++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพฤหัสบดีที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

16 สิ่งที่ควรทำก่อนเลิกงานทุก ๆ วัน


16 สิ่งที่ควรทำก่อนเลิกงานทุก ๆ วัน
Post on 30-Jan-14
โดย jobsDB

ใน 2-3 ชั่วโมงสุดท้ายของการทำงานในแต่ละวัน ควรเตรียมความพร้อมสำหรับวันทำงานในวันรุ่งขึ้นให้พร้อม ซึ่งมีทั้งหมด 16 วิธีง่าย ๆ มาแนะนำว่าควรจะทำอะไรก่อนเลิกงาน

ประเมินตัวเอง

เขียนลงในกระดาษแล้วประเมินดูตัวเองว่าสิ่งต่าง ๆ ที่เขียนลงไปเหล่านั้นมีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหน หากไม่จำเป็นก็ควรจะคัดออกและเรียงลำดับความสำคัญให้ถูกต้อง เพื่อลดปัญหากับการทำงานตามมาทีหลัง การวางแผนและการประเมินตัวเองก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญที่จะกำหนดความสำเร็จในอนาคต

ทบทวนตารางการทำงานล่วงหน้า

เช็คให้ดีว่าวันรุ่งขึ้นมีนัดหมาย การประชุมอะไรไว้รึเปล่า เพื่อเป็นการเตือนความจำล่วงหน้าและยังช่วยลดความเสี่ยงจากการผิดพลาดต่าง ๆ ได้

พูดคุยกับหัวหน้างานและเพื่อนร่วมงาน

ก่อนเลิกงาน หาเวลาสัก 5-10 นาทีคุยกับหัวหน้างานของเรา อัพเดทโปเจค หรือความคืบหน้าของงานที่กำลังทำอยู่ หรือพูดคุย สอบถามเพื่อนร่วมงานของเราด้วยเช่นเดียวกัน หากมีการสื่อสารอยู่เสมอจะช่วยให้งานเสร็จได้ตามเวลา

ปัด กวาด เช็ด ถู

ให้เวลาอย่างน้อย 15 นาที ในแต่ละวันก่อนกลับบ้าน ทั้งทำความสะอาดโต๊ะทำงานให้เรียบร้อย และเช็คอีเมลของเราให้หมดว่ามีงานอะไรที่ตกค้างรึเปล่า หรืองานที่จะต้องทำในวันถัด ๆ ไป

เคลียงานให้เสร็จ

ในช่วงเวลาก่อนเลิกงานเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด เพราะหากมีงานค้างเยอะเช้าวันใหม่ก็จะกลายเป็นวันที่วุ่นวายสำหรับคุณ ถ้าหากคุณมีการวางแผนงานมาเป็นอย่างดีแล้ว จะช่วยให้การทำงานแต่ละวันนั้นงานไม่เยอะทับถมจนเกินไป

เอาใจใส่

อย่าเพิ่งกลับบ้านถ้าหากว่ายังไม่ได้ตอบอีเมล เพราะนี่เป็นอีกหนึ่งมารยาทที่คนทำงานพึงกระทำ ไม่ใช่พอถึงเวลาเลิกงานแล้วมุ่งหน้ากลับบ้านเลยทันที แต่ควรเอาใจใส่กับเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ รวมทั้งหัวหน้างานอีกด้วยเพื่อเปลี่ยนให้บรรยากาศออฟฟิศเป็นเหมือนครอบครัว ๆ หนึ่ง

ทำสิ่งใหม่ ๆ

การบริหารเวลาการทำงานดี ก็จะช่วยให้คุณเริ่มงานใหม่ในตอนเช้าได้อย่างสดใส พอทุกอย่างลุล่วงไปได้ด้วยดีคุณก็สามารถสร้างสรรค์งานใหม่ ๆ มาได้ ดังนั้นการวางแผนทำงานหรือโปรเจคใหม่จะช่วยให้คุณสามารถก้าวหน้าทางอาชีพ และพัฒนาทักษะการทำงานได้อีกด้วย

มองย้อนดูในแต่ละวัน

สำหรับเรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่คนส่วนใหญ่มักลืมที่จะทำ หรือละเลย เพราะหากว่าไม่ได้กลับมาคิดทบทวนในสิ่งที่ทำลงไป อาจจะทำให้คุณกลับมาพลาดซ้ำที่จุดเดิมอีกก็เป็นได้ หรืออาจทำงานซ้ำ ทำให้เสียเวลามากกว่าเดิม

เขียนความสำเร็จ

เขียนอย่างน้อย 3 สิ่งที่ดีที่เกิดขึ้นในระหว่างวัน เพื่อเพิ่มกำลังใจในการทำงาน ไม่ใช่เพียงแค่คิดอยู่ในหัว แต่ให้เขียนลงบนกระดาษแล้ววัน ๆ หนึ่งกับการทำงานจะเป็นวันที่เพอร์เฟ็คสำหรับคุณ

