++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

สถานะของหุ่นยนต์อุตสาหกรรม/ชิต เหล่าวัฒนา

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    


   
       ข้อมูลจาก IFR Statistical Department ระบุว่าในปี 2005 ตลาดหุ่นยนต์ทั่วโลกมีการเติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 30% จากปี 2004 และมีสถิติการติดตั้งหุ่นยนต์อุตสาหกรรมมากถึง 126,700 หน่วยทั่วโลก
       
       โดย มีความต้องการใช้หุ่นยนต์สูงสุดในทวีปเอเชีย โดยเฉพาะในประเทศญี่ปุ่น รองลงมาคือกลุ่มประเทศในทวีปยุโรป และประเทศสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้ประเทศที่มีอัตราการเจริญเติบโตสูงเกินเกณฑ์เฉลี่ยคือประเทศเกาหลี และไต้หวัน อย่างไรก็ดีในทั้งสามภูมิภาคทั่วโลกต่างมีอุตสาหกรรมยานยนต์เป็นตลาดหลัก
       
       แต่ สำหรับประเทศในทวีปเอเชีย นอกจากอุตสาหกรรมยานยนต์แล้ว ยังมีความต้องการใช้หุ่นยนต์สูงขึ้นในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ (Electronics Component Industry) อุตสาหกรรมเครื่องมือสื่อสาร (Communication Equipment Industry) และ อุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ (Computer Industry) อีกด้วย

#        ทวีปเอเชีย
      
       ในปี 2005 มีการจัดส่งหุ่นยนต์ให้ประเทศในทวีปเอเชียจำนวนกว่า 76,000 หน่วย เพิ่มขึ้นจากปี 2004 ถึง 45% โดยสามประเทศหลักในทวีปเอเชียที่มีความต้องการหุ่นยนต์สูงคือ
      
       1. ประเทศญี่ปุ่น ใน ปี 2005 มีการติดตั้งหุ่นยนต์ในอุตสาหกรรมสูง 50,500 หน่วย เพิ่มขึ้นจากปี 2004 36% โดยการลงทุนส่วนมากอยู่ในอุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมเครื่องใช้และ อุปกรณ์ไฟฟ้า
      
       2. ประเทศเกาหลี ในปี 2005 มีการติดตั้งหุ่นยนต์ในอุตสาหกรรมสูง 13,000 หน่วย เพิ่มขึ้นจากปี 2004 138% โดยอุตสาหกรรมที่มีความต้องการใช้หุ่นยนต์สูงสุดคือ อุตสาหกรรมเครื่องจักรไฟฟ้าและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์
      
       3. ประเทศจีน ในปี 2005 มีการติดตั้งหุ่นยนต์ในอุตสาหกรรมสูง 45,000 หน่วย เพิ่มขึ้นจากปี 2004 28% โดยมีอุตสาหกรรมยานยนต์เป็นตลาดหลัก
      
       4. ประเทศอื่นๆ ประกอบด้วยประเทศอินเดีย ประเทศอินโดนีเซีย ประเทศมาเลเซีย ประเทศฟิลิปปินส์ ประเทศสิงคโปร์ ประเทศไต้หวัน ประเทศเวียดนาม รวมทั้งประเทศไทย โดยมีความเติบโตของตลาดความต้องการหุ่นยนต์เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 58% และการลงทุนหลักอยู่ในอุตสาหกรรมยานยนต์

จำนวนการติดตั้งหุ่นยนต์อุตสาหกรรมรายปีโดยประมาณในสามทวีป
ที่มา : World Robot Market 2006 Statistics , International Federation of Robotics
#        ทวีปอเมริกา
      
       ปี 2005 มีการลงทุนเพิ่มขึ้นกว่า 40% จากปีก่อน โดยมีจำนวนหุ่นยนต์ที่ติดตั้ง 21,555 หน่วย และความเติบโตของการลงทุนส่วนใหญ่จะอยู่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมโลหะ อุตสาหกรรมเคมี และอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และประเทศที่มีการลงทุนสูงคือประเทศสหรัฐอเมริกา ประเทศแคนาดา ประเทศเม็กซิโก ประเทศอาร์เจนตินา และประเทศบราซิล

เปรียบเทียบความต้องการหุ่นยนต์ในอุตสาหกรรมต่างๆในปี 2004 และ 2005
ที่มา : World Robot Market 2006 Statistics , International Federation of Robotics
#        ทวีปยุโรป
      
