Theขี้ฝุ่นริมทาง
วันพฤหัสบดีที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557
นิทานในเดือนแห่งความรัก.."เจ้าหญิงเหนื่อยรัก กับ ชายนิรนาม" Cr.ดินสอสีฟ้า
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วมั้ง มีเจ้าหญิงรูปงามองค์หนึ่งซึ่งรู้สึกแย่และผิดหวังกับความรักที่เจ้าชายจากเมืองต่างๆที่มาคอยมอบคำหวานและของกำนันต่างๆให้แก่เจ้าหญิง ไม่ว่าจะกี่รายต่อกี่รายก็หวังเพียงแต่จะครอบครองความงดงามทางกายของเจ้าหญิงเท่านั้น หาได้จริงใจรักเจ้าหญิงไม่ ด้วยความเบื่อหน่ายและเซ็งเป็ดของเจ้าหญิงจึงได้มีคำสั่งออกไปว่า ห้ามมิให้ชายผู้ใดเข้ามาในปราสาทของเจ้าหญิงโดยเด็ดขาด พร้อมทั้งได้เชิญเหล่าเจ้าชายพวกนั้นกลับบ้านเกิดเมืองนอนของตนเอง
แต่แล้วอยู่มาวันหนึ่ง ก็มีชายแปลกหน้ามาที่ปราสาทของเจ้าหญิงเพื่อขอพบกับเจ้าหญิงผู้นั้น และชายผู้นั้นได้อ้างว่าตนรู้จักกับเจ้าหญิงมาก่อน จนในที่สุดเรื่องนี้ก็ไปถึงหูของเจ้าหญิงเข้าและพระนางก็ได้ออกมาดูชายผู้นั้นด้วยพระองค์เอง ใช่แล้ว เจ้าหญิงจำชายผู้นั้นได้ เพราะทั้งสองเคยพบเจอกันอยู่หลายต่อหลายครั้ง โดยเฉพาะเมื่อเจ้าหญิงเศร้าพระทัย
ไม่นาน ชายผู้นั้นก็ได้เข้าไปในปราสาท และเจ้าหญิงก็ได้เล่าเรื่องราวต่างๆที่กี่ยวกับความรักของนางให้ชายผู้นั้นฟังอย่างท้อแท้และหมดกำลังใจที่จะตามหารักแท้ของนาง ส่วนชายผู้นั้นหลังจากที่ได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดนั้นแล้วก็ได้ให้กำลังใจ คำปลอบโยน เและให้คำแนะนำต่างๆแก่เจ้าหญิง ไม่นานหลังจากนั้น เจ้าหญิงก็ดีมีชีวิตชีวาขึ้น ดูสดใสร่าเริงอีกครั้ง นั่นทำให้ชายผู้นั้นมีความสุขเช่นกันที่ได้เห็นรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของเจ้าหญิงอีก
ในที่สุด เมื่อมีพบเจอ ก็ย่อมมีจากลากันไป แม้ว่าเจ้าหญิงอาจจะไม่ได้คิดอะไรกับชายผู้นั้นก็ตาม แต่เหมือนชายผู้นั้นก็ได้ตกหลุมรักเจ้าหญิงเข้าให้แล้ว ไม่ใช่เพราะเจ้าหญิงเป็นคนสวยงามภายนอก แต่เพราะเขาได้เห็นถึงความสวยงามภายในของเจ้าหญิง ความเป็นกันเองไม่ถือตัว รอยยิ้มที่มีให้กับทุกคน ความอ่อนโยนที่มีให้แก่ผู้อื่น ความสุภาพ อ่อนหวาน ความเป็นตัวของตัวเอง และอื่นๆอีกมากมายที่ไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้หมดนอกจากคำว่า “รัก” แต่ เขากลับคิดว่าเขาไม่ดีพอและเจ้าหญิงควรพบเจอกับคนที่ดีและเหมาะสมกว่าเขาที่เป็นเพียงแค่ชายนิรนาม
ก่อนที่ชายผู้นั้นจะกลับ เขาได้เดินเข้าไปหาเจ้าหญิงและบอกกับเจ้าหญิงว่า
“เรารักเธอนะ เธอไม่ต้องใส่ใจเก็บไปคิดมากก็ได้ แต่เราขอให้เธอรู้ว่า ยังมีคนๆนี้อีกคนหนึ่ง ที่จะยืนเคียงข้างเธอ คอยให้กำลังใจ คอยปลอบโยน คอยช่วยเหลือ และรักเธอสุดหัวใจนะ”
หลังจากชายผู้นั้นพูดจบ เจ้าหญิงก็ยิ้มตอบรับชายผู้นั้นอย่างอิ่มสุข จากนั้นชายผู้นั้นก็เริ่มเดินออกห่างจากเจ้าหญิง เมื่อร่างกายของเขากระทบกับแสงจันทร์ยามค่ำคืนก็มีประกายประหลาดระยิบระยับจับตาออกมาจากตัวของชายผู้นั้น เขาหันกลับไปยิ้มให้กับเจ้าหญิงอีกครั้งก่อนที่ตัวของเขาจะค่อยๆล่องลองขึ้นสู่ท้องฟ้าและกลายเป็นดวงดาวส่องสว่างในยามราตรีบนฟากฟ้าไกล
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
หากคุณรักใครสักคน ไม่จำเป็นและไม่สำคัญว่าคุณจะต้องครอบครองรักนั้น แต่สำคัญที่ คุณจะต้องทำให้คนที่คุณรักนั้น มีความสุขมากที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น