รัสเซีย 2014

การเข้าแทรกแซงปัญหาอาวุธเคมีในซีเรียของ วลาดิเมียร์ ปูติน ดูเหมือนจะทำให้รัสเซียกลับมามีที่ยืนในเวทีโลกอีกครั้ง แต่การแก้ปมปัญหาสิทธิมนุษยชน โดยชักชวนนักกีฬารักเพศเดียวกันมาร่วมมหกรรมโอลิมปิกฤดูหนาว และการให้นิรโทษกรรมแก่ผู้เห็นแตกต่างทางการเมือง อย่างสาวๆ "พุซซี่ ไรออต" กลับถูกมองว่าแค่สร้างภาพ

ปูตินจึงต้องงัดนโยบาย "เปิดกว้าง เป็นกลาง และมีศีลธรรม" และมีความหลากหลายทางวัฒนธรรมทั้ง "เอเชีย-ยุโรป" ออกมาย้ำอีกครั้ง แสดงถึงการคานอำนาจกับสหรัฐ ที่นับวันจะพัฒนาแซงหน้าแบบไม่เห็นฝุ่น

แต่การที่รัสเซียผูกมิตรกับจีน มหาอำนาจของเอเชียที่อยู่ใกล้กัน และขัดขวางการแทรกแซงประเทศมีปัญหาหลายแห่ง ไม่ว่า ซีเรีย เกาหลีเหนือ ก็ถูกตั้งคำถามเช่นกัน

ยิ่งเมื่อชนกับสหภาพยุโรป (อียู) ไม่ให้เข้ามาใกล้ชิดยูเครนที่เคยเป็นอาณัติในยุคสหภาพโซเวียต เพื่อพิทักษ์ผลประโยชน์ของตน แต่ดูเหมือนว่ารัสเซียจะรั้งยูเครนไว้ได้ไม่นาน เพราะดูเหมือนประชาชนยูเครนครึ่งหนึ่งต้องการเศรษฐกิจและการเมืองแบบโลกเสรี มากกว่าให้รัฐชี้ชะตาแบบรัสเซีย

ในฐานะประธานาธิบดี ปูตินย้ำว่าการจะพัฒนาไปข้างหน้าจะต้องแก้ปัญหาคอร์รัปชั่นเสียก่อน โดยเฉพาะในการเมืองท้องถิ่น แต่ช่วงทิ้งทวนปีเก่า เกิดเหตุก่อการร้ายระเบิดพลีชีพ 2 ครั้งติดต่อกันในเมืองโวลโกกราด มีผู้เสียชีวิตกว่า 34 ราย เขย่าความมั่นคงรัสเซียอีกครั้ง

ปูตินต้องหันไปเน้นด้านความมั่นคงตั้งแต่ต้นปี ไม่เช่นนั้นการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกที่เมืองโซชี อาจไม่ได้ผลบูมภาพลักษณ์ประเทศดังที่หวังไว้

รุ้งตัดแวง/สปาย-กลาส
ข่าวสดออนไลน์, 7 ม.ค.57