การบอกลา

ในชีวิตการทำงานสามารถสร้างให้เป็นเหมือนกิจวัตรประจำวันได้แล้วการทำงานของคุณก็ช่วยให้มีความสุขมากขึ้น และการบอกลาเพื่อนร่วมงานก่อนกลับก็เป็นอีกกิจวัตรนึงที่คุณควรกระทำ เพราะจะช่วยให้เชื่อมความสนิทสนมกันมากขึ้น รวมทั้งการทักทายในตอนเช้าด้วยเหมือนกัน อย่าลืมว่าเพื่อนร่วมงานของเรานั้นจะต้องทำงานด้วยกันไปตลอด ดังนั้นการเชื่อมสัมพันธ์ให้สนิทกันมากขึ้นจึงเป็นเรื่องจำเป็น

การเลียงลำดับความสำคัญของการใช้อีเมลและการใช้โทรศัพท์ที่ผิด

ถึงแม้คุณจะเตรียมตัวมาทำงานเป็นอย่างดี แต่ถ้าหากเลียงลำดับความสำคัญที่ผิดพลาด การทำงานในวันรุ่งขึ้นของคุณก็อาจจะยุ่งเหยิงในที่สุด ดังนั้นควรวางแผนให้ดีเพราะว่าบางครั้งอีเมลอาจจะถูกมากใกล้กับเวลาเลิกงาน หรือเลิกงานไปแล้ว ควรเลียงลำดับความสำคัญก่อนหลังโดยพิจารณาในแต่ละอีเมลว่างานไหนที่สำคัญกว่าและจำเป็นจะต้องส่งก่อนก็ควรจัดมาเป็นลพดับแรก ๆ ที่ควรตอบอีเมลกลับ แต่ถ้าหากว่าจะต้องใช้เวลาในการทำโปรเจคตัวนี้นานหน่อย คุณอาจจะส่งตอบกลับไปวันเวลาจะทำเสร็จที่กำหนดให้ชัดเจน

กลับบ้านด้วยทัศคติดี ๆ

เขียนหรือจดบนทึกในแง่ดี ๆ ที่เกี่ยวกับการทำงาน เพื่อนร่วมงานแล้วส่งให้เพื่อนร่วมงานของคุณ เพียง 2-3 ประโยคก็สามารถช่วยให้เพื่อนร่วมงานของคุณมีความสุขได้ และจะทำให้บรรยากาศการทำงานดียิ่งขึ้นไปอีกด้วย

การตัดขาด

ไม่จำเป็นที่จะต้องปิดโทรศัพท์มือถือ แต่อย่างให้ปิดระบบเตือนของอีเมลเข้ามา จะได้ไม่รบกวนเพื่อนร่วมงาน หาเวลาว่างติดต่อกลับสำหรับบางสายหรืออีเมลที่ยังไม่ได้ตอบกลับ หมายถึงธุรส่วนตัวที่ไม่ได้เกี่ยวกับงาน ซึ่งไม่จำเป็นถึงขนาดจะต้องตัดขาดทั้งหมดเพียงแบ่งเวลาให้ดี โดยเฉพาะเวลาทำงานก็ควรจะโฟกัสกับการทำงานให้เต็มที่

มีการวางแผนที่รอบคอบ

ความเครียดจากการวางแผนที่ไม่รอบคอบ หรือมีเวลาที่จำกัดมาก เวลาที่อยู่ในออฟฟิศอาจจะต้องลงมือทำงานซะมากกว่าคิดงาน ดังนั้นการคิดงานหรือวางแผนงานจึงไม่ได้ถูกจำกัดแค่ที่ออฟฟิศเท่านั้น แต่คือทุก ๆ ที่ที่เราสามารถคิดงาน วางแผนงานได้ เพียงแค่นี้ก็สามารถช่วยลดความเครียดจากการทำงานได้ไม่มากก็น้อย เปลี่ยนบรรยากาศการวางแผนงานบ้าง เผื่อได้ไอเดียใหม่ ๆ หรือความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ

ปล่อยความเครียดไว้ที่ประตู

เมื่อคุณเดินออกจากประตู (ออฟฟิศ) ให้ทิ้งความเครียดไว้ข้างหลัง ให้ความเครียดมันจบลงแค่วันนั้น ๆ อย่าเก็บความเครียดมาใช้ในวันถัดไป สิ่งที่รอคุณอยู่ที่บ้านคือครอบครัว ไม่จำเป็นที่จะต้องเอาความเครียดไปฝากครอบครัว แค่ให้มอบคความสุขและความรักมาแทนที่

กลับบ้าน

ขั้นตอนสุดท้ายคือ เก็บของ ปิดไฟ กลับบ้าน !! ไม่จำเป็นจะต้องกลับบ้านเป็นคนสุดท้าย อย่ากลายเป็นคนที่บ้างาน เอาแต่ทำงานจนลืมแบ่งเวลาให้ส่วนอื่น ๆ การเป็นคนทำงานหนักนั้นดี แต่ถ้าหากทำงานหนักทุกเรื่องกับเรื่องที่ไม่จำเป็นอาจจะทำให้คุณต้องเหนื่อยเปล่า ดังนั้นควรกลับด้วยรอยยิ้มและความสุข พร้อมที่จะเริ่มงานวันใหม่อย่างสดใส


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น