ขณะที่โครงการรับจำนำข้าว กำลังเป็นจะ "ประชานิยมฝีแตก" ป่านนี้ยังหาเงินจ่าย "หนี้ชาวนาไม่ได้" จนต้องชุมนุมประท้วงปิดถนนเป็นอัมพาตทั้งสายเหนือและสายใต้วุ่นวายไปหมด
"ความวัวไม่ทันหาย ความควายก็เข้ามาแทรก" เมื่อ "โครงการแท็บเล็ต" เด็กป.1 เป็นอีกประชานิยมของรัฐบาลฝีกำลังแตกตามมา เมื่อ "บริษัท เซินเจิ้น อิงถัง" ซึ่งเป็นตัวแทนของบริษัท เซินเจิ้น อิงถัง อินเทลลิเจนท์ คอนโทรล จำกัด ในประเทศไทยที่ชนะการประมูลแท็บเล็ตในพื้นที่เขตที่ 1 และที่ 2 (จาก 4 เขต) จำนวน 9 แสนเครื่อง ในราคาเครื่องละ 2,400 บาท รวมเม็ดเงินเฉพาะเซินเจิ้นฯ รายเดียวคว้าพุงปลา 2 พันกว่าล้านบาท ล่าสุดขอยกเลิกสัญญาทั้งหมดที่ลงนามเอาไว้
อันที่จริงมีเค้าจะเบี้ยวมาตั้งนานตั้งแต่แจ้งคณะกรรมการตรวจแท็บเล็ตว่า ไม่สามารถส่งมอบได้ทันวันที่ 26 ธ.ค.2556 ที่ผ่านมา แถมต่อรองว่าจะไม่ยอมเสียค่าปรับ 2.2 ล้านบาท ในการส่งมอบของล่าช้า ขอขยายเวลาส่งมอบจากเดิมออกไป และขอให้คณะกรรมการตรวจแท็บเล็ตเดินทางไปที่จีน
ยังไม่ทันรู้ผลว่าการเจรจาต่อรองเป็นอย่างไร บริษัทนี้ก็อาศัยช่วงที่การเมืองยังชุลมุนเป็นข้ออ้างขอยกเลิกสัญญา ปล่อยเด็กที่รอรับแท็บเล็ตอีก 9 แสนคนต้องรอเก้อ
โครงการแท็บเล็ตจึงเป็นอีกหนึ่ง "โบดำ" ประชานิยมในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ใช้หาเสียงเลือกตั้ง ท่ามกลางเสียงคัดค้านของผู้รู้และผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่นเดียวกับโครงการรับจำนำข้าว ที่ไม่เห็นด้วยกับการแจกแท็บเล็ตกับเด็กป.1 เพราะจะเสียมากกว่าได้ หลายคนกลัวว่าเนื้อหาที่ใส่เข้าไปน้อยไม่ทันสมัยใช้ประโยชน์ไม่เต็มที่ เด็กๆ เอาไปเล่นเกมมากกว่า
แถมสตง.เคยแจ้งเตือนว่ามีแท็บเล็ตพังถึง 30% กว่า 2 แสนเครื่อง จาก 8 แสนเครื่อง โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งในนโยบาย "ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ"
ซึ่งล่าสุด นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการรมว.ศึกษา ธิการ ระบุว่าการจัดซื้อแท็บเล็ตที่ผ่านมามีปัญหามาก ทั้งวิธีการ กระบวนการจัดซื้อ และปัญหาแทรกซ้อน
เช่น บริษัทที่เสนอราคาประมูลต่ำแต่ทำไม่ได้จริง มีข้อสงสัยว่าแข่งกันจริงหรือไม่ นี่เป็นอีกหนึ่งปัญหาและด้านลบจากประชานิยม
เมืองไทย 25น./ทวี มีเงิน
ข่าวสดออนไลน์, 6 ก.พ.2557
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น