++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

รู้หรือไม่? “ขมิ้นชัน” ที่ดีที่สุดในโลก อยู่ที่สุราษฎร์ฯ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

       นัก เดินทางบางคนอาจจะรู้จัก “บ้านตาขุน” ในฐานะอำเภอเล็กๆ ด้านทิศตะวันตกของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่มีสถานที่สวยงามอย่าง “เขื่อนรัชชประภา” หรือ “เขื่อนเชี่ยวหลาน” ซึ่งถูกขนานนามว่า “กุ้ยหลินเมืองไทย” ตั้งอยู่ แต่น้อยเสียยิ่งกว่าน้อย ที่จะทราบว่า “ของดี” ของ “บ้านตาขุน” ไม่ได้มีแค่ที่เที่ยว หากแต่ “ขมิ้นชัน” ที่นี่ ได้รับการรับรองว่า “ดีที่สุดในโลก” !!!
      
       เภสัชกรหญิงอังคณา ศรีนามวงศ์ เภสัชกรชำนาญการพิเศษ หัวหน้ากลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานีบอกเล่าถึงลักษณะพิเศษของ “ขมิ้นชัน” ว่าเป็นพืชที่มีประโยชน์หลายอย่าง มีน้ำมันหอมระเหยมาก ซึ่งจะช่วยแก้ท้องอืด ใช้ทาผิว ใช้ทำเครื่องสำอาง ใช้แก้อักเสบได้ และมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระด้วย
      
       “ขมิ้นชันเป็นพืชที่มีประโยชน์มาก ดีต่อร่างกาย คนใต้กินขมิ้นมานานแล้วผ่านอาหาร ที่ถือเป็นวัฒนธรรมของคนใต้ เราจะเห็นแกงใต้มักจะใส่ขมิ้น ขมิ้นชันนี้กินดีมีประโยชน์ กินมากก็ไม่มีโทษ กินแบบแคปซูลวันละ 10 เม็ดทุกวันช่วยให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่ดี ช่วยบำรุงร่างกาย ซึ่งปัจจุบันมีการสกัดขมิ้นชันนำไปเป็นยารักษาโรคต่างๆ เช่น ธาลัสซีเมีย เนื่องจากผู้ป่วยโรคนี้จำเป็นต้องรับธาตุเหล็กเข้าไปเพื่อกระตุ้นให้ร่างกาย ผลิตเลือด แต่หากมากเกินไปจะเกิดภาวะที่เรียกว่า “เหล็กเกิน” ซึ่งสารจากขมิ้นชันจะช่วยขับเหล็กที่เกินออกจากร่างกาย

สมสุข สรรมา กับขมิ้นผลผลิตของกลุ่ม
       นอกจากนี้ในโรคปวดข้อปวดกระดูก ซึ่งไร้ผลข้างเคียงทำให้กระเพาะเป็นแผลหรือทะลุเหมือนกับยาโรคกระดูกและข้อ อื่นๆ ด้วย และในผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรงดี การกินขมิ้นชันสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะในรูปของแคปซูล ผงที่ชงดื่มกับน้ำร้อน หรือจะเป็นกินสดๆ เป็นอาหาร ก็ถือเป็นการบำรุงร่างกายและสร้างภูมิต้านทานให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น”
      
       แต่คุณประโยชน์ของขมิ้นชันไม่ได้หยุดแต่เพียงเท่านั้น เพราะในส่วนของเครื่องสำอางนั้น เภสัชกรหญิงอังคณาอธิบายว่าสารสกัดจากขมิ้นชัน ได้ถูกนำไปทำเป็นครีมหน้าเด้งเนื่องจากมีคุณสมบัติดีต่อผิวหนังมากกว่า วิตามินอีที่เรามักจะซื้อมาจากต่างประเทศเพื่อมาบำรุงผิว มากกว่าถึง 5 เท่า
      
       หลังจากที่เภสัชกรคนเก่งกล่าวถึงประโยชน์ในเชิงต่างๆ ของขมิ้นชันแล้ว เธอก็ได้บอกเล่าถึงความพิเศษของ “ขมิ้นบ้านตาขุน” ทำให้เราต้องเดินทางมาไกลถึงสุราษฎร์ธานีว่า ที่ขมิ้นที่นี่พิเศษกว่าที่อื่นก็คือ ขมิ้นที่นี่ ดีกว่าที่อื่นๆ
      
       “กรม วิทยาศาสตร์การแพทย์ได้นำตัวอย่างขมิ้นจากที่ต่างๆ มาวิเคราะห์หาสารคิวเคอร์มินอยด์ (Cucurminoid) ซึ่งเป็นสารที่มีฤทธิ์แก้อักเสบในขมิ้นชันจากที่ต่างๆ ทั่วโลก พบว่าขมิ้นชันธรรมดาจะมีสารดังกล่าวอยู่ในระดับ 3-4 แต่ขมิ้นที่อำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานีแห่งนี้ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้นำตัวอย่างขมิ้นที่นี่ไปตรวจ พบว่ามีสารคิวเคอร์มินอยด์สูงมากถึงในระดับประมาณ 10 ถึง 10 กว่าๆ ซึ่งถือว่าเป็นสถิติที่ดีที่สุดในโลก”
      
