Theขี้ฝุ่นริมทาง
วันเสาร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557
• สร้างขวัญและกำลังใจให้แก่พนักงานเพื่องานที่ดีกว่า!
ที่มา: Adecco Group Thailand
ขวัญและกำลังใจของพนักงานที่ดี ย่อมหมายถึงผลประกอบการที่ดี
องค์กรและคนทำงานในประเทศไทยส่วนใหญ่ตระหนักดีว่าพนักงานที่มีความสุข ย่อมก่อให้เกิดบรรยากาศการทำงานที่รื่นรมย์ แต่รู้หรือไม่ว่า พนักงานที่มีความสุขเหล่านั้นยังช่วยประหยัดเงินให้กับธุรกิจของคุณด้วย? ทั้งนี้เพราะพนักงานที่มีความสุขก็มักจะมีแนวโน้มที่จะทำงานได้มากกว่า มีการหยุดลามาสายน้อยกว่า และมีความจงรักภักดี พร้อมที่จะอยู่กับบริษัทไปนานๆ มากกว่า และถ้าเหตุผลเหล่านี้ยังไม่เพียงพอที่จะให้องค์กรของคุณตระหนักถึงความสำคัญของการเพิ่มขวัญและกำลังใจของพนักงาน ขอให้ลองพิจารณาดูว่าการว่าจ้างและอบรมพนักงานใหม่นั้น โดยเฉลี่ยแล้วมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าการลงทุนเพื่อรักษาคนที่ทำงานอยู่กับองค์กร
อีกหนึ่งคำถาม คือ แล้วธุรกิจของคุณจะสร้างและรักษาบรรยากาศในการทำงานที่เอื้อต่อการแสดงศักยภาพของพนักงานของคุณได้อย่างไร? กลุ่มบริษัทอเด็คโก้ประเทศมีคำแนะนำดีๆ มาฝากเช่นเคย
เริ่มต้นจากการพิจารณาวัฒนธรรมองค์กร
ทุกๆ องค์กรต่างก็มีวัฒนธรรมเป็นของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นด้านบวกหรือด้านลบ แต่หากองค์กรของเราไม่สร้างวัฒนธรรมองค์กรด้านบวกแล้ว โอกาสที่จะเกิดวัฒนธรรมด้านลบในองค์กรก็จะเพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัว ถ้าหากองค์กรสามารถเปลี่ยนมุมมองที่พนักงานมีต่อองค์กรได้ ผ่านทางทัศนคติที่ดี การสื่อสารที่ดี และรางวัลจูงใจที่เหมาะสม ก็จะเป็นการสร้างวัฒนธรรมองค์กรด้านบวกที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้แก่พนักงานของพวกเขาได้
สร้างบรรยากาศการทำงานในแต่ละวันให้เป็นไปในทางบวก
ถ้าหากหัวหน้างาน แสดงทัศนคติด้านบวกต่อบริษัท ชีวิตและหน้าที่การงานออกมา จะช่วยสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่พนักงานได้อย่างมากทีเดียว พึงตระหนักว่าทัศนคติของผู้บริหาร หรือหัวหน้างานจะถูกส่งผ่านไปยังอะไรก็ตามที่พวกเขาเหล่านั้นบริหารอยู่ ดังนั้นบริหารงานในแต่ละวันด้วยสิ่งดีๆ แม้พียงแค่คำชม คำทักทายแบบจริงใจ และการพูดคุยเล็กๆ น้อยๆ ก็สามารถช่วยเสริมเติมพลังให้แก่พนักงานได้แล้ว อาจลองเริ่มต้นจากการแบ่งปันเรื่องราวดีๆ ที่น่าสนใจจากหนังสือพิมพ์ หรือเรื่องสนุกๆ ที่คุณได้พบได้เห็นระหว่างเดินทางมาทำงานก็ได้
การสื่อสารที่ดี
