++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันเสาร์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

หลายเส้นทางทำกิน "แบกะดิน" ถึง "ออนไลน์"

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

จากวิกฤติเศรษฐกิจ.....ทำให้เหล่าบรรดานักศึกษาหัวใส
ที่ออกมาขายของช่วงปิดเทอม
พลอยใจตุ้มๆต่อมๆไปตามๆกันด้วยแนวโน้มของรายได้ช่วงนี้ดูแล้วน่าจะลดลงจาก
ซัมเมอร์ครั้งก่อน แต่อย่างไรก็ตาม
พวกเขาก็ยังคงเดินหน้ากับธุรกิจเล็กๆที่ผลิตด้วยฝีมือไปอย่างไม่สั่นคลอน
ด้วยเหตุที่ว่า ต้นทุนส่วนใหญ่นั้นเป็นต้นทุนที่มาจากทางความคิดและเงินลงทุนก็ไม่สูงนัก
จึงส่งผลให้บรรดานักศึกษายังคงพอมีกำลังและความสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายของ
ครอบครัวได้อีกส่วนหนึ่งอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้นานาช่องทางธุรกิจที่สามารถแบ่งเบาภาระผู้ปกครอง
พร้อมเพิ่มความตุงในกระเป๋าให้กับเหล่านิสิตนักศึกษาได้นั้นจะมีธุรกิจไหน
บ้างที่น่าสนใจบ้าง เราลองไปติดตาม

."ลวดขดแฮนด์เมด "

โบ -"รัตติกาล แย้มภักดี" นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะแฟชั่นดีไซน์
สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล พระนครใต้
แม่ค้าขายของแฮนด์เมดประเภทเครื่องประดับ เล่าว่า
เริ่มต้นเส้นทางแม่ค้ามาจากการประดิดประดอยเครื่องประดับเพื่อสวมใส่เองตาม
สไตล์ของเธอ แต่ภายหลังมีเพื่อนเห็นแล้วชอบก็ติดต่อขอซื้อ
จนขยายวงกว้างฝากซื้อกันเรื่อยเจ้าตัวเลยจึงลองนำมาวางขาย

" บังเอิญเป็นคนชอบแต่งตัวอยู่แล้ว
และชอบเครื่องประดับพอเพื่อนยุให้ขายเราก็เลยสนใจทั้งๆที่จริงก็ไม่ได้เดือด
ร้อนเรื่องเงินเท่าไหร่ แต่แค่อยากจะหาอะไรทำนอกเหนือจากเรียน
ขั้นตอนแรกเลยเริ่มหาทำเลขาย
อย่างแหล่งวัยรุ่นก็เป็นอะไรที่น่าจะมีคนสนใจเยอะแล้วก็จัดการติดต่อ
ทำเรื่องนำของมาวางขาย โดยก็ขายกันแบบแบกะดิน ง่ายๆ
เรื่อยมาถึงตอนนี้ก็ขายได้สี่เดือนกว่าๆ
ธุรกิจที่มาจากกึ๋นและฝีมือ นอกจากจะสามารถเพิ่มค่าขนม
และเป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์แล้ว
ผลงานแต่ละชิ้นงานเครื่องประดับแฮนด์เมดของเธอก็จัดเป็นผลงานทางความคิดดัง
กล่าวยังส่งผลให้เธอพลอยมีความสุขกับการได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์
ทำไปก็มีความสุขไป

"อาศัยว่าเราได้ทำสิ่งที่รัก กับเราชอบทำ
ชอบประดิษฐ์เครื่องประดับมาใส่เอง แบบที่มีชิ้นเดียวในโลก
เพราะเวลาไปซื้อไม่ค่อยถูกใจเลยต้องทำใส่เอง
ตามจินตนาการและก็อยากให้คนอื่นได้ใส่บ้าง
โดยตอนแรกก็ทำแต่แหวนกับสร้อยข้อมือ ต้นทุนพวกนี้อยู่เพียงไม่กี่ร้อยบาท
เพราะมูลค่ามันอยู่ที่ฝีมือ งานสวยก็จะแพงหน่อยเท่านั้น"

