++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันเสาร์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

} Fwd: หักมุมสุด ๆ !!! อย่าแต่งหน้าบนรถนะจ๊ะ ..



เป็นที่ลือกันทั่วไปในหมู่ของคนขับรถแท็กซี่ว่าบริเวณป้ายรถเมล์หน้าห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ (งามวงศ์วาน) ตอนกลางดึก (หลังห้างปิด) แล้วเนี่ยผีดุเป็นบ้า ลือกันเป็นตุเป็นตะว่า เคยมีแท็กซี่หลายคันถูกผู้หญิงผมยาวเรียกจากหน้าห้างฯ ให้ไปส่งที่วัดสมรโกฏิ ถนนรัตนาธิเบศร์ พอคนขับแท็กซี่ขับไปถึงหน้าวัดปรากฏว่าผู้โดยสารผู้หญิงผมยาวคนนั้นก็หายตัวไป เป็นที่เลื่องลือกันว่าผีที่หน้าห้างเดอะมอลล์งามวงศ์วานนี้ คือหญิงสาวที่เคยใช้ที่จอดรถของห้างฯ เป็นที่ฆ่าตัวตาย จนปัจจุบันนี้ห้างฯได้ทำลวดตาข่ายมาอ๊อกปิดไว้หมดทุก ด้าน เพื่อป้องกันไม่ให้มีใครมาใช้เป็นสุสานอีก แต่ก็ยังไม่วายมีข่าวมาเรื่อย ๆ ว่ามีคนกระโดดตึกตายที่นี่เป็นประจำ
>
> เรื่องข่าวลือนี้นายกล้าโชเฟอร์แท็กซี่ (มือใหม่) ที่เพิ่งมาหางานทำในกรุงเทพฯ ก็ได้ยินมาเหมือนกัน แต่ความที่แกเป็นคนกล้าสมชื่อ แกจึงไม่เชื่อแล้วแกยังคงวนเวียนรับ-ส่งผู้โดยสารแถวงามวงศ์วานและใกล้เคียงเป็นประจำ เพราะ รายได้ดีเนื่องจากแถวนี้ตอนดึก ๆ ไม่ค่อยมีแท็กซี่กล้าขับผ่านมา
>
>
> เรื่องของเรื่องคือมีอยู่วันหนึ่งดึกมากแล้ว นายกล้าขับรถผ่านหน้าห้างเดอะมอลล์ฯ ก็ปรากฏว่ามีผู้หญิงสาวสวยไว้ผมยาวสยาย ยืนโบกรถอยู่หน้าห้างฯ
>
> ฉับพลันที่เห็น นายกล้าก็นึกไปถึงเรื่องที่เพื่อน ๆ ชาวแท็กซี่โจษขานถึงเรื่องผีดุกันขึ้นมาทันที แต่ความที่แกเป็นคนกล้าประกอบกับผู้หญิงคนนั้นก็ดูว่ าเป็นคนชัด แกจึงจอดรถเข้าไปรับ
>
>
> พอหญิงสาวเปิดประตูรถ กลิ่นน้ำหอมฉุนกึกก็ปะทะจมูกของนายกล้าทันที
> โชเฟอร์ ไปแถววัดธาตุทองนะ จะไปมั้ย หญิงสาวถาม
> ไปครับผม นายกล้าตอบ
> ในใจคิดว่าไม่ใช่วัดสมรโกฏิแบบที่ลือกันนี่หว่า
> หญิงสาวก้าวขึ้นนั่งที่เบาะหลังพร้อมกับบอกนายกล้าว่ า ไปทางด่วนนะ
>
>
> นายกล้ากดมิเตอร์แล้วออกรถขับตรงไปขึ้นทางด่วนงามวงศ์วาน
> กลางดึกเช่นนั้นทางด่วนเงียบสนิท นาน ๆ ถึงจะมีรถขับมาสักคัน กลิ่นน้ำหอมของหญิงสาวยังเตะจมูกอยู่ บรรยากาศเงียบเชียบชวนอึดอัด
>
> ถึงนายกล้าจะกล้าเพียงไรก็ตามแต่แกก็อดชำเลืองมองกระ จกส่องหลังไม่ได้ เมื่อเห็นหญิงสาวนั่งนิ่งไม่พูดไม่จา แกก็เลยชวนคุยเพื่อทำลายบรรยากาศอันอึดอัดนี้
> รอรถนานมั้ยครับ นายกล้าถาม
> หญิงสาว นานสิ แท็กซี่หายไปไหนหมดไม่รู้ หญิงสาวพูดเรื่อย ๆ
> ก็มีข่าวลือเรื่อง ... เอ้อ ..... เรื่องผีแถวนี้ดุสิครับเลยไม่ค่อยมีแท็กซี่คันไหนกล้าวิ่งแถวนี้ นายกล้าตัดสินใจพูดหยั่งเชิงเพื่อดูท่าทีหญิงสาว
> หญิงสาวหันขวับมามองนายกล้าทันที มิน่าล่ะ เมื่อกี้ฉันเรียกตั้งหลายคันไม่มีใครจอดเลย แล้วนายไม่กลัวเหรอ หญิงสาวถาม
> นายกล้ากลืนน้ำลาย เอ้อ ... ไม่กลัวครับ ก็ดี หญิงสาวพูดพร้อมกับหันไปมองที่หน้าต่าง
>
>
> นายกล้าขับรถต่อไปเรื่อย ๆ บรรยากาศกลับเงียบสงัดอีกครั้งเงียบจนนายกล้าได้ยินเสียงลมหายใจของตัวเองเพียงคนเดียว!
