จะเข้าใจในความห่วงใยของถังไท่จงฮ่องเต้ที่มีต่อไท่จือว่ามีมากน้อยเพียงใด ให้ศึกษาจากหนังสือเจินกวนเจิ้งเย่า โดยเฉพาะในบรรพที่ 4 วิธีอบรมรัชทายาท บทว่าด้วย เคารพครูบาอาจารย์
เจินกวนศก 18 (ค.ศ.644) หลี่จื้อเพิ่งได้รับแต่งตั้งเป็นรัชทายาท ยังไม่ได้แสดงออกซึ่งจิตใจเคารพยกย่องนักปราชญ์และยึดมั่นในคุณธรรม ส่วนถังไท่จงฮ่องเต้ก็มีรับสั่งให้องค์รัชทายาทประทับข้างห้องพระบรรทม ไม่อนุญาตให้เสด็จกลับตำหนักตงกง
อำมาตย์เล่าจี้จึงทำฎีกากราบทูลว่า ผู้น้อยทราบมาว่า องค์รัชทายาทควรคบมิตรสหาย ต้อนรับอาคันตุกะจากทั่วทุกแว่นแคว้น จึงจะเสริมสร้างพระบารมีได้ ควรศึกษาขนบจารีต 3 อ่อนน้อม (อ่อนน้อมต่อบิดา ฮ่องเต้ และผู้อาวุโส) อย่างถ่อมใจจึงจะเป็นที่เคารพยกย่อง
ทั้งหมดนี้คือจริยธรรมที่แสดงถึงความนอบน้อมถ่อมใจ เพื่อสร้างสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับข้าราชสำนักและเหล่าพสกนิกร จะได้รับรู้ความต้องการและความคาดหวังของราษฎร เข้าใจสถานการณ์ส่วนทั้งหมด ถึงไม่เสด็จออกนอกพระราชวังก็ทราบความเป็นไปของแผ่นดิน มีแต่เช่นนี้เท่านั้นจึงจะรักษาชาติบ้านเมือง และราชบัลลังก์ให้ยืนยงได้
องค์รัชทายาททรงประสูติในวังลึก เจริญวัยในมืออิสตรี ไม่เคยลิ้มรสความวิตกทุกข์ร้อน ไม่รู้ว่าความกล้าหาญคืออะไร แม้ทรงเฉลียวฉลาดมีไหวพริบปฏิภาณดีเยี่ยม โดยกำเนิด แต่การรับช่วงภารกิจที่ยิ่งใหญ่ จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากฝ่ายต่างๆ
หากไม่เข้าใจและไม่เห็นความสำคัญของขนบจารีต ไม่อ่านคัมภีร์ซือจิง ซูจิง จะจำแนกดีชั่ววินิจฉัยเรื่องราวและเข้าใจ 3 หลัก 5 คุณธรรมได้อย่างไร
โดยส่วนตัว ผู้น้อยเห็นว่าองค์รัชทายาททรงเฉลียวฉลาดโดยกำเนิด มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับ มีเมตตา ซื่อสัตย์ เที่ยงธรรม มีคุณธรรมน้ำมิตร คงไม่ต้องอบรมสั่งสอนในเรื่องเหล่านี้ซ้ำซากก็เป็นที่ศรัทธายกย่องทั้งในและนอกราชอาณาจักรแล้ว
องค์รัชทายาทเสด็จไปตรวจพระกระยาหารในตำหนักบรรทมของฝ่าบาทวันละ 3 เวลา ก็แสดงว่าทรงกตัญญูรู้คุณพระราชบิดา แต่ควรศึกษาคัมภีร์ซือซู หลี่เล่อ ให้เข้าใจลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น
องค์รัชทายาทแม้จะทรงพระเยาว์ยังมีเวลาศึกษาขัดเกลาตนเอง แต่เกรงว่าพระองค์จะทรงปล่อยเวลาให้เสียเปล่า โดยมิได้ทุ่มเทให้กับการศึกษาและการงานจะเป็นที่เย้ยหยันไยไพ ยิ่งหากทรงใช้ชีวิตที่เอาแต่เสพสุขสำราญก็จะเป็นที่ครหานินทา
