++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพฤหัสบดีที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

หนีเรียนมั่วในโรงแรม : สิ่งบอกเหตุเด็กด้อยจริยธรรม โดย สามารถ มังสัง


หนีเรียนมั่วในโรงแรม : สิ่งบอกเหตุเด็กด้อยจริยธรรม

โดย สามารถ มังสัง

    ในขณะที่ข่าวสาวเปลือยอกใช้เต้าแทนพู่กันวาดภาพออกทีวีในรายการดัง ยังไม่ทันจางหายไปจากความทรงจำของผู้คนในสังคมไทย และที่สำคัญยังเป็นที่สลดใจของบรรดาผู้คนที่รักและหวงแหนความเป็นไทย ได้เกิดข่าวใหม่ที่ทำให้คนไทยสลดใจยิ่งกว่า และข่าวที่ว่านี้ก็คือข่าวนักเรียนหนีเรียนไปเปิดห้องมั่วสุมในโรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่งในจังหวัดเพชรบุรี โดยมีผู้เห็นเหตุการณ์ทนดูพฤติกรรมของเด็กกลุ่มนี้ไม่ไหวได้แจ้งตำรวจดังที่ปรากฏเป็นข่าวทางสื่อเกือบทุกแขนงไปแล้ว
     
       แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการทบทวนความจำสำหรับผู้ที่ได้รับรู้ข่าวนี้มาแล้ว และเพื่อให้ท่านที่ยังไม่รู้ไม่เห็นข่าวนี้ได้รู้ ผู้เขียนจึงใคร่ขอเสนอข่าวนี้อีกครั้ง โดยสรุปเป็นประเด็นดังต่อไปนี้
     
       1. เมื่อวันที่ 25 มิถุนายนที่ผ่านมา เวลา 10.50 น. ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองเพชรบุรี ได้ตรวจค้นโรงแรมม่านรูดชื่อชานเมือง ตั้งอยู่ที่ ต.บึงกุ่ม อ.เมือง จ.เพชรบุรี หลังจากได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีเด็กนักเรียนชายและหญิงเข้ามาเปิดห้องพักทำกิจกรรมไม่เหมาะสม
     
       2. จากผลการตรวจสอบพบว่าในห้องเลขที่ 1 มีนักศึกษาสถาบันสายอาชีวะ และนักเรียนระดับมัธยมศึกษาจำนวน 5 คน เป็นชาย 3 คน และเป็นหญิง 2 คน และห้องเลขที่ 11 พบว่ามีนักศึกษาชายและนักเรียนหญิงอีก 5 คน เป็นชาย 3 คน และหญิง 2 คน รวมกัน 2 ห้องจำนวน 10 คน และทั้งหมดมีอายุโดยเฉลี่ย 14-16 ปี
     
       3. จากการบอกเล่าของนักเรียนชายคนหนึ่งบอกว่า ช่วงเช้าของทุกวันจะโทรศัพท์นัดกลุ่มเพื่อนที่อยู่สถาบันเดียวกัน และต่างสถาบันมาเปิดห้องโรงแรมม่านรูดเพื่อมีเพศสัมพันธ์กันห้องละ 5 คน แบ่งเป็นชาย 3 คน และหญิง 2 คน ซึ่งจะทำกันเป็นปกติประจำ
     
       แต่อย่างไรก็ตาม ในวันที่ตำรวจไปตรวจค้นพบเพียงการมารวมกลุ่มกันในห้อง แต่ยังไม่ปรากฏพฤติกรรมมั่วสุมทางเพศเกิดขึ้น ตำรวจจึงได้ตักเตือนและเรียกพ่อแม่ผู้ปกครองมารับตัวไป และในขณะเดียวกันตำรวจได้สอบสวนเจ้าของโรงแรมม่านรูดแห่งนี้ว่าปล่อยให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีเข้ามาใช้บริการได้อย่างไร
     
