ผู้เขียน: ว.แหวนลงยา (wachira89 สมาชิก)
ฤา น้ำขึ้น ต้องรีบตัก
มิรอพัก ตะกอนขุ่น
ฤา เถยจิต คิดแบบทุน
โอกาสทอง ต้องรีบฉวย
เหล็กร้อน ต้องรีบตี
สร้างเหล็กดี เป็นดาบสวย
โหมไฟ ให้พลุ่งพวย
หลอมเหล็กแกร่ง ด้วยแรงร้อน
ช้า ช้า รอพร้างาม
เห็นต่าง ตาม มาแทรกซ้อน
รีบตัก ทั้งตะกอน
อาจปนเปื้อน ไม่ปลอดภัย
เหล็กดี มีไฟพร้อม
ย่อมหล่อหลอม ดาบดีได้
ค้อน ทั่ง ได้ดังใจ
จึงพรั่งพร้อม หลอมเหล็กตี
หลากคน หลากคมคิด
หลอมรวมจิต ให้ถ้วนถี่
ใดดี ใดไม่ดี
ต้องออกแบบ ให้แยบยล
เห็นต่าง เยี่ยงอย่างมิตร
ย่อม ถูก-ผิด ต่างเหตุผล
การณ์ใหญ่ ในวังวน
แหวกคับแคบ ให้แยบคาย
หนทาง ยังไกลนัก
อุปสรรค ยังหลากหลาย
สารพัน ภยันตราย
ยังเรียงราย ทุกรายทาง
พันธกิจ ที่พันผูก
แห่งการปลูก แห่งการสร้าง
เทียนธรรม ส่องนำทาง
อย่าเสียสัตย์ อย่าเสียธรรม !
ว.แหวนลงยา
http://www2.manager.co.th/mwebboard/listComment.aspx?QNumber=296837&Mbrowse=9
คนหน้าไม้
ประพฤติ ธรรมให้สมกับธรรม,
ธรรมในทางพระพุทธศาสนาแบ่งเป็นสภาวธรรม(ธรรมที่เป็นไปตามธรรมดาของเหตุ
ปัจจัย) และปรมัตถธรรม(ความจริงโดยความหมายสูงสุด),
สมมติสัจจะ(สัจจะความจริงโดยสมุติ
ที่มนุษย์ทำให้เสมอด้วยความจริงอันสูงสุด)
และปรมัถ์สัจจะ(เป็นความจริงแท้ จริงตามกฎของธรรมชาติ
ที่ไม่อยู่ในการควบคุมไดๆ ของมนุษย์), มนุษย์จะพัฒนาตนเองได้ต้องมีสัจจะ
หรือมีสัตย์ ต้องมีหลักมีศีล ซึ่งเป็นเครื่องมือพัฒนา
หรือวิวัฒนาการไปสู่เป้าหมาย,
ธรรมที่เป็นเครื่องมือคือทำให้ถูกเหตุถูกผล ถูกกาล ถูกสถานที่
ถูกบุคคลเป็นต้น. คือต้องใช้สภาวธรรม
ต้องใช้สมมติสัจจะเพื่อพัฒนาไปสู่การบรรลุเข้าถึงความจริงแท้
ความจริงตามกฎของธรรมชาติ คือปรมัตถ์ธรรม และปรมัตถสัจจะ. คุณสนธิ
พูดเรื่องการไม่ขอรับตำแหน่งในทางการเมืองในสมัยที่ทำการประท้วง
การกระทำที่ไม่ถูกต้องของรัฐบาลในยุคนั้น
เป็นความจริงที่การกระทำขณะนั้นไม่ได้ทำไปเพื่อหาผลประโยชน์ของตนเอง
ในทางการเมืองนั่นคือสภาวธรรมขณะนั้น,
แต่ในขณะนี้พันธมิตรไม่สามารถแก้ไขปัญหาต่างๆได้ถ้าไม่มีพรรคการเมืองจึงมี
การตั้งพรรคสภาวธรรมมันเปลี่ยนแปลงไปแล้ว คุณสนธิ
และกลุ่มพันธมิตรทั้งหลายจึงควรแยกแยะว่าคำพูดในวันนั้นเมื่อมันอยู่ในสภาว
ธรรมนั้น แต่เมื่อสภวธรรมมันเปลี่ยนข้อจำกัดนั้นก็ควรจะหมดไป, คุณสนธิ
พันธมิตร และแนวร่วมควรแยกแยะธรรมในระดับที่มีข้อจำกัดคือสภาวธรรมอย่าเอามาปนกับ
ปรมัตถธรรม, ถ้าประพฤติธรรมไม่สมควรต่อธรรม ยึดกฎระเบียบเอาผิดๆ
จนเสียประโยชน์จากสิ่งที่ควรจะได้รับมันจะกลายเป็นสีลัพพตปรามาส
ในทางพระพุทธศาสนา, การจะเข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคหรือไม่
สัจจะในระดับสภาวขณะนั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ทำอย่างถูกเหตุ ถูกผล
ถูกสภาวธรรมขณะนี้ต่างหากที่สำคัญกว่า. สัจจะในระดับสภาวธรรมเป็นStatic
เพื่อพัฒนาไปสู่สัจจะในระดับที่ทุกอย่างเคลื่อนไหว เปลี่ยนแปลงDynamic
30 พฤษภาคม 52 9:09
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น