ผู้น้อยไร้ความสามารถแต่มีโอกาสปรนนิบัติรับใช้องค์รัชทายาท จึงหวังว่าองค์รัชทายาทจะเปิดหูเปิดใจ รับฟังคำแนะนำโดยผู้น้อย ขอยกตัวอย่างพระปรีชาญาณของฝ่าบาทสำหรับอธิบายดังนี้
ผู้น้อยเห็นว่าฝ่าบาทควรใช้แบบอย่างของพระองค์ อบรมองค์รัชทายาทให้องค์รัชทายาทได้คบปราชญ์ อ่านหนังสือดี องค์รัชทายาทควรศึกษาประวัติศาสตร์เก็บรับบทเรียนแห่งความสำเร็จและความล้มเหลวของบุรพชนในช่วงเช้า และพบปะอาคันตุกะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาการบริหารราชการแผ่นดินยุคปัจจุบันในช่วงค่ำ
ยามว่างจากพระราชกรณียกิจควรฝึกหัดศิลปะลายสือจีน เขียนบทประพันธ์ ก็จะได้ประโยชน์และก้าวหน้าเป็นลำดับ หากองค์รัชทายาททรงประพฤติปฏิบัติตนได้เช่นนี้ย่อมเป็นบุญกุศลของเหล่าพสกนิกร
ผู้น้อยเชื่อว่าการคัดเลือกหญิงสาวทั่วแผ่นดิน สำหรับเป็นพระสนมที่ดีคอยปรนนิบัติองค์รัชทายาทนั้น ฝ่าบาทมีเจตนาต้องการเลือกเฟ้นคนที่จะมาช่วยดูแลตำหนักตงกงให้ดีเพื่อแก้ปัญหาชีวิตความเป็นอยู่ขององค์รัชทายาทในระยะยาว ป้องกันมิให้เกิดปัญหาในอนาคต นี่เป็นเรื่องเข้าใจได้
แต่การคัดเลือกบุคลากรที่ดีเพื่อช่วยเหลือองค์รัชทายาทกลับตรงข้ามกับการเลือกพระสนม
กล่าวคือ ระหว่างที่องค์รัชทายาททรงว่าราชการและปลอบขวัญกองทัพ 2 ปีแทนฝ่าบาทนั้น ไม่ได้คบปราชญ์บัณฑิตแม้แต่คนเดียว ผู้น้อยเห็นว่าฝ่าบาททรงให้ความสำคัญกับปัญหาการเลือกเฟ้นพระสนม เพื่อช่วยงานภายในตำหนักเช่นนี้ ก็ควรให้ความสำคัญกับการเลือกเฟ้นขุนนางที่จะมาช่วยงานภายนอกดุจเดียวกัน มิเช่นนั้น ฝ่าบาทอาจตกเป็นที่ครหาว่า ให้ความสำคัญกับเรื่องในวังหลังมากกว่าเรื่องของแผ่นดิน
ความคิดเห็นตื้นเขินและความจงรักภักดีที่ผู้น้อยแสดงออกในวันนี้ ก็เพียงหวังว่าห้วงสมุทรจะกว้างไพศาลและสุริยันจันทราจะแจ่มจ้ายิ่งขึ้น
ถังไท่จงฮ่องเต้อ่านฎีกาฉบับนี้แล้ว ทรงมีรับสั่งให้เล่าจี้ เฉินเหวินเปิ่น และหม่าโจว จัดเวรแวะเวียนไปสนทนาแลกเปลี่ยนความรู้และวิทยาการด้านต่างๆ กับองค์รัชทายาทในตำหนักบูรพา
นี่คือการตระเตรียมวางพื้นฐานให้กับองค์รัชทายาท เป็นการตระเตรียมทั้งในกระบวนการด้านบุ๋น การบริหารราชการแผ่นดิน เป็นการตระเตรียมทั้งในด้านบู๊ การรบทัพจับศึก ยิ่งถังไท่จงยิ่งทรงให้ความใส่ใจอย่างดียิ่ง
วิถีแห่งอำนาจ บูเช็กเทียน
เสถียร จันทิมาธร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น