++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันจันทร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

แอนนี่ บรู๊ค จบแล้ว ! “ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์” แฉตรวจ DNA กับ “ทีฆายุ” แล้ว ชัดเจนไม่ใช่พ่อ




     ทำเอาเดือดพล่านเลยทีเดียว สำหรับนักร้องหนุ่ม “ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์” หลังเจอ “แอนนี่ บรู๊ค” เล่นแง่ไม่ยอมถอนชื่อออกจากการเป็นพ่อของ “น้องทีฆายุ” แถมยังบอกแบบไม่รู้อนาคตอีกว่า จะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับการทำหน้าที่ของทนาย ก่อนจะตอกกลับฝ่ายชายทำนองว่า หากสำนึกได้ก็อย่ามาทวงสิทธิ์ความเป็นพ่อทีหลังก็แล้วกัน เล่นทิ้งระเบิดให้เกิดความเคลือบแคลงแบบนี้ งานนี้ทางฝ่ายของหนุ่มฟิล์มก็เลยนั่งไม่ติด ลุกขึ้นมาฟ้องแอนนี่ทันที
               
       โดยในช่วงสายของวันนี้ (10 ก.ค.) ฟิล์มได้ส่ง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ว่าที่ รต.ดร.สุรพล สินธุนามา ซึ่งเป็นทนายความส่วนตัว ให้เดินทางไปยังศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง จังหวัดปทุมธานี เพื่อเป็นตัวแทนยื่นฟ้อง “แอนนี่” ในกรณีที่ผิดสัญญาและข้อตกลงที่มีไว้กับศาลจังหวัดธัญญบุรี ว่าให้ถอนชื่อของนักร้องดังออกจากการเป็นพ่อ น้องฑีฆายุ ตั้งแต่เมื่อ 4 เดือนก่อน
           
       ซึ่งผลปรากฏว่า ทางศาลได้ประทับรับฟ้องเป็นที่เรียบร้อย และนัดไกล่เกลี่ยคู่กรณีในวันที่ 30 ส.ค.นี้ นอกจากนี้ ทางทนายความตัวแทนยังได้เผยด้วยว่า ทางฟิล์มได้เตรียมฟ้องอีกฝ่ายในเรื่องการเปลี่ยนแปลงเอกสาร โดยมีการเอาลายเซ็นไปใช้ในการเซ็นเป็นชื่อพ่อของเด็ก รวมถึงข้อหาหมิ่นประมาท หลัง แอนนี่ ให้สัมภาษณ์ว่า อย่ามาเรียกร้องความเป็นพ่อภายหลังอีกด้วย สำหรับคดีนี้จะใช้เวลาในการดำเนินการและตัดสินไม่เกินสิ้นปี ถ้ามีการยื่นอุทธรณ์หรือฎีกาต่อ
     
       อย่างไรก็ตาม ในครั้งนี้ฟิล์มไม่ได้ใช้ทนายของอาร์เอสเหมือนเช่นเคย แต่ได้จ้างทนายความส่วนตัวมาดำเนินการเอง โดยให้เหตุผลว่า ไม่อยากรบกวนทางค่ายต้นสังกัด จึงอยากจัดการเอง
     
       ล่าสุด เมื่อช่วงบ่ายวันเดียวกัน ทางด้านของหนุ่ม “ฟิล์ม” ได้จัดแถลงข่าวเปิดตัวซิงเกิลใหม่ “แฮปปี้ เฮิร์ทเดย์” ที่ สยามดิสคัพเวอรี่ หลังร้างไมค์ไปกว่า 2 ปี งานนี้นอกจากจะได้เปิดใจฟิล์มเรื่องคดีที่ยังคาราคาซังแล้ว ยังได้อัพเดทผลงานเพลงชิ้นล่าสุดด้วยว่า....
     
       “สำหรับเพลง Happy Hurtday ก็ฝากให้ทุกคนคอยฟังด้วยนะครับ และอยากให้ทุกคน ได้ฟังกัน เป็นแนวป๊อบ ฮิปฮอปครับ และอยากให้เพลงนี้ไปอยู่ในปาร์ตี้ของทุกคนครับ ถ้าเฮิร์ตอย่าไปเฮิร์ตเลยครับ มาสนุกกันดีกว่า เพลงนี้ผมดึงพี่ลาล่า โปงลางสะออน มาร่วมฟีเจอริ่งด้วย เพราะผมว่าเขามีเสียงที่ดีอยู่แล้ว แล้วก็ตลกดี เขาพูดภาษาอังกฤษได้ตลกดี และอีกอย่างอยากจะขยายตลาดอีกกลุ่ม แล้วเพลงนี้ก็เหมาะกับเขาด้วย”
     
