานผลประโยชน์ทั้งนั้น
เพราะหากเป็นตัวแทนประชาชนจริงๆ
ประชาชนในจังหวัดเขาเดือดร้อนไม่ว่าอยู่พรรคการเมืองไหน
ผู้แทนของจังหวัดนั้นก็คงออกมาแก้ปัญหาหรือเป็นตัวแทนให้ประชาชนแล้วครับ
ผมเห็นมีแต่หาผลประโยชน์โดยอ้างประชาชนกันตลอดครับ
ผมอยากให้อาจารย์เขียนเรื่องจิตสำนึก
หรือให้สถาบันการศึกษาเปิดสอนเรื่องจิตสำนึกศาสตร์เลยครับ
เพราะเราพูดกันแต่นักการเมืองตัองมีคุณธรรม จริยธรรม
แต่เมืองไทยมันตามก้นฝรั่ง ทำด้วยลมปาก มากกว่าลงมือทำจริงครับ
กราบเรียนอาจารย์ช่วยชี้แนะด้วยครับ ขอบคุณครับ
คนไทย
++

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น