ธัมมัสสวนะ – การฟังธรรม
อย่าเข้าใจว่าต้องเป็นการฟังธรรม คือคำสอนของพระพุทธเจ้าที่ปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎกเท่านั้น แม้การฟังวิทยาการที่ไม่มีโทษในทางโลกซึ่งเป็นไปเพื่อประโยชน์ในโลกนี้ ก็ชื่อว่าฟังธรรมเหมือนกัน... การฟังถ้าหากเป็นการฟังธรรมของพระพุทธเจ้าจริงท่านบอกว่า สงเคราะห์เข้าในภาวนาได้ เพราะเป็นการฟังธรรมที่หาโทษไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง ปราศจากมลทินทั้งปวง เป็นไปเพื่อขัดเกลาจิตใจให้สะอาด นับว่าเป็นเครื่องอบรมจิตประการหนึ่ง เพียงแต่เป็นส่วนเบื้องต้นเท่านั้น หรืออีกนัยหนึ่ง การเจริญสมถะก็ตาม เจริญวิปัสสนาก็ตาม จะสำเร็จด้วยดีก็ด้วยการฟังธรรมเสียก่อน เพราะฉะนั้น ธัมมัสสวนะจึงสงเคราะห์เข้าในภาวนาได้ เนื่องด้วยเป็นเบื้องต้นของภาวนา คือของสมถภาวนาและวิปัสสนาภาวนา
ธัมมเทศนา – การแสดงธรรม
ธัมมเทศนา การแสดงธรรมก็ทำนองเดียวกัน ชี้แจงแนะนำคนอื่นเกี่ยวกับธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง ทรงบัญญัติ ทรงแนะนำไว้ก็ได้ เกี่ยวกับธรรมคือวิทยาการทางโลกที่หาโทษมิได้ก็ได้ เช่น แนะนำความรู้เกี่ยวกับการประกอบอาชีพที่สุจริต ไม่เบียดเบียนสัตว์อื่น เป็นต้น ให้แก่คนทั้งหลาย เอาไปใช้เป็นเครื่องมือประกอบการหาเลี้ยงชีพ อย่างนี้เป็นต้น ล้วนสงเคราะห์เข้าในธัมมเทศนาทั้งนั้น
การแสดงธรรมนี้สงเคราะห์ได้เป็น 2 อย่างคือ สงเคราะห์เข้าในทาน เป็นการให้ธรรม สมดังที่ตรัสไว้ว่า “การให้ธรรมะชนะการให้ทั้งปวง” พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้อย่างนี้ ทั้งยังสงเคราะห์เข้าในภาวนาได้อีก เพราะปรากฏว่าภิกษุผู้แสดงธรรมให้แก่พระภิกษุอื่นได้สดับตรับฟัง พอจบเทศนา ท่านได้สำเร็จมรรคผลเป็นพระอรหันต์ อย่างนี้เป็นต้น
บทความโดย อาจารย์ไชยวัฒน์ กปิลกาญจน์
ขอขอบพระคุณ ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น