       “ไม่เกี่ยวกับว่ากลัวแฟนเพลงน้อยหรืออะไร แค่อยากให้เพลงมันออกมาสนุกมากกว่า แล้วโตขึ้นก็เลยอยากจะทำเพลงให้มันแมสขึ้น และอยากจะเจาะกลุ่มหลายๆ กลุ่มครับ กระแสตอบรับของเพลงนี้ พอปล่อยซิงเกิลไป ก็ได้รับการโหลด และมีคนดูเยอะครับ ก็ดีใจ น้องๆ แฟนคลับร้องตามได้แล้ว ก็ดีใจครับ”
     
       ทำไมต้องเป็นเฮิร์ต เพราะเราเฮิร์ตหรือเปล่า?
       “อ๋อไม่เกี่ยวเลยครับ ก็แค่อยากให้เป็นแบบว่า ทำไมคนอกหักต้องเฮิร์ตด้วย ทำไมถึงไม่สนุกไปด้วย จะเศร้ากันไปทำไม คนที่มีความทุกข์สามารถมีความสุขได้กับเพลงนี้ครับ ส่วนเอ็มวีก็เป็นซีรี่ย์ ก็มีความยาว 13 นาทีครับ ผมอยากให้มันดูเป็นซีรี่ย์เล็กๆ เรื่องนึงครับ ที่ทำให้คนดูเขาดูแล้วสนุกยิ้มได้ครับ 13 นาทีดูแล้วไม่น่าเบื่อครับ”
     
       ไม่ได้หวังสูงมากว่าต้องกลับมาเปรี้ยงเหมือนเดิม ขอแค่มีคนฟังมีความสุขก็ดีใจแล้ว
     
       “อย่างแรกเลย คือ อยากให้คนชอบและก็ฟัง ฟังแล้วมีความสุข แค่นี้ผมก็พอใจแล้วครับ ส่วนความคาดหวังผมก็หวังว่าทุกคนจะชอบนะครับ เพราะว่าอัลบั้มนี้ก็เต็มที่มากๆ และเปลี่ยนแนวไปเยอะเหมือนกันครับ ต่างจากเมื่อก่อน ที่ร้องแร็พอย่างเดียวมาเป็นป๊อบธรรมดาแล้วครับ”
     
       เปิดใจเรื่องเพลงที่หายไปเกือบ 2 ปี ให้แฟนๆ หายคิดถึงแล้ว หนุ่ม “ฟิล์ม” ก็ได้แจกแจงกรณีส่งทนายยื่นฟ้อง “แอนนี่ บรู๊ค” ไม่ถอนชื่อจากการเป็นพ่อ “น้องทีฆายุ” ด้วยว่า ไม่ได้เกิดจากการตัดสินใจของตนคนเดียว แต่เป็นคำแนะคำของทนายด้วย
     
       “มันไม่ได้เป็นการตัดสินใจของผมคนเดียว ทางทนายเขาแนะนำมาครับ เรื่องมันนานแล้ว แล้วมันก็ไม่มีความคืบหน้าในทางใดทางหนึ่งสักทีนะครับ ทางทนายก็แนะนำว่าน่าจะเป็นรูปแบบนี้ เราก็ต้องเรียกร้องความเป็นธรรม เรียกร้องความถูกต้องให้ชัดเจนที่สุด ผมแคร์สังคมครับ และแคร์ครอบครัวครับ แล้วก็ตัวเองด้วย”
     
       “ที่ตัดสินใจฟ้อง เพราะตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้นะครับ ออกมาจากศาลเป็นข้อตกลงที่ศาลท่านบอกมานะครับ ก็หลายเดือนแล้ว ก็ยังไม่มีความคืบหน้าเลย ก่อนที่ทนายจะไปทำไรก็ยื่นโนติสก่อนครับ แต่ก็ไม่ได้มีความคืบหน้าอะไร แล้วล่าสุดที่ผมออกมาพูดเมื่อไม่กี่เดือนนี้ ก็วันนี้ไม่มีความคืบหน้าต่อ ผมก็เห็นว่ามันยังเรื้อรังอยู่ เมื่อไหร่จะชัดเจน ถอดชื่อผมออก ทนายก็เลยให้คำแนะนำมาว่าควรทำในรูปแบบนี้”
     
       “แล้วอีกฝ่ายไม่มีการตอบรับอะไรมาเลย ไม่ติดต่อมาเลย (อีกฝ่ายบอกพยายามติดต่อฟิล์มแล้ว?) ผมว่าไม่น่าใช่ เพราะมันน่าจะมีเหตุและผลที่จะทำอะไร ผมว่าทนายเขาจะฟ้องต้องยื่นโนติสไปก่อนนะครับ แต่ว่าไม่มีการตอบกลับมาอยู่ดี เขาไม่ต้องรอผมหรอกครับ เขาต้องไปทำเอง”
     
       “ฟิล์ม” พยายามติดต่ออีกฝ่ายไหม?
       “ไม่ใช่หน้าที่ฟิล์มนะ เป็นทนายอย่างเดียว”
     
