++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันเสาร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2557

รัฐบาลหมาจนตรอก หลอกขอเงินไปทั่ว แต่ไม่มีใครให้



ปัญหาเศรษฐกิจของบ้านเมืองมีมาโดยตลอด 2 ปี 4 เดือน ที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์บริหารราชการแผ่นดิน

แต่มีประเด็นสร้างความสับสนมากมายจากทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยเฉพาะตัวรองนายกฯ เศรษฐกิจ รมว.คลัง รวมไปถึง รมว.พาณิชย์ ทั้งอดีตรมว.พาณิชย์และรมช.พาณิชย์ ต่อกรณีโครงการจำนำข้าว ซ้ำร้ายยังมีความพยายามอย่างจงใจในการสร้างกระแสความเข้าใจผิด หลอกลวงกลุ่มผู้เดือดร้อนจากการดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจที่ผิดพลาดของตัวเอง เรียกเป็นภาษาชาวบ้านสั้นๆ ก็ได้ครับว่า รัฐบาลพยายามกลบขี้ตัวเองด้วยการโบ้ยความผิดให้คนอื่นโดยเฉพาะอย่างยิ่ง มวลมหาประชาชน

รายแรก ภาพลักษณ์ในความทรงจำของประชาชนต่อตัวรัฐมนตรีคนนี้มีแค่ ร้องไห้น้ำตาแตก ตอนล้มเหลวในการดูแลนิคมอุตสาหกรรมที่โดนน้ำท่วม กับ White Lie ตอนพูดถึงตัวเลขอัตราการส่งออก เรียกได้ว่าไม่มีความน่าเชื่อถือใดๆ ทางสังคมหลงเหลืออีกแล้ว ผู้คนที่เคยชื่นชมถึงความสามารถในอดีตก็พากันเบือนหน้าเอือมระอา การที่คุณกิตติรัตน์ ณ ระนอง โทษฝ่ายค้านและกกต.เรื่องการชำระค่าข้าวเป็นการหลีกเลี่ยงความจริง และสะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลไม่สามารถหาช่องทางในการแก้ปัญหาที่ตนเองสร้างขึ้นมาได้

คุณกิตติรัตน์ ในฐานะรองนายกฯ เศรษฐกิจ ดูแลภาพรวมเศรษฐกิจของทั้งคณะรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ควรจะต้องยอมรับเสียทีว่า ที่จ่ายเงินชาวนาไม่ได้นั้น เป็นเพราะรัฐบาลไม่ได้ขายข้าวที่จำนำไว้ ความจริงคือ ขายข้าวไม่ได้ ไม่มีใครเอาข้าวคุณภาพต่ำๆ ที่ล้นอยู่ในโกดัง เพราะข้าวดีๆ ถูกเครือข่ายญาตินายกฯ เอาไปขายโกงทำจีทูจีปลอมๆ กันหมดแล้ว และนอกจากนั้นประเด็นการคลัง ก็มีการกู้เงินจนเกินเพดานจนกู้อีกไม่ได้ ด้วยมติครม.และกฎเกณฑ์ที่ทางรัฐบาลออกมาเองทั้งสิ้น

ที่รัฐบาลไม่ได้ระบายข้าวนั้น วันนี้เราก็มีความกระจ่างขึ้นจากการกล่าวโทษโดยป.ป.ช. ว่าเป็นเพราะรัฐบาลเองนั่นแหละครับ ตัวดีเลย โดยเฉพาะกระทรวงพาณิชย์(ที่คุณกิตติรัตน์เองมีหน้าที่ดูแลในฐานะรองนายกฯเศรษฐกิจ และเป็นอดีตรมว.พาณิชย์ด้วยซ้ำไปตั้งแต่ตอนต้นสมัยรัฐบาลที่ทำจำนำข้าวแต่แรก) มัวแต่วุ่นวายหาช่องทางทุจริตขายข้าวราคาถูกให้พรรคพวก เพื่อนำไปขายต่อในราคาแพง ฟันกำไรส่วนต่างมากมาย ตัวอย่างเช่น ชาวนาต้องขายข้าวให้กับโรงสีในราคาเพียงประมาณเกวียนละ 6,000 บาท แทนที่จะเข้าโครงการจำนำ และขายสิทธิจำนำให้กับนายทุนในราคาเกวียนละ 2,000 บาท ซึ่งนายทุนก็จะสามารถนำไปเข้าโครงการที่ราคาประมาณ 14,000 บาท เท่ากับชาวนาลงทุนลงแรงได้เงินเกวียนละ 8,000 หรือเรียกว่า แทบจะไม่คุ้มทุน ในขณะที่นายทุนแทบไม่ต้องออกแรง แต่ได้กำไรเกวียนละ 6,000

และนอกจากนี้ รองฯ กิตติรัตน์ ก็ยังมีข้อกล่าวหาที่ฟังไม่ขึ้นแม้แต่ข้อเดียว นั่นคือ

1.“ฝ่ายค้านร้องเรียนพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีกับศาลรัฐธรรมนูญทำให้ใช้งบได้ช้า”