องค์กรควรมีการติดต่อสื่อสารกับพนักงานอย่างสม่ำเสมอ อาจจะด้วยการจัดให้มีการประชุม สัมมนา หรือการฝึกอบรมต่างๆ ให้พนักงานได้แบ่งปันความคิดสร้างสรรค์ หรือการสร้างอีเมล์ขององค์กรเพื่อไว้รับข้อเสนอแนะจากพนักงานก็เป็นอีกทางเลือกที่ดี ในการกระตุ้นให้พนักงานทั้งหลายมีบทบาทต่อบริษัทในเชิงรุกมากขึ้น การเปิดโอกาสให้พนักงานได้ร่วมอภิปรายในประเด็นเกี่ยวกับบริษัทหรือสายงานที่พวกเขาสนใจ เท่ากับเป็นการรักษาช่องทางติดต่อสื่อสารระหว่างคุณกับพนักงานไว้ และให้พวกเขาได้เห็นภาพกว้างของบริษัทด้วย การปฏิบัติเช่นนี้ในเชิงรุก เท่ากับเป็นการแสดงให้พนักงานได้เห็นว่าสิ่งที่พวกเขาได้ทำนั้นสำคัญต่อคุณและอนาคตขององค์กรของคุณด้วย
อย่างไรก็ดี ขอให้พึงตระหนักเอาไว้เสมอว่าการติดต่อสื่อสารอย่างเปิดเผยกับพนักงานของคุณนั้นเป็นการสื่อสารสองทาง คำแนะนำที่คุณให้แก่พนักงานก็มีความสำคัญอย่างยิ่งกับผลการปฏิบัติงานของพนักงานเช่นกัน จึงไม่ควรลืมที่จะให้คำชมแบบเฉพาะเจาะจงบุคคลอย่างจริงใจเมื่อมีโอกาส อย่างไรก็ดี ผู้คนส่วนใหญ่นั้นรู้ตัวดีว่าคำชมจากผู้จัดการจริงใจหรือไม่ และการให้ข้อเสนอแนะแบบทั่วๆ ไป (เช่น การชมว่า “ทำได้ดีมาก”) แทนที่จะเป็นการให้คำชมกับความสำเร็จเฉพาะงาน และชี้ให้เห็นถึงสิ่งที่พนักงานประสบความสำเร็จในงานนั้นๆ (เช่น การชมว่า “คุณทำได้ดีมาก ที่ช่วยลดโอเวอร์เฮดได้ 10%”) ก็จะเป็นการชมเชยที่ทำให้พนักงานทราบถึงความสำเร็จที่ตนได้ทำให้กับบริษัท อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญในการชมเชย คือปริมาณคำชมเชยที่เหมาะสมสำหรับพนักงานแต่ละคน และชมเชยเมื่อสมควรก็เพียงพอแล้ว … พนักงานใหม่ที่ยังไร้ประสบการณ์มักจะต้องการคำชมเชยมากกว่าพนักงานที่มากประสบการณ์แล้ว พยายามเลือกเวลาสำหรับการให้คำชมเชยให้พอเหมาะพอดี เพราะหากรอนานเกินไปก็จะไม่เกิดการกระตุ้นให้เขามีพฤติกรรมนั้นซ้ำเท่าใดนัก และควรตระหนักไว้ในใจเสมอว่า “การชมให้ทำในที่สาธารณะ การตำหนิให้ทำในที่ส่วนตัว”
ลงทุนกับความสำเร็จของพวกเขา
บริษัทควรช่วยให้ทีมรักษาตำแหน่งท็อปของตนเอาไว้เสมอด้วยการให้โอกาสในการฝึกอบรมพัฒนา ไม่ว่าจะเป็นการฝึกอบรมภายใน หรือการได้ไปอบรมสัมมนาหรือการเข้าเรียนในสถานศึกษาต่างๆ การให้พนักงานของคุณมีทักษะที่ทันสมัยและความรู้ที่ใหม่สดภายในสาขาอาชีพของพวกเขานั้นมีประโยชน์สองต่อเลยทีเดียว ต่อแรก พวกเขาจะสามารถเป็นตัวแทนที่ดีของธุรกิจของคุณได้ และ ต่อที่สอง คือ การเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ จะช่วยให้พวกเขามีความสนใจและมีความผูกพันในงานอยู่เสมอ
และขอให้จำไว้ว่า การกระทำนั้นสำคัญกว่าคำพูดฉันใด เรื่องการตอบแทนพนักงานก็สำคัญกว่าการชมเชยแต่ปากเปล่าเสมอฉันนั้น การให้ค่าตอบแทนแก่พนักงานอย่างยุติธรรมนั้นเป็นการแสดงให้เห็นว่าคุณได้เห็นคุณค่าที่พวกเขามีต่อทีมของคุณ และแม้ว่าเงินจะไม่ใช่แหล่งกำเนิดของแรงจูงใจหลักที่จะทำให้พนักงานในประเทศไทยทำงานให้ได้ประสิทธิผลดี แต่การให้ค่าตอบแทนที่ต่ำเกินไปนั้นย่อมทำให้คุณสูญเสียทีมที่สำคัญของคุณไปอย่างแน่นอน เพราะเมื่อพวกเขาเชื่อว่าคุณไม่ได้เห็นคุณค่าของความพยายามของพวกเขา พวกเขาก็พร้อมที่จะมองหาที่ทำงานใหม่ และนั่นก็จะเพิ่มอัตราลาออกของพนักงาน และบั่นทอนขวัญกำลังใจของพวกเขา
