++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันอาทิตย์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

สธ.ออกประกาศคำแนะนำป้องกันโรคชิคุนกุนยา

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 23 พฤษภาคม 2552 16:06 น.
สาธารณ สุขออกประกาศคำแนะนำเรื่องโรคชิคุนกุนยา ฉบับที่ 1
ให้ประชาชน อสม. อปท.และสถานศึกษาร่วมมือป้องกันโรค
ทุกครัวเรือนต้องทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายในบ้านและรอบบ้านทุก 7
วัน ผู้ที่มีอาการไข้สูง ร่วมกับอาการปวดข้อหรือออกผื่น
โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในภาคใต้ ภายใน 2 สัปดาห์ ขอให้พบแพทย์ทันที

นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.)
เปิดเผยว่า สธ.ได้ออกประกาศคำแนะนำประชาชน เรื่อง โรคไข้ปวดข้อยุงลาย
(Chikungunya) ฉบับที่ 1 เพื่อความร่วมมือในการป้องกันโรคไข้ปวดข้อยุงลาย
หลังจากที่โรคไข้ปวดข้อยุงลาย
ได้แพร่ระบาดในจังหวัดทางภาคใต้ของประเทศไทย
โดยมียุงลายเป็นพาหะทำให้เกิดโรค สถานการณ์ตั้งแต่ต้นปีจนถึง 19 พฤษภาคม
2552 พบจำนวนผู้ป่วยสะสม 20,541 ราย ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต

นายวิทยา กล่าวต่อไปว่า เพื่อเร่งรัดการเฝ้าระวังโรค
สกัดกั้นการแพร่ระบาด การป้องกันและควบคุมโรค การดูแลผู้ป่วย
การเผยแพร่ความรู้
ส่งเสริมบทบาทการป้องกันและควบคุมโรคของประชาชนให้มีความเข้มแข็งยิ่งขึ้น
เพื่อรับมือกับโรคไข้ปวดข้อยุงลายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ซึ่งผลการดำเนินงานจะช่วยลดโรคไข้เลือดออกด้วย
สำหรับการป้องกันควบคุมโรคที่สำคัญ คือ ประชาชน ชุมชน
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ต้องมีส่วนร่วมในการป้องกันการติดเชื้อและลดการแพร่ระบาดโรคไข้ปวดข้อยุงลาย

สธ.จึงเน้นย้ำคำแนะนำประชาชน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน
(อสม.) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และสถานศึกษา
เพื่อขอความร่วมมือในการป้องกันโรคไข้ปวดข้อยุงลาย ดังนี้ ใน
กลุ่มประชาชนทั่วไป ผู้ที่มีอาการไข้สูง ร่วมกับอาการปวดข้อ
หรือออกผื่นให้รีบไปพบแพทย์ โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในพื้นที่
หรือมาจากพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคไข้ปวดข้อยุงลาย ภายใน 2 สัปดาห์ (14
จังหวัดทางภาคใต้)
ในกรณีที่ยังไม่อาจไปพบแพทย์ได้และมีความจำเป็นต้องรับประทานยา
แนะนำให้ใช้ยาพาราเซตามอล ผู้ป่วยโรคไข้ปวดข้อยุงลายในระยะ1 สัปดาห์
หลังมีไข้ ควรป้องกันตนเองไม่ให้ถูกยุงกัด
เพื่อลดการแพร่เชื้อไปสู่บุคคลอื่น โดยนอนในมุ้งในเวลากลางวันและกลางคืน
และไม่ควรเดินทางออกนอกพื้นที่ภายในระยะ 1 สัปดาห์

กลุ่ม อสม.
ขอให้เฝ้าระวังประชาชนในหมู่บ้านหรือพื้นที่ที่รับผิดชอบ
หากพบผู้ที่มีอาการไข้สูง ร่วมกับอาการปวดข้อ
หรือออกผื่นให้รีบพาไปพบแพทย์
และรายงานต่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่โดยเร็ว
สำรวจและร่วมทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย ในบ้านและนอกบ้าน
ผู้ป่วยและบ้านเรือนใกล้เคียงและต่อเนื่องถึงพื้นที่สวน ในรัศมี 400 เมตร
ให้คำแนะนำและขอความร่วมมือประชาชนในการป้องกันยุงกัด เช่น การใช้มุ้ง
ยากันยุง ยาทากันยุง การกำจัดและทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย
และตัวเต็มวัยด้วยตนเอง รวมทั้งคำแนะนำในการใช้ยาให้ถูกต้อง

กลุ่ม อปท.ขอ
ความร่วมมือประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่ทราบสถานการณ์
วิธีปฏิบัติที่ถูกต้องเพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการป้องกันควบคุมโรคใน
ชุมชน ดำเนินการต่าง ๆ เพื่อลดจำนวนยุงตัวเต็มวัย
และแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย เช่น ปรับปรุงสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม
จัดรณรงค์ Big Cleaning Day สัปดาห์ละครั้ง ต่อเนื่อง 3 เดือน
ออกข้อบัญญัติ หรือเทศบัญญัติท้องถิ่น เพื่อให้มีการดูแล
กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายในชุมชน อย่างทั่วถึงและต่อเนื่อง
โดยให้ประชาชนมีส่วนร่วม
ตลอดจนสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินงานป้องกันควบคุมโรค การควบคุมยุงลาย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ และลูกน้ำยุงลาย

ส่วนกลุ่มโรงเรียนและสถานศึกษา
ดำเนินการทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายในสถานศึกษา ทุก 7 วัน
ให้ความรู้และคำแนะนำแก่นักเรียน เกี่ยวกับโรคไข้ปวดข้อยุงลาย
วงจรชีวิตของยุง การแพร่เชื้อ และวิธีป้องกัน หากพบนักเรียน
นักศึกษาที่มีอาการไข้สูงร่วมกับอาการปวดข้อ
หรือออกผื่นให้รีบพาไปพบแพทย์
และแนะนำวิธีปฏิบัติตัวในการป้องกันการแพร่เชื้อหากแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นโรค
ไข้ปวดข้อยุงลาย
โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในพื้นที่หรือมาจากพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคไข้ปวดข้อ
ยุงลายภายใน 2 สัปดาห์

ทั้งนี้ หากประชาชนต้องการข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติม
สามารถติดตามได้ที่ เว็บไซต์กระทรวงสาธารณสุข www.moph.go.th
และหากมีข้อสงสัย สามารถติดต่อได้ที่ ศูนย์ปฏิบัติการ กรมควบคุมโรค
หมายเลขโทรศัพท์ 0 2590 3333 และศูนย์บริการข้อมูลฮอตไลน์
กระทรวงสาธารณสุข หมายเลขโทรศัพท์ 0 2590 1994 ตลอด 24 ชั่วโมง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น