ข้อเท็จจริงคือ เงินที่ใช้ในการชำระให้ชาวนา เป็นเงินทดรองจ่ายโดยธ.ก.ส. ที่มีการคํ้าประกันโดยกระทรวงคลัง หาได้เป็นเงินงบประมาณไม่ เงินงบประมาณเป็นเพียงเงินชดเชยค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่งให้กับธ.ก.ส.เท่านั้น อย่างไรก็แล้วแต่ ศาลรัฐธรรมนูญก็ได้วินิจฉัยยกคำร้องฝ่ายค้านไปในวันที่ 4 ตุลาคม หรือเพียง 4 วันหลังวันเริ่มต้นปีงบประมาณ ไม่เป็นเหตุผลที่ทำให้รัฐบาลจ่ายเงินช้าไปแล้วกว่า 4 เดือน

2.“ผู้ชุมนุมปิดล้อมกระทรวงการคลัง”

การปิดล้อมกระทรวงการคลังไม่ได้มีผลแต่อย่างใด กับการเบิกจ่ายเงินในโครงการต่างๆ เพราะคุณกิตติรัตน์ก็น่าจะรู้อยู่แก่ใจว่า กระทรวงคลังมีระบบรองรับนอกสถานที่อยู่แล้ว ระบบออนไลน์ มีเครือข่ายโยงใยทั่วทั้งประเทศ นอกจากนั้นการจ่ายเงินค่าข้าวเป็นการจ่ายโดยธ.ก.ส. ทุกสาขา ไม่ได้จ่ายที่กระทรวงการคลังที่เดียวตรงนั้น ซึ่งธ.ก.ส.ก็ไม่ได้ถูกปิดล้อมอยู่ดี

3.“ฝ่ายค้านลาออก รัฐบาลจึงต้องตัดสินใจยุบสภา”

การยุบสภาทำให้รัฐบาลอยู่ในสภาพ “รักษาการ” คือสร้างภาระหนี้สินผูกพันใหม่ไม่ได้ แต่ข้อเท็จจริงคือธ.ก.ส.ได้เตือนรัฐบาลว่าสภาพคล่องจะหมดตั้งแต่ก่อนยุบสภา คุณกิตติรัตน์กลับไม่ได้มีการเตรียมการแต่อย่างใดในขณะที่ยังมีอำนาจเต็มมือ เรียกได้ว่า ตอนสามารถทำได้ไม่ทำ แต่พอทำไม่ได้ก็โทษปี่โทษกลองไปทั่วเหมือนคนไม่มีความรับผิดชอบ ไม่ยอมรับผิดที่ตัวเองก่อ

นอกจากนี้ ประเด็นจำนำข้าวที่แสนสาหัสอยู่ในขณะนี้ ชาวนาได้ขีดเส้นตายไว้ในวันนี้ 25 มกราคม 2557 ว่าจะต้องได้เงินค่าจำนำข้าว ตามใบประทวนที่ได้มาตอนเอาข้าวไปให้รัฐบาล แต่แนวโน้มเท่าที่ ณ วันศุกร์ที่เป็นวันทำการที่ผ่านมา สรุปคือไม่ได้มีการอนุมัติทางการเงินใดๆ หรือการหาเงินจากแหล่งใดได้เลย มีการดิ้นรนอย่างน่าเวทนาไปขอเงินจากธนาคารรัฐอื่นๆ ไปทั่ว เช่น ออมสิน กรุงไทย เป็นต้น

ออมสินพอแค่มีกระแสข่าวคนก็ค้านทั้งเมือง เพราะพูดง่ายๆ ก็เหมือนการไปควักเงินของเด็กที่พร่ำออมกันมาเอามาใช้กับนโยบายสิ้นคิดแบบนี้ และก็ยังมีการสร้างกระแสข่าวหลอกว่า กรุงไทยอนุมัติเงินกู้ให้แล้ว จนต้องไปเช็คกันจากที่ประชุมบอร์ดว่ามีการนำเรื่องเข้ามาถามเองจริงว่า กรุงไทยช่วยอะไรบ้างได้มั้ย แต่เดชะบุญบอร์ดกรุงไทยไม่ได้หน้ามืดตามัว บอกว่า กรุงไทยไม่ได้มีภารกิจหลักในการจ่ายเงินจำนำข้าว จึงไม่สามารถทำอะไรได้บ้าง

รัฐบาลจึงเตรียมจะไปปรับแผนบริหารหนี้สาธารณะ 2557 ใหม่ ไปโยกเงินจาก แผนสร้างรถไฟฟ้าบ้างแผนลงทุนพลังงานบ้าง เพื่อเอามาจ่ายจำนำข้าว พูดถึงตรงนี้ขอชี้เป้าสั้นๆ ครับว่า ....เห็นแล้วใช่มั้ยครับ ว่า รถไฟฟ้าสร้างไม่เสร็จเสียทีเพราะอะไร พลังงานทางเลือกดีๆ ไม่มีใช้ซะทีเพราะอะไร

เราติดกับระบอบทักษิณมากว่า 13 ปี ตั้งแต่ 2544-2557 มีแค่ 3 ปี ที่เป็นรัฐบาลอื่นเข้ามา แต่ทั้งหมดทั้งมวลนี้ ต้องปฏิรูปโดยด่วนสุดๆ ครับ เราไม่ต้องการเห็นผู้ปกครองประเทศ หรือรัฐบาลของเรามีสภาพเยี่ยง หมาจนตรอก แบบนี้อีกแล้ว

การเมือง.. เรื่องเงินๆ พัสณช เหาตะวานิช หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันเสาร์ ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2557

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น