คุณสามารถทำงานในออฟฟิศอย่างสนุกสนานได้
บ่ายวันพุธอากาศกำลังดี ลองเปิดเพลงบนวิทยุคลอเบาๆ คลายบรรยากาศง่วงๆ กลางสัปดาห์ลงบ้าง หรืออาจจะลองจัดให้มีการแข่งขันแบบเล็กๆ ในระหว่างวันดู หรือบางครั้งอาจจะลองให้มีการออกไปสังสรรค์กันระหว่างพนักงาน ด้วยการไปทานข้าวกลางวันด้วยกันบ้าง การไปทานข้าวเย็นด้วยกันก็เป็นเวลาที่เหมาะสำหรับการสร้างสัมพันธภาพระหว่างพนักงานด้วยกัน แต่อาจได้ผลไม่มากเท่าไหร่ เพราะด้วยภาระส่วนตัวหรือครอบครัว ก็อาจทำให้พนักงานบางคนไม่ได้ไปร่วม
และถ้าหากไม่สามารถพาพนักงานของคุณไปสังสรรค์นอกสถานที่ได้ คุณอาจจัดงานสังสรรค์เล็กๆด้วยสั่งอาหารมาเลี้ยงพวกเขาที่ออฟฟิศบ้างซักสัปดาห์ละหน หรือเดือนละหนก็ยังดี แม้ความพยายามเพียงเล็กน้อย ก็ช่วยสร้างขวัญและกำลังใจได้เช่นกัน
แบ่งปันข่าวดี
การแบ่งปันข่าวดีกันภายในบริษัทของคุณให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้นั้นเป็นสิ่งสำคัญ เพราะมันจะช่วยเพิ่มขวัญและกำลังใจให้แก่พนักงาน ไม่ว่าเศรษฐกิจหรือสภาพตลาดจะหนักหนาสาหัสเพียงใด แต่ขอเพียงแค่คุณลองหาดูก็จะเห็นความสำเร็จ (ไม่ว่าจะเป็น การได้ลูกค้าใหม่, โครงการที่เสร็จสมบูรณ์ลง, คำชมที่ได้รับจากลูกค้า ฯลฯ) ที่มาจากพนักงานบางคน หน่วยงานบางหน่วย หรือบางสาขา ก็จะมีให้คุณได้พูดถึง ลองแบ่งปันข่าวดีเหล่านี้ผ่านทางวารสารข่าวอิเล็กทรอนิกส์ขององค์กรของคุณดูครับ
สนับสนุนให้สร้างสมดุลชีวิตระหว่างส่วนตัวและงาน
ไม่ว่าคุณจะตัดสินใจว่าจะเสริมสร้างขวัญและกำลังใจอย่างไร ขอให้กำหนดตัวอย่างที่ชัดเจนให้กับพนักงานของคุณโดยการรักษาสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัวและงานด้วย เช่น แทนที่จะทานอาหารกลางวันบนโต๊ะทำงานของคุณ ซึ่งจะกลายเป็นการสื่อให้พนักงานทำตาม ก็ควรแสดงให้เห็นว่าบางครั้งบางคราว ก็ควรจะไปทานอาหารในห้องครัวของบริษัท หรือไม่ก็ออกไปทานนอกสถานที่เลยบ้าง เมื่อพนักงานได้เห็นคุณดูแลตนเองในแบบนี้ พวกเขาก็มีแนวโน้มที่จะทำตาม และนั่นก็เป็นวิธีในการรักษาระดับขวัญและกำลังใจอีกรูปแบบหนึ่ง
หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่พนักงาน และดึงศักยภาพของพนักงานของคุณมาใช้ให้เต็มที่ กรุณาติดต่อกลุ่มบริษัทอเด็คโก้ประเทศไทยสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
“ผู้จัดการจำนวนมากติดภารกิจของตนจนไม่ทันตระหนักว่าผู้ร่วมงานของตนมีขวัญและกำลังใจต่ำ แต่ถึงกระนั้น การทำให้พนักงานทั้งหลายเกิดแรงจูงใจในการทำงาน มีปฏิสัมพันธ์กัน และมีความสุขในการทำงานอยู่เสมอก็เป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งทั้งหมดทั้งสิ้นนี้จะช่วยเพิ่มผลผลิตของบริษัท และทำให้บริษัทของคุณเป็นองค์กรแห่งทางเลือกได้”
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น