อย่างไรก็ตาม
ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นผลพลอยได้จากการเรียนแฟชั่นดีไซน์อีกทาง
เพราะเครื่องประดับจะถูกออกแบบมาอย่างมีศิลปะโดนใจเด็กแนว
โดยสินค้าที่วางขายประกอบด้วย แหวน สร้อยข้อมือ สร้อยคล้องคอ
แต่ที่ขายดีสุดโบเผยว่าเป็น "แหวนขดลวด" เครื่องประดับสุดแนว ที่ทำไม่ยากนัก
แต่ต้องใช้ทั้งฝีมือด้านการออกแบบ
และฝีมือในการดัดลวดให้เป็นรูปทรงตามต้องการ
โดยสามารถนำใส่ให้เข้ากับเสื้อผ้าชุดแต่งกายได้หลายแนว
อาทิแนวเซอร์ที่ฮิตกันอยู่ในปัจจุบัน

" การขดลวดมันขึ้นอยู่กับว่ารูปทรงที่เราต้องการทำนั้นเป็นรูปทรงอะไร
อย่างโบเองโบจะจินตนาการตามชุดต่างๆ
ที่ใส่ว่าแหวนหรือเครื่องประดับที่เราใส่ควรจะเป็นแนวไหน หรือสีอะไร
แต่ละอันมีอันเดียวในโลกคือ จะคล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน
และกำลังคิดแบบออกมาใหม่ให้เหมาะสมกับชุดหรือเทรนด์ตอนนี้
อย่างแหวนแฟชั่นจะซื้อง่ายขายง่ายหมดเร็วแหวนที่ทำออกมาใหม่ก็จะดูให้เข้า
กับเสื้อผ้าและโทนสี อย่าง
ที่แต่งตัวเรียบๆใส่แหวนเก๋ๆสักวงเข้าไปก็จะดูดีขึ้นมา
นี่มันเลยทำให้แหวนเป็นอะไรที่ซื้อง่ายขายคล่อง"

ส่วนรายได้ต่อวันอยู่ที่ประมาณ 300 บาทขึ้นไปต่อวัน
ส่วนสำหรับเครื่องประดับเด็กแนว หากสนใจสนนราคากันอยู่ที่ 80 - 300 บาท
...ถึงตรงนี้ คงสามารถสรุปได้ว่า
ใช่ว่าคนที่จะสามารถหาโกยรายได้เสริมเข้ากระเป๋าตัวเองจะต้องมีฝีไม้ลายมือ
เก่งศิลป์อย่างเดียว แต่ต้องขึ้นอยู่กับ "กึ๋น" หรือ หัวการตลาด
ด้วยเพื่อที่จะสามารถเข้าใจหยิบจับวัตถุดิบต่างๆมาประยุกต์ใช้รวมไปถึงพลิกสิ่งที่มีให้เป็นเส้นทางทำกิน...โอกาสรวยก็ไม่ยาก

"โมเดลการ์ตูนสร้างรายได้"
โมเดล การ์ตูนมีลักษณะกระดาษขนาด A4 ลวดลายการ์ตูน
ถูกนำมาวางเรียงรายบนผืนผ้าแบกะดินทำการขายพร้อมคำแนะนำต่อผู้ซื้อไปต่อเล่น
ให้นำไปตัดตามรอยจุดประพับกระดาษตามรูปร่างที่กำหนดให้เพื่อประกอบสู่โครง
สร้างโมเดล โดยกระดาษดังกล่าวเป็นของเล่นสไตล์ "skill toys"
ใช้สำหรับฝึกทักษะและสมาธิเมื่อต่อเป็นโมเดลสำเร็จสามารถใส่กล่องตั้งโชว์