       ด้านแกนนำกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกขมิ้นแห่งบ้านตาขุนอย่าง “สมสุข สรรมา” และ “วินัย ฤทธิกุล” ต่างลงความเห็นคล้ายกันว่า ที่ขมิ้นบ้านตาขุนมีสารคิวเคอร์มินอยด์เข้มข้นกว่าที่อื่น น่าจะเป็นเพราะดินที่นี่ดีกว่าที่อื่น

กรรมวิธีการตัดขมิ้นเป็นชิ้นๆ
       “ดินที่นี่เป็นสีแดง ปลูกอะไรก็ดี ปลูกขมิ้นก็ได้ขมิ้นดี เราจะเริ่มกระบวนการปลูกในฤดูแล้ง ก่อนอื่นต้องเตรียมดินโดยใช้แทรกเตอร์ไถพรวนดินก่อน 2 ครั้ง และเริ่มลงมือปลูกจริงๆ กันในเดือนพฤษภาคม โดยพื้นที่ปลูกต่อ1หลุมเราจะใช้หลุมขนาด 80x80 เซนติเมตร เราจะใส่หัวแม่ลงไปประมาณ 1 ขีดต่อ 1 หลุม หลังจากปลูกเสร็จก็รอไปประมาณ 8-9เดือนจึงจะเก็บเกี่ยวได้ โดยผลผลิตที่ได้ต่อ 1 ไร่ จะอยู่ที่ประมาณ 2,500-3,000 กิโลกรัม”
      
       สมสุขกล่าวว่าผลผลิตที่ได้ส่วนใหญ่จะส่งไปยังตลาดกลางหาดใหญ่ โดยจะมีพ่อค้ามารับเอง ยอดการสั่งอยู่ที่ประมาณ 3 ตัน ซึ่งปริมาณนี้เป็นการขายเพื่อนำไปประกอบอาหาร
      
       “ขณะ นี้เรามีกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกขมิ้นที่เขามีที่ทางพอจะปลูกได้ เขาก็มารับหัวแม่ไปช่วยปลูก แล้วก็นำผลผลิตที่ได้มาขายเป็นรายได้เสริมให้ครอบครัว มีอยู่ประมาณ 22 ครอบครัว ราคาขายขมิ้นอยู่ที่ประมาณกิโลกรัมละ 15 บาท ก็ได้กำไรตกประมาณไร่ละ 20,000 บาท ซึ่งในอนาคตอันใกล้นี้เราจะเพิ่มสมาชิกเพื่อขยายพื้นที่ปลูกด้วย”

วินัย ฤทธิกุล
       ด้านวินัยกล่าวเสริมว่า แม้ขมิ้นบ้านตาขุนจะขายดิบขายดีมีคนสั่งซื้อมากจนแทบปลูกไม่ทัน แต่ว่าทางกลุ่มฯ ก็ได้แบ่งผลผลิตเอาไว้ต่างหากเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเพื่อนำเป็นหัวแม่ที่จะนำไปปลูกในปีต่อไป และอีกส่วนหนึ่งนำมาผลิตเป็นสมุนไพรอันเป็นสินค้าของดีของอำเภอบ้านตาขุน
      
       “เราทำเองครับ ทั้งผงขมิ้นที่นำมาบดเป็นผงสำหรับผู้ที่ชอบนำไปชงน้ำร้อนดื่ม ทำเป็นแคปซูลเพื่อความสะดวกในการรับประทานประจำวัน หรือจะเป็นผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่ออย่างสบู่ ที่เรามีให้เลือกทั้งสบู่ขมิ้น และสบู่สกัดน้ำมันขมิ้นซึ่งจะเข้มข้นกว่า ขมิ้นที่นี่เป็นขมิ้นปลอดสาร เพราะเราไม่จำเป็นต้องใช้ยาหรือปุ๋ยเร่งอะไร ดินดีอยู่แล้ว แล้วขมิ้นเป็นพืชฉุน แมลงไม่กิน ไม่ต้องใช้ยา วัตถุดิบปลอดภัยครับ อยาก ให้คนไทยรู้จักเยอะๆ ว่าในประเทศไทย ในจังหวัดสุราษฎร์ก็มีของดีระดับโลกที่ดีต่อสุขภาพแถมราคาไม่แพง เป็นสินค้าของเกษตรกร นอกจากที่ซื้อไปบำรุงสุขภาพในราคาถูก ผู้ผลิตเองก็จะมีชีวิตที่ดีขึ้นด้วยครับ” เกษตรกรแห่งอำเภอที่มีขมิ้นดีที่สุดในโลกกล่าวทิ้งท้าย
      

http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9520000034194

1 ความคิดเห็น:

  1. มีรับซื้อจากต่างอำเภอบ้างไหมค่ะ พอดี ที่บ้านอยู่อำเภอเวียงสระ จะได้เอาไปขายบ้าง ตอนนี้ราคากิโลกรัมละเท่าไหร่ค่ะ

    ตอบลบ