       จากข่าวที่ปรากฏเป็นการบ่งชี้ได้อย่างชัดเจนว่า สถานประกอบการให้เช่าห้องในทำนองนี้คือส่วนประกอบอันสำคัญในการเปิดโอกาสให้เด็กวัยรุ่นใช้เป็นที่นัดหมาย และประกอบกิจกรรมทางเพศอันเป็นการขัดต่อประเพณีและวัฒนธรรมอันดีงามของไทย รวมไปถึงการทำลายทรัพยากรมนุษย์ของประเทศให้ด้อยคุณภาพ ด้อยคุณธรรม ไปพร้อมกับการทำลายระบบการศึกษาของชาติด้วย ทั้งนี้ด้วยเหตุผลในเชิงตรรกะดังต่อไปนี้
     
       1. เด็กที่มีพฤติกรรมเยี่ยงนี้ วันหนึ่งข้างหน้าเมื่อเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ก็จะเป็นผู้ใหญ่ที่ด้อยคุณภาพ ด้อยคุณธรรม และเป็นอันตรายทั้งในด้านสังคมและการเมือง รวมไปถึงแม้กระทั่งในระบบเศรษฐกิจในยุคการแข่งขันที่ต้องการกำลังคนที่มีศักยภาพในทุกด้าน
     
       เริ่มด้วยทางด้านการเมือง เมื่อเด็กเหล่านี้โตขึ้นถึงวัยมีสิทธิเลือกตั้งก็เป็นนักเลือกตั้งที่ด้อยคุณภาพ อาจตกเป็นเหยื่อของการซื้อสิทธิขายเสียง และถ้ายิ่งมีโอกาสเป็นผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งด้วยแล้วจะยิ่งเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประชาธิปไตย เพราะนอกจากมองไม่เห็นค่าของความดีงามที่สังคมควรจะมีจะเป็นแล้ว ยังเป็นเครื่องมือหรือกลไกบ่อนทำลายระบบศีลธรรมและจริยธรรมที่คนส่วนใหญ่ยึดถือด้วย และถ้าบังเอิญได้รับเลือกเป็น ส.ส.หรือตำแหน่งอื่นใดที่สังคมควรจะได้เป็นแบบอย่างในทางที่ดีด้วยแล้ว พฤติกรรมของคนที่ขาดจริยธรรมเยี่ยงนี้แล้ว แน่นอนว่าจะต้องเป็นตัวอย่างในทางเลวมากกว่าในทางดีดังที่เห็นอยู่ในวงการการเมืองไทยในปัจจุบัน
     
       2. การที่เด็กถึงแม้จะไม่ทั้งหมดหรือเพียงส่วนน้อยของสังคมมีพฤติกรรมเยี่ยงนี้บ่งบอกได้ชัดเจนว่าจะเป็นตัวถ่วงความเจริญก้าวหน้าของระบบการศึกษาโดยรวมแน่นอน เพราะจะต้องไม่ลืมว่า ในชั้นเรียนที่มีเด็กเรียนรวมกันประมาณ 30-50 คน ถ้ามีเด็กกลุ่มหนึ่งเพียงไม่กี่คนเกเรจะทำให้การเรียนการสอนพบอุปสรรคแน่นอน เพราะเด็กที่ว่านี้คือตัวถ่วงให้เกิดความล่าช้า
     
       อะไรคือต้นเหตุให้เด็กมีพฤติกรรมเกเรและมั่วสุมทางเพศ และมีแนวทางแก้ไขอย่างไร
     
       เพื่อให้ท่านผู้อ่านมองเห็นปัญหาทั้ง 2 ประเด็นแห่งคำถาม ผู้เขียนใคร่ขอให้ท่านผู้อ่านมองไปที่ปัญหาใกล้ตัว เช่น มองคนในครอบครัวของตนเอง และครอบครัวใกล้เคียงที่มีเด็กเกเร และมีพฤติกรรมเหลวแหลกก็พอจะพบว่ามีมูลเหตุมาจากสิ่งต่อไปนี้มากที่สุด คือ
     