และนั่นคือผลงานของ "แนท-นิศาชล ไตรวุฒิปัญญาวงศ์"
นักศึกษาระดับชั้นปวช.9 วิทยาลัยพาณิชยการพระเชตุพล
แม่ค้าโมเดลกระดาษลายการ์ตูน เล่าว่า
ใช้เวลาหลังเลิกเรียนเปิดอินเทอร์เน็ตค้นหาตัวการ์ตูนแปลกใหม่ลวดลายน่ารัก
มาจากเว็บไซด์ ต่างๆ จากนั้นทำการพิมพ์สีออกมาจำหน่าย
โดยได้ต่อยอดโมเดลด้วยการเพิ่มค่าโมเดลที่ต่อแล้วไว้ในกล่องพลาสติกใสเพื่อ
สามารถนำไปตั้งโชว์
และนอกจากมีตัวอย่างให้ดูแล้วยังจัดทำแคตตาล๊อกไว้ให้สำหรับลูกค้าเลือกอีก
ด้วย

"จุด เริ่มต้นคือเราชอบต่อโมเดล
รู้สึกว่ามันเพลินแถมยังได้ฝึกสมาธิด้วย
ผสมกับความที่เราเองก็กำลังมองหารายได้เสริมอยู่แล้ว
บวกกับความตั้งใจของทางบ้านที่ทำธุรกิจขายเสื้อผ้าอีกทาง
เขาก็สนับสนุนให้เรามีรายได้พิเศษระหว่างเรียน
ตอนนั้นก็คิดแล้วว่าจะทำอะไรให้เป็นประโยชน์ดีนะ
เลยตัดสินใจเอาสิ่งที่เราชอบมาทำประโยชน์ดีกว่า
ด้วยการเอาภาพตุ๊กตามาต่อเป็นโมเดล ให้คนสนใจ ด้วยรู้สึกว่ามันน่ารัก
และท้าทาย อยากให้คนที่ไม่รู้จักได้มาลองต่อดูบ้าง ด
ซึ่งวางขายวันแรกก็ปรากฏว่าขายดี และส่วนใหญ่คนที่มาซื้อก็มีหลายรุ่น
เพราะมันก็เล่นได้แบบทุกเพศทุกวัย"

ส่วน รายได้ที่แนทได้ ขั้นต่ำจะได้อยู่วันละ 100 ตัวขึ้นไป
คือเบ็ดเสร็จก็อยู่ที่ 2,000 กว่าบาทต่อวัน
ส่วนต้นทุนเป็นการลงทุนแบบระยะยาวแต่สามารถทำสินค้าได้หลายครั้ง
ถามว่าต้นทุนมีอะไรบ้าง
ตอบว่าเป็นจำพวกของที่มีอยู่แล้วเพียงแต่นำมาใช้ประโยชน์สูงสุดสร้างรายได้
อย่าง เครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีไว้ใช้งานอยู่แล้ว
สีหมึกเติมเครื่องปรินท์เตอร์ กระดาษที่ต้องหนากว่าพิเศษ

"เปรียบ เทียบกับการลงทุนระยะยาวรายได้เท่านี้ถือว่าคุ้มนะ
เพราะอนาคตคงไม่คงที่ มันขึ้นอยู่กับหลายอย่าง ฟ้าฝนด้วย
เพราะฝนตกมาก็ขายไม่ได้ เทรนด์ของการ์ตูนก็มีส่วน
ตอนนี้เทรนด์ของการ์ตูนที่เรามียังขายได้ และก็คิดจะขายต่อไปสักระยะ"

เสื้อผ้ามือสองออนไฮไฟว์
นอกจากธุรกิจแบกะดินจะเป็นแนวทางต้านกระแสเศรษฐกิจได้อย่างดีจนดึง
ดูดใจให้หลายคนทำตามอย่าง
แต่ทว่าสำหรับบางกรณีว่าที่แม่ค้าพ่อค้าก็ติดข้อจำกัดของเวลา
และนั่นจึงเป็นที่มาของการค้าขายอีกรูปแบบหนึ่งที่กำลังบูม เรียกว่า
"ตลาดออนไลน์" ซึ่งตลาดดังกล่าวจะมีรูปแบบการซื้อขายที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนที่ไม่มี
เวลาว่างส่วนใหญ่ ในกลุ่มนักศึกษาหัวใสสมัยนี้ แน่นอนว่าพวกเขาก็ไม่พลาด
...ที่จะเปิดขายของแบบออนไลน์กันแล้วเช่นกัน