       ประเทศหลักที่มีการลงทุนทางด้านหุ่นยนต์คือประเทศเยอรมัน ประเทศอิตาลี ประเทศสเปน ประเทศปอร์ตุเกส ประเทศสวีเดน ประเทศฝรั่งเศส และประเทศอังกฤษ โดยมีตลาดหลักคือ อุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากนี้ยังมีความต้องการหุ่นยนต์อุตสาหกรรม เพิ่มขึ้นอีกในหลายอุตสาหกรรม เช่น พลาสติก ยาง อาหารและการบรรจุหีบห่อ เครื่องใช้ในบ้าน ไม้และเฟอนิเจอร์ แก้ว และ เซรามิค เป็นต้น โดยในทวีปยุโรปมีความต้องการใช้หุ่นยนต์ในอุตสาหกรรมอาหารมากกว่าทวีปเอเชีย และทวีปอเมริกาถึง 30% นอกจากนี้ทาง IFR Statistical Department ได้ประเมินจำนวนหุ่นยนต์ทั้งหมดในอุตสาหกรรมทั่วโลก ณ สิ้นปี 2005 ว่ามีจำนวนทั้งสิ้นอย่างน้อย 923,000 – 1,120,000 หน่วย

ดัชนีราคาหุ่นยนต์อุตสาหกรรม เทียบโดยใช้อัตราเงิน US dollar คงที่ในปี 1990
ที่มา : World Robot Market 2006 Statistics , International Federation of Robotics
       แนวโน้มตลาดในอนาคตของหุ่นยนต์อุตสาหกรรมIFR Statistical Department ประเมินตลาดหุ่นยนต์ในอุตสาหกรรมว่าจะเจริญเติบโตต่อเนื่องไปจนถึงปี 2009 โดยการลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์จะเติบโตจากผลของการผลิตโมเดลใหม่ๆ ส่วนการลงทุนในอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น อุตสาหกรรมอาหารและการบรรจุหีบห่อ อุตสาหกรรมพลาสติกและยาง และอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล จะมีการเติบโตขึ้นด้วยผลของการพัฒนาของเทคโนโลยี โดยเฉพาะการพัฒนาเทคโนโลยีทางด้านระบบควบคุม และระบบรักษาความปลอดภัย ที่ส่งเสริมการทำงานร่วมกันของคนและเครื่องจักรกล รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีเซ็นเซอร์และโรบอทวิชั่น ก็เป็นปัจจัยทำให้มีแนวโน้มในการลงทุนทางหุ่นยนต์ในอุตสาหกรรมสูงขึ้นด้วย
      
#        แนวโน้มราคาของหุ่นยนต์อุตสาหกรรม
       ราคาหุ่นยนต์อุตสาหกรรมมีแนวโน้มลดลงทุกปี โดยราคาลดลงอย่างมากในช่วงปี 1990 ถึงปี 2000 หลังจากนั้นก็มีการลดลงเรื่อยๆแต่ด้วยอัตราที่น้อยลง โดย IFR Statistical Department ระบุว่าเป็นผลมาจากที่มีการขยายการใช้หุ่นยนต์ไปในอุตสาหกรรมสาขาอื่นๆเพิ่ม ขึ้น นอกเหนือจากอุตสาหกรรมยานยนต์ ถ้าเทียบโดยใช้อัตราเงินเหรียญสหรัฐคงที่ในปี 1990 ราคาของหุ่นยนต์มีการลดลงจาก ค่าดัชนีที่ 100 ลงมาที่ 54 ในช่วงปี 1990 – 2550 แต่ถ้าคิดค่าความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่มีสูงขึ้นในแต่ละปีด้วย การประเมินราคาหุ่นยนต์จะมีการลดลงจากค่าดัชนีที่ 100 ลงมาถึงที่ 22 ในช่วงปี 1990-2550 ค่าความหนาแน่นของหุ่นยนต์อุตสาหกรรมต่อจำนวนคนงาน ประเทศญี่ปุ่นและประเทศเกาหลี มีค่าความหนาแน่นของหุ่นยนต์ที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมต่อจำนวนคนงานมากที่ สุด โดยประเทศญี่ปุ่นมีหุ่นยนต์ถึง 352 หน่วยต่อจำนวนคนงาน 10,000 คน และประเทศเกาหลีมีจำนวนหุ่นยนต์ 173 หน่วยต่อจำนวนคนงาน 10,000 คน แต่สำหรับอุตสาหกรรม Motor Vehicle ความหนาแน่นของหุ่นยนต์ต่อจำนวนคนงานมีสูงถึง 1 หน่วยหุ่นยนต์ต่อ 10 คนงาน โดยประเทศญี่ปุ่นเป็นอันดับหนึ่งโดยมีจำนวน 1,710 หุ่นยนต์/10,000คนงาน และประเทศอิตาลีเป็นอันดับสองโดยมีจำนวน 1,600 หุ่นยนต์/10,000คนงาน นอกจากนั้นก็มีประเทศเยอรมัน ประเทศฝรั่งเศส ประเทศสเปน ประเทศอเมริกา ประเทศอังกฤษ และประเทศสวีเดนที่มีค่าความหนาแน่นรองลงมา
      
      
      

      
       ท่านผู้อ่านสามารถส่งข้อคิดเห็น/เสนอแนะมาที่ผู้เขียนที่ djitt@fibo.kmutt.ac.th


http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9520000035955

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น