อปฺปมาเทน อณฺณวํ
ความไม่ประมาท คือว่าไม่ลืมตัว
บุคคลจะพ้นจากมหรรณพภพสงสารได้ เพราะความไม่ประมาท
ความไม่ประมาทนั้นหมายถึง เรื่องจิตอันเดียว คือ มีสติไม่พลั้งเผลอหลงลืม อย่างเช่นเราเดินตามถนนหนทางไปไม่เพลินไม่หลงมัวเมา หมายถึงว่าเราต้องเดินด้วยความระมัดระวังกลัวรถจะชนเอา กลัวขโมยเขาจะมาตีชิงวิ่งราวอะไรต่างๆ อันนั้นเรียกว่าความไม่ประมาท ความไม่ประมาทนี้เป็นเหตุให้รักษาตัวได้
อย่างชั้นดีขึ้นไปกว่านั้นอีก ความไม่ประมาท
คือมีสติควบคุมจิตให้อยู่ในอำนาจของตน ไม่หลงพลั้งเผลอ
สติ คือความไม่ประมาทนี้ สามารถที่จะป้องกันภัยอันตรายหลายอย่าง
ป้องกันกิเลสไม่ให้เกิดขึ้นก็ได้ รักษากิเลสของตนก็ได้
ถ้าไม่เชื่อก็ลองคิดดู เราคิดจะทำลายคนอื่นเพราะเผลอสติ เมื่อมีสติตั้งมั่นแล้วไม่สามารถจะทำลายคนอื่นได้ เรามีสติอยู่ทุกเมื่อ ยืน เดิน นั่ง นอน ทุกอิริยาบถ นั่นแหละ คือความไม่ประมาท
ความไม่ประมาท คือมีสตินี้ แม้แต่ความเจ็บ ความปวด ความเมื่อยล้าสารพัดทุกอย่าง เอาสติตัวนั้นแหละไปควบคุม เอาสติไปมองดู เอาสติตัวนั้นแหละไปกำจัดหายไปเลย สติตั้งมั่นในที่ใดกิเลสเหล่านั้นต้องหายไปในที่นั้น ถ้าหากสติตั้งมั่นอยู่ทุกอิริยาบถ กิเลสมันก็ไม่เกิดเท่านั้นซี ทีนี้เราตั้งมั่นแต่ในขณะที่เราเจ็บปวด ในเวลาที่เราเมื่อยล้า เอาสติไปตั้งมั่นแล้วมันก็หายไป แต่พอมันหายไปแล้วก็ลืมสติอันนั้นเสีย มันก็เลยประมาทต่อไปอีก นั่นแหละจึงว่า อปฺปมาเทน อณฺณวํ
ครั้นเมื่อมี สติแล้วคราวนี้เกิด อุบายปัญญา คือรู้จักจิตของตน รู้จักว่าจิตคิดดีคิดชั่ว คิดหยาบคิดละเอียดรู้เท่ารู้ทันอยู่ตลอดเวลา นั่นเรียกว่าปัญญา ปัญญาในขั้นนี้ไม่ใช่ปัญญาวิปัสสนา แต่เป็นปัญญาที่รู้เท่ารู้ตัวของเราระมัดระวังไม่ให้กิเลสเกิดขึ้น ไม่ให้ทำความชั่ว ส่วนปัญญาวิปัสสนานั้นอีกอย่างหนึ่งต่างหาก ผู้ที่เจริญวิปัสสนามันต้องเกิดเองเป็นเอง เราต้องรักษาสติเรียกว่าไม่ประมาทเสียก่อน เมื่อรักษาสติตัวนี้แก่กล้าแล้วมันเกิดปัญญาของมันเองหรอก
ปัญญาวิปัสสนาไม่ได้ตั้งใจให้เกิดแต่เกิดเอง
(ปัญญาที่ตั้งใจเรียกว่าปัญญารักษาตัวเบื้องต้น)
ของมันเกิดเองเป็นเองจึงเป็นของอัศจรรย์นัก
เป็นของเหลือวิสัยที่มนุษย์ปุถุชนจะให้มันเกิดขึ้น
ปัญญาวิปัสสนาพิจารณาเห็น ไตรลักษณ์ชัดแจ่มแจ้งด้วยตนเอง
ไม่มีใครบอกใครสอนและไม่ต้องปรารมภ์ถึงเรื่องอะไรทั้งหมด
มันเป็นเอง ปัญญานั้นเป็นของสูงสุด
ปัญญาวิปัสสนาเป็นชั้นของพระอริยะเจ้า
ไม่ใช่ของที่จะเกิดบ่อยๆ และแต่ละชั้นๆ นั้น
(โสดาบัน สกทาคา อนาคามีและอรหันต์) ก็เกิดครั้งเดียว
ไม่ใช่เกิดได้ถึงสองสามครั้ง นั้นแหละคือปัญญาวิปัสสนาแท้
: ศรัทธา ความไม่ประมาทและความบริสุทธิ์หมดจด
: หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี แสดง ณ วัดหินหมากเป้ง อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย
: วันที่ ๑๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๒๔
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น