> นายกล้าแหงนขึ้นไปมองกระจกส่องหลังเมื่อนึกขึ้นได้ ทันใดนั้น!
> หัวใจของแกแทบจะหยุดเต้น เมื่อเห็นภาพในกระจก เบาะหลังว่างเปล่า ไม่มีแม้แต่เงาของผู้หญิงผมยาวที่นั่งคุยมาด้วยกัน เมื่อกี้นี้เลย!
> ship หายแล้ว ku เนี่ยเขาว่าไม่เชื่ออย่าลบหลู่ โดนดีเข้าแล้วมั้ยล่ะ นายกล้าคิดขณะที่กลิ่นน้ำหอมฉุนของผู้หญิงสาวยังคงคลุ้งอยู่ในรถ
>
>
> มือที่กำพวงมาลัยสั่นสะท้าน เหงื่อแตกพลั่กทั้งที่แอร์ในรถเย็นเฉียบ ขาของนายกล้าที่เหยียบคันเร่งชาจนแทบจะไม่รู้สึกแล้ว บทสวดมนต์กี่บท ๆ ที่นึกได้ นายกล้าท่องจนหมด กลิ่นน้ำหอมก็ไม่หายไปไหน ยังลอยอบอวลคลุ้งอยู่ในรถ แถมบางครั้งยังแรงขึ้นด้วยซ้ำไป
> มนต์บทแล้วบทเล่าที่นายกล้าท่อง ไม่ได้ทำให้กลิ่นน้ำหอมจางลงเลย นายกล้าแหงนขึ้นมองกระจกอีกครั้ง เบาะหลังก็ยังว่างเปล่าอยู่ มีแต่กลิ่นน้ำหอมเท่านั้นที่บอกให้รู้ว่า เธอ ยังไม่ไปไหน
>
> นายกล้าเหยียบคันเร่งอย่างไม่คิดชีวิต ในใจก็อาราธนาพระดัง ๆ ทั่วเมืองไทยให้มาอยู่เป็นเพื่อนเขา ใจอยากบึ่งไปให้ถึงวัดธาตุทองเร็ว ๆ เผื่อว่ากลิ่นน้ำหอมจะหายไปเพราะ เธอ คงต้องการไปลงที่นั่นจริง ๆ
> โอ๊ย มาไกลเหลือเกินนะแม่คุณ นายกล้าคิดในใจ ขณะที่ยังคงเหยียบคันเร่งมิด
> นายกล้ามารู้สึกตัวอีกทีเมื่อรถมาติดไฟแดงตรงเชิงทาง ด่วน นายกล้าสูดลมหายใจเข้าปอดเต็มที่ 3 ครั้ง ก่อนกลั้นใจแหงนหน้าขึ้นไปมองกระจกส่องหลัง
>
>
> และแล้วนายกล้าก็แทบจะหัวใจหยุดเต้นอีกครั้ง มือเท้าเย็นวาบ แทบจะหมดแรง ขนลุกซู่ทั้งตัวเหมือนใครเอาน้ำแข็งมาโปะต้นคอ
> ภาพที่ทำให้นายกล้าแทบช็อกก็คือ หญิงสาวคนเดิมมาปรากฏตัวที่เบาะหลังอีกครั้ง แต่คราวนี้หน้าตาเธอเปลี่ยนไป!
> ใบหน้าของเธอมีเลือดไหลออกทางจมูกและปาก นายกล้าตัดสินใจรวบรวมความกล้าอีกครั้ง เป็นไงเป็นกันวะ ไหน ๆ ก็ไหนๆ แล้ว จะถามให้รู้เรื่องกันไปว่า เธอ ต้องการอะไรกันแน่
> พอคิดได้ดังนั้นนายกล้าก็หันกลับไปเผชิญหน้ากับ เธอ ผู้นั้น ก่อนที่จะถามเป็นคำถามแรกว่า
> คุณเป็นอะไรตาย
>
> ตายพ่อตายแม่....สิ เสียงหญิงสาวคนนั้นตอบดังลั่นรถ
>
>
> ไอ้ Ha! Koo ก้มลงไปแต่งหน้าหน่อยเดียว ...ทั้งเบรค ทั้งเหยียบซะหน้าตา Koo แหกหมด แล้วยังเสือกมาถามอีกว่าเป็นอะไรตาย
>
>
> ............................................
>
> ปล.เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าอย่าแต่งหน้าบนรถนะจ๊ะ ...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น