"แป้ง" ปิ่นหทัย โตปู่ นักศึกษาปริญญาโท สาขาวิชาเทคโนโลยีพลังงาน
คณะพลังงานสิ่งแวดล้อมและวัสดุ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
นำเสื้อผ้ามือสองและเครื่องประดับที่ไม่ใช้แล้ว
มาขายต่อผ่านทางเว็บไซต์ออนไลน์ โดยเฉพาะ hi 5
เว็บไซต์ที่กำลังได้รับความนิยมในขณะนี้

"ขาย ของในไฮไฟว์ง่ายกว่าตั้งของขายตามตลาดทั่วไป
เพราะเราสามารถเรียกลูกค้าได้จากเพื่อน
หรือคนสนิทที่เข้ามาเป็นเพื่อนในไฮไฟว์ โดยที่ไม่ต้องลงทุนมาก
แถมยังสะดวกและประหยัดเวลา ยิ่งเรามีเวลาทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์มาก
ก็น่าจะนำประโยชน์ตรงนี้มาสร้างรายได้ให้กับตัวเอง"

"เดี๋ยว นี้คนขายของในไฮไฟว์มีเยอะขึ้นเรื่อยๆ ทั้งเด็กนักเรียน
นักศึกษา ทำให้ขายสินค้ายากขึ้น แต่สินค้าจะดีหรือน่าสนใจอย่างไรนั้น
อยู่ที่การอัพเดทข้อมูลสินค้า ได้เรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า
เครื่องประดับ รองเท้า เครื่องสำอาง
ซึ่งอาจจะเหมือนกับการขายของบนเว็บไซต์ขายของเชิงพาณิชย์
แต่จะต่างกันที่ขั้นตอนการซื้อขาย และราคาสินค้า
เพราะการขายสินค้าบนไฮไฟว์ ราคาจะไม่สูงมาก สามารถพูดคุยต่อรองราคาได้"

ทั้งนี้ แป้งบอกว่าข้อเสียก็มีคือคนซื้อไม่ได้เห็นสินค้าเพราะ
การขายสินค้าในไฮไฟว์ อาจจะต้องใช้ความไว้ใจสูง
เพราะเป็นการซื้อสินค้าโดยไม่เห็นคุณภาพที่แท้จริง
ซึ่งอาจเกิดการโกงเงินได้

"ถ้า คิดจะทำธุรกิจ เราต้องมีความเชื่อใจกัน ต้องกล้าบอกชื่อ
บอกเบอร์โทรศัพท์ หรืออีเมล์
เพื่อให้ลูกค้าสามารถติดต่อกลับมาพูดคุยถึงราคา และวิธีการจัดส่ง
ส่วนลูกค้าที่จะซื้อสินค้า ต้องมีหลักฐานการโอนเงิน
ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย เพราะถ้าใครขายสินค้าไม่ดี ก็จะมีการบอกต่อ
หรือประจานลงในไฮไฟว์"

ขายของมือสองผ่านเว็บ...

