วิเคราะห์สถานการณ์วันที่ ๑๓ กค.นี้ ไม่ว่าศาลจะตัดสินออกมาทางใดก็ตาม

สายน้ำ สันติภาพ
วิเคราะห์สถานการณ์วันที่ ๑๓ กค.นี้ ไม่ว่าศาลจะตัดสินออกมาทางใดก็ตาม จะไม่เกิดเหตุรุนแรงใดๆ อาจมีบ้างก็เป็นเพียงการแสดงกำลังเล็กๆน้อยของคนเสื้อแดงเพื่อเอาใจบำรุงขวัญและเป็นการกระตุ้นมวลชนไม่ให้อับเฉา ทั้งนี้เพราะ ๑.การเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงในวันที่ ๑๓ หวังเพียงเป็นการข่มขู่ศาลและแสดงพลัง ไม่ได้ต้องการรบแตกหักในวันนั้น ๒.การเคลื่อนไหวของคนฝั่งตรงข้ามหลายกลุ่มโดยมีคนเสื้อเหลืองเป็นกำลังหลัก เหล่าแกนนำรู้ทัน จึงเป็นการเคลื่อนไหวแนวรับเชิงต้านหยั่งกำลังเท่านั้น เพียงเพื่อเป็นอุปสรรคสร้างแรงเสียดทานในแนวรบยันไว้ ๓.ทักษิณรู้ดีว่าแม้มองผิวเผินไม่ว่าจากผลเลือกตั้งหรือจากการเคลื่อนไหวมวลชนของพรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดงดูเหมือนมีมวลชนสนับสนุนอยู่มาก แต่ความเป็นจริงแล้วทักษิณรู้ดีว่า ที่ว่ามีอยู่นั้นมันน้อยนิดเมื่อเทียบเคียงกับประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศที่ยังคงจงรักภักดีต่อสถาบันฯ (ซึ่งส่วนนี้อาจไม่เกี่ยวกับเสื้อเหลืองและปชป.โดยตรง) หากเดินเกมส์รุนแรงแตกหักหรือทำให้คนส่วนใหญ่ที่ยังคงเฉื่อยชาทางการเมืองรู้สึกว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองซึ่งกระทบต่อสถาบันฯอันเป็นที่รักโดยตรง เมื่อนั้นคนส่วนใหญ่นี้ก็จะไปรวมตัวกับฝั่งตรงข้ามทันที ซึ่งเป็นการปลุกยักษ์หลับให้ตื่นขึ้นมาด้วยความเครียดแค้น และเมื่อนั้นอย่าว่าแต่ทักษิณจะกลับประเทศเลย ทั้งตระกูลอาจต้องลี้ภัยไปทั้งหมด ๔.การเคลื่อนไหวระดับตัดสินใจในเรื่องสำคัญสุดยอด คนที่ตัดสินใจได้ว่าจะเอาอย่างไรมีเพียงคนเดียวเท่านั้น คือ ทักษิณ ณ. วันนี้ยังตรวจสอบไม่พบการเคลื่อนไหวใดๆที่จะเป็นดัชนีบอกเหตุรุนแรงจากตัวชี้วัดที่ชื่อทักษิณ ๕.จากเหตุผลข้อ ๓.ทักษิณน่าจะเลือกทำสงครามยืดเยื้อ เหมือนกองทัพปลวกกัดแทะเสาเรือนมากกว่าที่จะยอมเสียอำนาจรัฐในเวลาอันรวดเร็วจากเหตุการรุนแรงใดๆ สู้ประคับประคองรัฐบาลให้อยู่ในอำนาจยาวนานที่สุด จนกว่าจะกัดแทะเสาหลักของบ้านให้ผุกร่อนอ่อนแอถึงที่สุด โดยการเปิดแนวรบทุกด้าน แต่เป็นการรบแบบหมาลอบกัด ทุกแนวรบมุ่งตรงสู่เสาหลักของบ้าน ขณะเดียวกันก็ซ่องสุมผู้คน แนวร่วมให้มากขึ้นทั้งในบ้านและนอกบ้าน ทำลายแนวร่วมฝั่งตรงข้ามให้อ่อนแอ โดยอาศัยอำนาจรัฐที่มีอยู่ในมือ จึงเลือกที่จะบริหารอำนาจมากกว่าจะทำการรบแตกหัก.......................
...........................เว้นเสียแต่ว่า มันโง่กว่าที่ประมาณไว้เท่านั้น วันที่ ๑๓ กค. นี้ ถึงจะเกิดเหตุรุนแรงขึ้น ส่วนเหตุรุนแรงที่จะเกิดมาจากฝั่งตรงข้ามก่อขึ้นนั้นมีความเป็นไปได้น้อยมาก เหตุผลใหญ่ยังไม่สุกงอมพอที่จะรวมตัวติดจนเป็นเนื้อเดียวกัน(รอสถานการณ์สร้างอารมย์ร่วม) และยังไม่มีคนราดเบนซินและจุดไม้ขีดไฟก้านแรกในเวลาที่เหมาะสม หรือจะเป็นเขา... ก่อแก้ว พิกุลทอง..