++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันเสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

บทแทรก : รักเร้นลับ



มีหนังสือ 2 เล่มที่มีอิทธิพลในระดับที่แน่นอนในแวดวงนักอ่านภาษาไทย นอกเหนือจากที่รับรู้เรื่องราวของบูเช็กเทียนผ่านหนังกำลังภายใน

1 เป็นหนังสือ ซิเตงซัน กับ ซิกัง

1 เป็นหนังสือ บูเช็กเทียน

ซิเตงซัน กับ ซิกัง เป็นเรื่องต่อเนื่องจากยุทธนิยายเรื่องซิยิ่นกุ้ย เป็นหนังสือสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) บัญชาให้จีนโตแปลเมื่อ พ.ศ.2412 และตีพิมพ์เป็นเล่มโดยโรงพิมพ์หมอบรัดเลย์ เมื่อพ.ศ.2446

บูเช็กเทียน เป็นผลงานแปลของคณะหนังสือพิมพ์สยาม ตีพิมพ์เมื่อ พ.ศ.2464

หนังสือ ซิเตงซัน ซิกัง และบูเช็กเทียน ให้ภาพของบูเช็กเทียนค่อนข้างไปในทางเป็นคนไม่ดี มากด้วยความชั่วร้าย ทำให้ภาพอันจำหลักของบูเช็กเทียนโน้มไปในทางพวกกังฉิน

กระนั้น เพื่อให้วิถีแห่งอำนาจของบูเช็กเทียนมีความสมบูรณ์และรอบด้านมากยิ่งขึ้น ก็จำเป็นต้องรับรู้ โดยเฉพาะที่ปรากฏผ่านยุทธนิยายเรื่องซิกัง โดยเฉพาะในห้วงแห่งความสัมพันธ์ระหว่างหลี่จือ รัชทายาท กับ นางบูไฉ่เหยิน สนมแห่งพระเจ้าถังไท่จงฮ่องเต้

ฝ่ายหลี่ไท่ ไท่จือ พระราชโอรสทราบว่า พระราชบิดาประชวรก็เสด็จมาเยี่ยม นางบูไฉ่เหยินก็แกล้งดัดจริตต่างๆ ยกน้ำชามาให้หลี่ไท่ ไท่จือ เสวยแล้วชำเลืองตาอันคมมายั่วยวน

ไท่จือเห็นนางบูไฉ่เหยินก็มีน้ำใจปฏิพัทธ์เพ่งพิศดูหน้านางบูไฉ่เหยิน เห็นหน้าตาคมขำผิวพรรณเปล่งปลั่งจะหาหญิงใดเสมอมิได้จึงทรงรำพึงว่า "สวยเช่นนี้มิน่าพระราชบิดาจึงลุ่มหลงไม่ออกห่างที่บรรทมเลย"

ไท่จือยิ่งพิศก็ยิ่งมีความเสน่หาเหลือที่จะอดกลั้นจึงต่างเล่นตาอยู่ในที แต่ไม่มีโอกาสที่จะสนทนากันได้ พอไท่จือเดินออกมาข้างนอกจะชำระพระหัตถ์ นางบูไฉ่เหยินก็ยกอ่างทองใส่น้ำเข้ามาคุกเข่าถวาย ไท่จือเห็นนางบูไฉ่เหยินทำจริตยั่วยวน จึงดีดน้ำไปที่หน้านางบูไฉ่เหยินเป็นการสัพยอกแล้วรับสั่งเป็นคำโคลงแปลความว่า เราอยากชมเชยเจ้า แต่จนใจที่ยังไม่มีโอกาส

นางบูไฉ่เหยินก็กล่าวโคลงตอบแปลความว่า แม้ข้าพเจ้ายังมิได้อยู่งานบำเรอบาท ก็ยังอุตส่าห์ได้รับความกรุณาประทานน้ำทิพย์อันชื่นใจ

ไท่จือได้ฟังแล้วก็ชมว่า "เจ้านี้ไม่แต่รูปสวย ทั้งสติปัญญาก็เฉียบแหลม ต่อโคลงได้คล่องแคล่ว เรามีความพอใจเจ้าเป็นอันมาก" ว่าแล้วก็จูงมือบูไฉ่เหยินเข้าไปในห้องว่างและร่วมรักกันในที่นั้น

นางบูไฉ่เหยินแกล้งทำร้องไห้เช็ดน้ำตาแล้วทูลว่า "ข้าพเจ้าเป็นข้าของพระเจ้าถังไท่จง แต่เผอิญกรรมมาต้องพระทัยของพระองค์ด้วย จึงต้องกระทำการละเมิดกฎหมายซึ่งเป็นความผิดอันใหญ่หลวงเช่นนี้ ถ้าภายหน้าพระองค์ได้เสวยราชสมบัติแล้ว ไม่ทราบว่าจะทรงชุบเลี้ยงข้าพเจ้าสักเพียงใด"

ไท่จือจึงปลอบว่า "เจ้าอย่าเป็นทุกข์ร้อนไปเลย ถ้าสิ้นบุญพระราชบิดาแล้ว เราจะตั้งเจ้าเป็นฮองเฮา"

นางบูไฉ่เหยินจึงทูลว่า "ตำแหน่งนี้เห็นจะเกินวาสนาของข้าพเจ้านัก เพราะพระองค์ก็มีผู้ที่จะรับตำแหน่งนี้อยู่แล้ว"

ไท่จือรับสั่งว่า "ของนี้เราให้เจ้าไว้เป็นสำคัญ และถ้าเราเสียสัตย์แล้ว ขออย่าให้เรามีความสุขความเจริญเลย" แล้วก็ปลดกำไลหยกลายมังกรประทานแก่นางบูไฉ่เหยิน รับสั่งว่า

"ของนี้เราให้เจ้าไว้เป็นสำคัญ" นางบูไฉ่เหยินคุกเข่าลงคำนับรับไว้ แล้วก็ต่างเดินออกจากห้องแยกกันไป

ตั้งแต่วันนั้นมาไท่จือก็ลอบมาทำชู้กัลป์นางบูไฉ่เหยินเนืองๆ แม้นพวกขุนทีจะรู้เรื่องนางบูไฉ่เหยินก็หามีความกระดากใจไม่

เป็นการสะท้อนให้เห็นความสัมพันธ์อันเร้นลับระหว่างหลี่ไท่ ไท่จือ กับ บูเม่ยเหนียงอันเป็นสนมในตำแหน่งบูไฉ่เหยิน เป็นไปได้ว่าบูเม่ยเหนียงเล็งแลหลี่ไท่อย่างมีเป้าหมาย

เหตุผล 1 เพราะว่ากาลแห่งพระเจ้าถังไท่จงจวนจะสิ้นอยู่แล้ว เพราะอาการประชวรที่รุมเร้าอย่างรุนแรง

เหตุผล 1 เพราะว่าหลี่ไท่ เป็นไทจื่อ คือเป็นรัชทายาท

การสนองงานของบูเม่ยเหนียงจึงเป็นการสนองงานอย่างมีวัตถุประสงค์อันแจ่มชัด เป็นการเล็งการณ์ไกลไปข้างหน้า

วิธีแห่งอำนาจ บูเช็กเทียน
เสถียร จันทิมาธร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น