++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพุธที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

Fwd: CAll 1137 : รถเสียช่วย ฟรี


 


 
 

 

โทร 1137: ช่วยกันบอกต่อๆไป รถเสียช่วย ฟรี
ผู้ใช้รถ หรือผู้ที่ไม่ได้ใช้รถส่วนตัว จะไปบอกต่อกันก็ ได้

ช่วยกันบอกต่อๆ ไป รถเสียช่วยฟรี
กด 1137
ชาวกรุงซึ้งน้ำใจรถเสียช่วยฟรี
24 ชม. รถ เสียกลางกรุงไม่ต้องตกใจ กด 1137
เรียกใช้บริการช่างซ่อมอาสาได้ฟรีตลอด
24 ชั่วโมง ตามโครงการ "ปันน้ำใจช่วยเหลือ สังคม"  
ช่วยป้องกันทั้งโจรในคราบพลเมืองดีและภัยสุภาพสตรีที่รถเกิดเสียกลางทาง
 
เผยคนยังเรียกใช้น้อย เพราะส่วนใหญ่ยังไม่ รู้จัก

วอนรัฐช่วยส่งเสริมสนับสนุน
    ขณะที่ ผู้คนในสังคมต่างดิ้นรนเอาตัวรอด
ส่งผลให้ผู้คนเห็นแก่ตัวมากขึ้นเสีย สละต่อผู้อื่นน้อยลง และไม่อยากไปยุ่งเกี่ยวเรื่องของคน อื่น

แต่ก็ยังมีผู้คนจำนวนหนึ่งแม้จะไม่มากนัก

แต่ก็พร้อมจะทำงานที่เสียสละช่วยเหลือคนอื่น โดยไม่มุ่งหวังสิ่งตอบแทน
 
อย่างกลุ่มคนในโครงการ
"ปันน้ำใจช่วยเหลือรถจอดเสียกลางทาง"          

นายกฤตวิทย์ ศรีพสุธา เจ้าของโครงการ
"ปันน้ำใจช่วยเหลือรถจอดเสียกลางทาง" กล่าวถึงที่มาโครงการนี้ ว่า


เห็นข่าวผู้หญิงรถเสียในเวลากลางคืนและเกิดปัญหาอาชญากรรมตามมา โดยพวกมิจฉาชีพคอยทำร้ายชิง ทรัพย์



รวมไปถึงทำตัวเป็นพลเมืองดีในคราบโจรแล้วน่าเป็นห่วง นอกจากนี้จากการสำรวจดู ยังพบว่า

มีรถเก่าจอดเสียอยู่ข้างทางไกลบ้านและไม่มีใครดูแลจึงได้หารือกับ พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล ผบก.จร .

เพื่อหาทางแก้ไขให้ประชาชนมีที่พึ่ง เพราะเชื่อว่าในสังคมไทยยังมีคนดีอยู่อีก จำนวนมาก


บทสรุปที่ได้ คือ ให้ตำรวจแต่ละท้องที่จัดหาอู่ซ่อมรถ จัดซื้อรถลากรถยกไว้ให้ บริการ โดยมีตำรวจโครงการพระราชดำริมาร่วมด้วยช่วย กัน

ปรากฏว่าเจ้าของอู่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยไม่คิดค่าแรง และบอกว่า ยินดีให้ความร่วมมืออย่างเต็ม ที่ เพราะต้องการช่วยประชาชนอยู่แล้วแต่ ไม่มีโอกาส
   

นายกฤตวิทย์ กล่าวว่า เพื่อสร้างความ เชื่อถือในการปฏิบัติหน้าที่

จึง กำหนดให้เจ้าหน้าที่ที่ออกให้บริการต้องติดบัตรใส่ชุดฟอร์ม และไม่รับค่าตอบ แทน

เพราะทุกคนทำด้วยใจรัก
"บริษัทได้ทำประกันอุบัติเหตุให้เป็นค่า ตอบแทน 1 ปี
ถึงขณะนี้การช่วยเหลือยังน้อยอยู่เดือนหนึ่งประมาณ
50-60 ราย
เฉลี่ยวันละ
4-5 รายแต่ในช่วงกลางคืน ฝนตกจะมีคนเรียกใช้มากถึงวันละ 10 ราย"

ผู้ริเริ่มโครงการนี้กล่าวและยอมรับ ว่า โครงการ
 " ปันน้ำใจช่วย เหลือรถจอดเสียกลางทาง"
ยังไม่เป็นที่แพร่หลาย เนื่องจากประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนยังไม่ทราบว่ามีโครงการนี้

หากมีการประชาสัมพันธ์มากกว่าที่เป็นอยู่เชื่อว่าจะมีคนที่เดือดร้อนขอใช้ บริการมากกว่านี้
 
และน่าจะมีอู่ซ่อมรถยนต์มาร่วมช่วยเหลือมากขึ้น
"ถ้าผู้ใช้รถไม่ได้ฟัง จส. 100 จะไม่รู้ว่ามีโครงการนี้
อย่างไรก็ดียังมีประชาชนส่วนหนึ่งยังไม่เชื่อใจว่าจะช่วยเหลือจริงหรือไม่


 


 

 

 

 


 



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น