ในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติ สิริกิตติ์ มีอีกเล่มที่ถูกเปิดตัวในบ่ายวันที่ 7 ชื่อหนังสือ “สื่อหัวดื้อแห่งระบอบทักษิณ” โดย เติมศักดิ์ จารุปรารณ, อัญชลีพร กุสุมภ์ และยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที
สื่อมวลชนที่อยู่ในวงการข่าวมากกว่าคนละ 10 ปีขึ้นไป ซึ่งคุณอัญชลีพรอยู่ในวงการนานที่สุดถึง 17 ปี
หนังสือเล่มนี้ เป็นการบันทึกเสียงสัมภาษณ์ของสื่อมวลชนทั้ง 3 ท่าน กล่าวถึงประสบการณ์ชีวิตที่โชกโชนในการทำงานสื่อในช่วงชีวิตที่ผ่านมา เล่าเรื่องราวของแต่ละท่าน อาทิ คุณอัญชลีพร ตั้งแต่ทำงานที่ช่อง 7 สี ไอทีวี จนมาอยู่ที่ ASTV , คุณยุทธิยง เข้าไปสมัครงานที่ช่อง 7 ในวันที่คุณอัญชลีพรลาออกพอดี ก่อนทีจะไปทำงานที่ช่อง 3 และมาอยู่ที่ ASTV ส่วนคุณเติมศักดิ์ เริ่มงานอ่านข่าวทางวิทยุของบริษัทมีเดียพลัสก่อนที่จะไปอ่านข่าวไอทีวี และมาอยู่ที่ ASTV ในปัจจุบัน
คุณเติมศักดิ์ อายุน้อยกว่า คุณอัญชลีพร 4 ปี แต่เวลาออกหน้าจอทีวี อาจจะดูหน้าตาอาวุโวกว่า
ทั้ง 3 คนเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากแต่ละแห่ง มาเจอกันที่ ASTV ในที่สุด
การทำข่าวที่อื่นๆ อาจจะมีข้อจำกัดที่ว่า บางข่าวอาจจะนำเสนอไม่ได้เต็มที่ เพราะอาจจะไปประทบกับผู้สนับสนุนโฆษณาหรือสปอนเซอร์ แต่ที่ ASTV สามารถที่จะเล่นข่าวต่างๆได้อย่างเต็มที่ หากข่าวนั้นมีประโยชน์กับประชาชน
รูปแบบการทำงานของทั้ง 3 สื่อหัสดื้อ การติดตามข้อมูล ติดตามความเป็นไปของเหตุการณ์ เกิดความรู้สึก อินกับข้อมูล (ไม่ลืมข้อมูล) เมื่อพูดข่าว เล่าข่าว ข้อมูลจะพรั่งพรูออกมาเอง
พูดถึงชื่อหนังสือ “สื่อหัวดื้อในระบอบทักษิณ” เมื่อถามถึงแต่ละท่าน อยากจะตั้งชื่อหนังสือนี้ว่าอะไรบ้าง
อัญชลีพร “ก้าวจากทีวีเสรีสู่ทีวีขัดขืน”
ยุทธิยง – มีแต่ให้
เติมศักดิ์ - โทรทัศน์ขัดขืนแห่งระบอบทักษิณ
แต่คนที่ตัดสินใจตั้งชื่อหนังสือ คือ คุณวิทยา ร่ำรวย บรรณาธิการที่อ่านเนื้อหาทั้งเล่มแล้วสรุปเป็น ชื่อ “สื่อหัวดื้อแห่งระบอบทักษิณ”
ในรายการ New Hours ช่วงเวลา 15.20-16.30 น. เป็นรายการวิเคราะห์ข่าวตอนบ่าย 3 โมง โดย คุณเติมศักดิ์ และอัญชลีพร เป็นรายการข่าว กึ่งเล่า แต่วิเคราะห์ข่าวการเมืองแบบเข้มข้น
คุณเติมศักดิ์เวลาพูดวิเคราะห์ในรายการนี้ พูดแบบนิ่งๆ แต่เนื้อหาหนักแน่น เข้มข้น ส่วนคุณอัญชลีพร การพูดจามีลูกล่อลูกชน ลีลาการเหน็บแนบสุดยอดจริงๆ การจัดรายการ New Hours ถือว่าเป็นธรรมชาติของเธอมากๆ ใช้วาจาเชือดเฉือนตรงๆ ไม่ต้องปูพื้นเรื่องเก่าๆ เพราะผู้ชมติดตามอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว
ส่วนบุคลิคคุณยุทธิยงนั้น จะมาในแบบลูกทุ่ง เซอๆ มีคารมเป็นต่อ ในช่วงแรกที่เขาเข้ามาทำข่าวกับหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ เขาเข้าไปเจาะข่าววาตภัยพายุเกย์ กลับมาขึ้นพาดหัว “เตะหมูเข้าปากหมา” เป็นสำนวนข่าวที่ปัจจุบันยังใช้กันอยู่...