       เป็นไปได้ไหมที่ตอนพูดในศาลครั้งก่อนไม่ได้ระบุระยะเวลา?
       “ไม่เกี่ยวครับ (ครั้งนี้ระบุระยะเวลาไหม ว่าต้องมาถอนชื่อฟิล์มเมื่อไหร่?) ผมไม่ทราบต้องขึ้นอยู่กับทนายครับ บางทีก็เป็นเรื่องที่เซนส์ซิทีฟเหมือนกันครับ ผมดันอยู่ฝั่งผู้ชาย แต่ทางทนายดำเนินการครับ ตอนนี้ศาลรับฟ้องแล้วครับ ก็รับเรียบร้อย ตอนนี้คือหนึ่งเลย คือชื่อยังไม่ได้ถอน ความคืบหน้าก็ยังไม่มีเท่านี้ครับ ก็ไม่ได้ใส่ใจแล้ว ผมเบื่อนะครับ แต่ไม่ได้นิ่งเฉยก็ทำให้ดีที่สุด”
     
       บอกถ้า “แอนนี่” จะตอบโต้กลับตนก็จะให้ทนายเป็นคนจัดการ
     
       “ในส่วนตัวผมเป็นเรื่องของทนายมากกว่า ในส่วนตัวผมมีหน้าที่ทำเพลงให้ดีที่สุด ทำงานถ่ายละครถ่ายหนังให้แฟนๆ ได้ดูดีที่สุด ถ้าผมมัวแต่ไปเครียดกับเรื่องพวกนี้ ผมคงก้าวไปไกลไม่ได้ แล้วทุกอย่างมันชัดเจนมากแล้ว แล้วก็รู้อยู่แล้ว ให้มันถูกต้องรีบให้ชัดเจนที่สุดแค่นั้นเองครับ พูดอะไรมากไม่ได้”
     
       เห็นทนายบอกว่าการฟ้องร้องนี้ “ฟิล์ม” พร้อมที่จะตรวจดีเอ็นเอด้วย?
       “พร้อมนานแล้วครับ ไม่เห็นต้องสงสัยเลย”
     
       จะมีการยื่นให้ตรวจดีเอ็นเอด้วยไหม?
       “ในทุกขั้นตอนต้องเป็นไปตามระบบของศาล นานแล้วครับ ให้มันชัดเจนสักที (ที่ผ่านมายังไม่มีการตรวจ?) ก็มีครับ ก็มีแค่ผมกับเด็ก แต่ผู้หญิงบังคับอะไรไม่ได้ (นานรึยัง?) นานแล้วครับ (ตั้งแต่คดีจบไป?) นานแล้วครับ คดีจบนานแล้ว ทุกวันนี้ที่พูดใหม่คือเรื่องยังไม่ได้ถอนนะครับ มันมีอยู่แค่ตรงนี้เอง ไม่ได้มีเรื่องอะไรเลยครับ ผมไม่คิดอะไรแล้ว”
     
       “ถ้าเขาถอนชื่อก็จบ ผมต้องการแค่นั้นแหละครับ หาความถูกต้องให้กับผมบ้าง ตอนเซ็นชื่อก็ปลอมลายเซ็นผมไปเซ็นนะครับ แล้วก็ไม่เกี่ยวอะไรกับผมเลยนะ วันนี้ต้องทำให้มันถูกต้องหน่อย จะได้ไม่มีอะไรยุ่งเกี่ยวกันอีก ส่วนจะฟ้องเรื่องปลอมลายเซ็นด้วยหรือเปล่านั้น ผมแล้วแต่ทนายครับ ถามไปก็ไม่มีอะไรแล้ว มีเรื่องนี้อย่างเดียว แค่ถอดชื่อผมออกไปแค่นี้ก็จบแล้วครับ”
     
       “แต่ผมไม่ได้ฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายนะครับ ผมก็ไม่ได้เรียกร้องอะไรอยู่แล้ว ฟ้องเขาคงไม่ดูรุนแรงหรอกครับ มันอยู่ที่ความรับผิดชอบมากกว่า แต่อาจจะเป็นเพราะสังคมทำให้ดูรุนแรงมากกว่า เพราะผมก็ได้อะลุ่มอล่วยให้เขาไปแล้วครับ”
     
       ส่วนเรื่องที่ “แอนนี่” ได้ทิ้งท้ายไว้ว่าถ้าต่อไปสำนึกได้ อย่ามาขอเป็นพ่อแล้วกัน “ฟิล์ม” บอกตลกสิ้นดี
     
       “ก็ฟังดูแล้วตลกครับ แต่คงคิดว่า เขาคงไม่ได้พูดกับฟิล์มครับ น่าจะคุยกับคนอื่น”
     
       แสดงว่าเราความมั่นใจแน่ๆ ว่าน้องไม่ใช่ลูก?
       “นานแล้วครับๆ”
     
       มีคนสงสัยว่าในเมื่อ “ฟิล์ม” รู้ว่าพ่อที่แท้จริงเป็นใคร ทำไมไม่พาออกมาเลย?
       “โอ้..มันคงจะรุนแรงเกินไปในสังคมบ้านเมืองเรานะครับ แล้วแต่ความรับผิดชอบละกันครับ”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น