และพื้นที่ค้าๆ ขายๆ ของเหล่าบรรดานิสิตนักศึกษาก็ยังไม่หมด
ไม่ได้มีเพียงแค่โปรแกรมไฮไฟว์อย่างเดียวที่จะเปิดขายสากกะเบือยันเรือรบ
ทั้งนี้วัยรุ่นยังนิยมเปิดพื้นที่ธุรกิจผ่านเว็บไซต์สาธารณะในโลกออนไลน์โดย
ใช้วิธีการโฆษณาขายสินค้าผ่านกระทู้ต่างๆในหลากหลายเว็บไซต์
เพื่อความสะดวกและการเข้าถึงคนรุ่นเดียวกัน

"มหกรรมโละครั้งยิ่งใหญ่"เป็นคำบอกเล่าผ่านหน้าเว็บที่เปิดกระทู้ขายของเอาไว้
ของ "ป๊อป-วีรวรรณ นิยมญาติ" นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะบริหารธุรกิจ
มหาวิทยาลัยรามคำแหง เธอเรียนและทำงานไปพร้อมกัน
ทำให้เวลาของเธอในแต่ละวันนั้นจึงมีไม่มากนัก
ในกรณีที่เธออยากได้รายได้เสริมจึงหาทางออกโดยการขายเสื้อผ้ามือสองผ่าน
เว็บไซต์ต่างๆที่ให้ใช้พื้นที่ฟรีแต่ต้องรู้จักการเลือกใช้พื้นที่

"ส่วน มากมันจะมีเสื้อผ้าที่เราไม่ได้ใส่
หรือซื้อมาใส่แค่ครั้งเดียวและมันก็ยังอยู่ในสภาพดีบางตัวก็มียี่ห้อ
เลยคิดว่าไม่เสียหายอะไรเลยเอามาถ่ายรูปและไปแปะไว้ในกระทู้ที่เป็นพื้นที่
สาธารณะเปิดให้เข้าไปขายของ โดยส่วนใหญ่เวลาป็อปเลือกเว็บไซต์
ป็อปก็จะเลือกเว็บที่มันมีคนอ่านเยอะๆโดยสังเกตจากอัพเดทหน้าเว็บ
สังเกตจากยอดคนเข้า เพื่อให้เรามีเปอร์เซ็นต์ในการขายได้"

สำหรับสินค้า (เสื้อผ้ามือสอง)ของป็อปตอนนี้ มีอยู่ราว 30-40
ชิ้นที่นำไปลงไว้หลายเว็บไซต์อย่าง www.siambrandname.com ,
www.nanaladycorner.com
ซึ่งการตั้งราคาก็จะตั้งตามตลาดหน้าเว็บเช่นหากมีคนนำกางเกงยีนส์มือสองรุ่นเดียวกันยี่ห้อเดียวกันมาขาย
ป๊อปก็จะตั้งราคาให้ถูกกว่า

"จาก ที่ขายสินค้าในเว็บมาปีกว่า ๆ
ก็รู้ว่าเราต้องศึกษาตลาดนิดหนึ่งว่า เว็บไหนคนเยอะ เว็บไหนควรเอาไปลง
และก็สไตล์คนเข้าเว็บด้วยแบบบางเว็บจะเป็นคนที่ชอบสินค้าแบรนด์เนมเราก็จะ
เอาของๆ เราที่เป็นของแบรนด์เนมไปลงกระทู้แต่บางเว็บเป็นเว็บที่เน้นเสื้อผ้าราคาถูก
สภาพดีก็จะเน้นตัดราคาไปก่อนดูว่าคนอื่นเขาตั้งกันเท่าไรประมาณไหนก็ตั้งให้
ถูกกว่า เพราะการทำอย่างนี้มันจะทำให้เราขายได้เร็วขึ้น"
ส่วนรายได้สุทธิแล้วแม้ไม่เยอะนัก สูงสุดอยู่ที่สามพันบาทต่อเดือน
"เศรษฐกิจอย่างนี้อะไรที่ทำแล้วมันสามารถแปลเป็นเงินได้ก็จะทำ
ช่วยทั้งตัวเองและทางบ้าน
ถึงแม้ว่าตัวเลขมันจะไม่เยอะแต่ก็ดีกว่าอยู่เฉยๆเป็นได้ใช้เวลาให้เป็น
ประโยชน์ดีกว่าใช้ตังอย่างเดียว"ป็อปสรุป

http://www.manager.co.th/Campus/ViewNews.aspx?NewsID=9520000050566

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น