by สำนักสารนิเทศ
โรงพยาบาลมหาสารคามห่วงใย เตือนโรคปอดบวม โรคปอดบวม เป็นโรคที่มีอันตรายถึงชีวิตได้ พบว่าเป็นสาเหตุการตายอันดับ 1 ของโรคติดเชื้อในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ผู้เลี้ยงเด็กจะต้องรู้จักโรค สังเกตอาการเป็น เพื่อนำผู้ป่วยไปรับการรักษาเร็วที่สุด นายสุนทร ยนต์ตระกูล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาสารคาม กล่าวว่า โรคปอดบวม หมายถึงภาวะที่ปอดเกิดการอักเสบ ซึ่งอาจเป็นเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส เชื้อรา และพยาธิ เมื่อเป็นปอดบวมจะมีหนองและสารน้ำอย่างอื่นในถุงลม ทำให้ร่างกายไม่สามารถรับออกซิเจน และอาจเสียชีวิตได้ สำหรับสาเหตุของปอดบวม เกิดจากเชื้อหลายชนิด เช่น แบคทีเรีย ไวรัส ไมโครพลาสมา เชื้อรา หรืออาจเกิดสารเคมีบางชนิด โดยเชื้อที่เป็นสาเหตุจะอยู่ในน้ำลายและเสมหะของผู้ป่วย สามารถแพร่กระจายโดยการไอ และ จาม หรือการสำลักน้ำลายเศษอาหารและน้ำย่อย หรือเมื่อร่างกายมีภาวะอ่อนแอก็จะเกิดโรคได้ เช่น อายุมาก ขาดอาหาร เป็นเบาหวาน ได้รับยากดภูมิคุ้มกัน การอักเสบหรือติดเชื้อไวรัสของระบบการหายใจ การอุดกั้น และการอักเสบเรื้อรังในหลอดลม หรือติดเชื้อในปอด สามารถติดต่อ โดยการได้รับเชื้อจากการไอ หรือจามของผู้ป่วย บางรายอาจได้จากการกินน้ำแก้วเดียวกันหรือใช้ผ้าเช็ดหน้าร่วมกัน หลังจากได้รับเชื้ออาจจะเกิดอาการใน 1-3 วัน ส่วนอาการของโรคปอดบวม ผู้ป่วยจะมีอาการน้ำมูกไหล จาม คัดจมูก บางรายมีไข้สูง หนาวสั่นหายใจหอบเหนื่อย เจ็บหน้าอกบริเวณที่อักเสบ ไอ ในระยะแรกมีลักษณะไอแห้งๆ แต่ระยะต่อมาจะมีจำนวนเสมหะเพิ่มมากขึ้น เสมหะเหนียว วิธีการรักษา ให้ดื่มน้ำมากๆ รับประทานยาตามแพทย์สั่ง ห้ามซื้อยาแก้ไอรับประทานเอง ให้คอยตรวจดูสีริมฝีปาก และเล็บว่ายังคงสีชมพูอยู่หรือไม่ หากมีสีคล้ำควรรีบพบแพทย์ หรือถ้ามีอาการ ไข้สูงมาก หอบมาก ไอมาก แพทย์อาจจะให้นอนโรงพยาบาล การป้องกัน ทำได้โดย การหลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดจากคนที่เป็นปอดบวม หากในครอบครัวมีสมาชิกเป็นหอบหืดให้แยกถ้วย จาน แก้วน้ำ และของใช้ส่วนตัว หมั่นล้างมือบ่อยๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น