การวิเคราะห์ข่าวสไตล์ของเติมศักดิ์ จารุปรารณ ชอบที่จะหยิบคอลัมภ์บทวิเคราะห์ในหนังสือพิมพ์ต่างๆหยิบมาอ่านให้ผู้ชมได้ฟัง เพราะมองว่า ความเห็นก็เป็นข่าวได้ เนื่องจากมีมุมมองที่ว่า รายการเล่าข่าวอื่นๆ จะเล่นพาดหัวข่าวไปจนหมดแล้ว จึงหยิบความเห็นในคอลัมภ์ที่น่าสนใจ มาวิเคราะห์ให้ฟัง เติมเต็มความคิดให้กับคนดู ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่มีคนเช่าข่าวช่องไหนทำกัน
สำหรับหนังสือ “สื่อหัวดื้อแห่งระบอบทักษิณนั้น” เป็นการสัมภาษณ์แล้วตัดเนื้อหาหลายส่วนออกไป เพราะในวงการข่าวของไทย มีทั้งสิ่งที่ซ่อนเร้นและเป็นจริงปรากฏอยู่ ย่อมมีทั้งการพาดพิงถึงเพื่อนเก่า ที่ทำงนเดิม จึงปรับเนื้อหาโดยมองในมุมกว้างๆ เนื้อหาในเชิงวิชาการ
สำหรับแนวคิดที่เป็นตัวของตัวเอง เมื่อแสดงแนวทางอย่างชัดเจนเช่นนี้ เพื่อสื่อในช่องอื่นๆเมื่อรับรู้ว่า คิดเช่นนี้ เลยถูกมองว่าเป็นคนละพวก ซึ่งได้ทำใจกันไว้แล้ว โดยรายละเอียดในเล่มนี้ ได้กล่าวถึงเพื่อนในหลายๆช่อง แต่การมาพบเจอกันในที่สาธารณะในเวลานี้ คงไม่เหมาะสม อาจมีคนมองว่า เป็นพวกเดียวกับคน ASTV หรือเปล่า ซึ่งทำให้มีเพื่อนเก่าๆในช่องต่างๆน้อยลง
ต่อคำถามที่ว่า เมื่อทั้ง 3 คนมาทำงานที่ ASTV แล้ว ค้นพบอะไรบ้าง
คุณอัญชลีพร – ไม่เคยคิดว่าจะทำงานสื่ออย่างมีความสุขเช่นนี้ เสียเพื่อนไป 5 ได้มา 500, สำหรับที่นี่กล้าที่จะอ่านเนื้อหาข่าวทุกแนว อ่านทุกคอลัมภ์อย่างเปิดเผย กล้าเสนอแนวคิดที่ทำให้สังคมไปในทางที่ถูกต้อง
คุณยุทธิยง - เมื่อเสรีภาพอยู่ในขอบเขตที่เป็นท้องฟ้ากว้างใหญ่ ไม่ใช่แค่ในกรงนก จะทำให้นกแข็งแรง เก่ง มีมันสมองที่เติบโตขึ้น
คุณเติมศักดิ์ - แฟนๆ ASTV ร่วมสร้างแนวทางการนำเสนอให้พวกเราอย่างชัดเจน ทำให้ทีมงานมั่นใจในสิ่งที่กำลังนำเสนอ สร้างความมั่นใจ ความรู้จัก ว่า ได้เดินมาถูกทางแล้ว ทำถูกต้องแล้ว เกิดความรู้สึกว่า เป็น 1 ใน 7 พันหมู่บ้าน เป็นหมู่บ้านเดียวที่ไม่เอากองทุนหมู่บ้าน
ยุทธิยง- ยามเกิดวิกฤติทางการเมืองช่วงที่ผ่านมา ช่วงเวลาที่เงินเดือนไม่ออก ชาวบ้านควักเงินให้ เอาไปใช้ก่อน
ตอนที่ม็อบมอเตอร์ไซต์รับจ้างมาป่วนสำนักพิมพ์ผู้จัดการ ทำให้พวกเรารู้ว่า เรามาถูกทางแล้ว เมื่อเจอจิตใจที่ต่อสู้ของพนักงาน เอาขวดน้ำขว้างเข้าใส่
อัญชลีพร - สื่ออย่างพวกเราไม่เป็นกลาง แต่ขายความเป็นธรรม มีแต่ดำกับขาว ไม่มีสีเทา ให้ดูว่าสิ่งที่ถูกต้องคืออะไร
ยุทธิยง – การรับรู้ข่าวสารในปัจจุบัน หลอกกันไม่ได้แล้ว ทุกคนรู้เท่ากันหมด ผู้ชมเป็นบรรณาธิการของเรา
เติมศักดิ์ – บางครั้งข้อมูลของเราก็พลาด ผู้ชมโทรมาแก้ไขให้ ทำให้รู้สึกว่าสื่อสารกับผู้ชมที่มีองค์ความรู้จริงๆ
ในสื่อบางกลุ่ม จะเล่นข่าวสาธารณะอย่างเป็นกลาง แต่เล่นข่าวส่วนตัวไม่เป็นกลาง วิจารณ์เต็มที่ ออกไอ้ อี ใสอารมณ์ ใสสีสัน แต่ในสื่อ ASTV เวลาเล่นข่าวสาธารณะจะไม่เป็นกลาง แต่ข่าวสาวนตัวจะเป็นกลาง เพราะไม่มีใครรู้เรื่องส่วนตัวได้ดีกว่าคู่กรณีที่เกี่ยวข้อง
อัญชลีพร – สาเหตุของการเกิดขึ้นของหนังสือเล่มนี้ คุณยุทธิยงบอกว่า เราควรจะเขียนอะไรออกมาบ้าง ในความเป็นสื่อในช่วงปี 2549 อะไรคือความเป็นกลาง ไม่เป็นกลาง
ในเรื่องของการเดินขบวนของประชาชนบนถนนไปยังสยามพารากอน สื่อทั่วไปพูดว่า เป็นการเดินขบวนที่เกะกะ กีดขวางการจราจร เมื่อไหร่จะเลิกสักที แต่เติมศักดิ์ อัญชลีพร พูดว่า นี่คือการแสดงออกถึงสิทธิ์ในการดูแลบ้านเมือง สิทธิในการเรียกร้องความเป็นธรรมตามระบอบประชาธิปไตยของประชาชนไทย
จากการเปิดตัวหนังสือ สื่อหัวดื้อแห่งระบอบทักษิณ 7 เม.ย.2550 13.00-14.00 น.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น