       1. พันธุกรรมและสิ่งแวดล้อม พฤติกรรมที่ว่านี้มุ่งเน้นไปที่พ่อแม่ และสิ่งแวดล้อม มุ่งเน้นไปที่บุคคลในครอบครัว และสภาพแวดล้อมของสังคมที่ครอบครัวนั้นๆ อาศัยอยู่ เช่น พ่อแม่มีบุคลิกลักษณะส่อไปในทางเลว ไม่ดี ไม่มีศีลธรรม ประกอบกับอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เลวด้วย ในทำนองเดียวกันโอกาสที่เด็กจะโตขึ้นเป็นคนดีค่อนข้างยาก แต่ในทางกลับกันโอกาสที่เด็กจะเป็นคนเลวมีโอกาสสูง
     
       2. สภาพเศรษฐกิจค่อนข้างย่ำแย่ ยากจนต้องทำงานเพื่อแลกกับเงินมาประทังชีวิตในลักษณะหาเช้ากินค่ำ พ่อแม่ไม่มีเวลาคอยอบรมลูก ปล่อยให้ลูกคบหาคนรอบข้าง ถ้าเผอิญคนรอบข้างเป็นคนดีก็โชคดีของเด็กไป แต่ถ้าโชคร้ายคนรอบข้างเป็นคนไม่ดี เช่น ติดยา ไม่สนใจการศึกษา ก็จะทำให้เด็กเสพติดสังคมรอบข้าง และเป็นคนเลวในที่สุด
     
       3. ระบบการศึกษาของไทยในปัจจุบันมุ่งเน้นให้ความรู้เพื่อการแสวงหาวัตถุ มากกว่ามุ่งอบรมให้เด็กเป็นคนดีมีศีลธรรม จึงทำให้เด็กได้รับแต่สิ่งที่ยั่วยุให้เกิดการแสวงหาโดยไม่คำนึงถึงความผิดความถูก ไม่เหมาะไม่ควร จึงเป็นการเปิดโอกาสให้วัตถุเข้าครอบงำเด็ก ดังนั้นจึงเป็นช่องให้เด็กทำทุกอย่างที่ตนเองอยากทำ รวมไปถึงการแสดงออกในทางเพศด้วย
     
       3 ประการที่กล่าวมานี้น่าจะถือได้ว่าเป็นมูลเหตุหรือสิ่งจูงใจให้เด็กแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมในทางเพศก่อนวัยอันควร หรือที่โบราณเรียกว่า ชิงสุกก่อนห่าม
     
       ทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นเพียงอนุมานจากคนหมู่มากที่กระทำเยี่ยงที่เป็นข่าว แต่ก็ยังมีอยู่ไม่น้อยที่เกิดมาในครอบครัวพ่อแม่เป็นคนดีมีศีลธรรม และอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี แต่มีพฤติกรรมมั่วสุมทางเพศในทำนองเดียวกับเด็กที่เพชรบุรี จะต่างกันตรงที่ว่าเลือกสถานที่ค่อนข้างจะเก็บความลับได้มากกว่า และคบหากับบุคคลที่ดูแล้วอาจดีกว่า แต่ทางพฤติกรรมการแสดงออกในทางศีลธรรมแล้วไม่ต่างกันเช่น เด็กที่จัดปาร์ตี้ยาเสพติดราคาแพง และมั่วสุมอย่างเงียบๆ ไม่เป็นที่เปิดเผยซึ่งก็เลวไม่ต่างกันในแง่ของศีลธรรม
     
       ทั้งหมดที่ยกมาเขียนก็เพียงบอกให้รู้ว่าวันนี้สังคมไทยพิการแล้วโดยสิ้นเชิง และจะอยู่รอดปลอดภัยได้ก็ด้วยการที่ทุกคนร่วมกันป้องกันและแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้นโดยความสมัครใจและเต็มใจ ไม่ต้องรอให้ภาครัฐเข้ามาแก้ไขเพราะจะช้าเกินไป เข้าทำนองกว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้หมดแล้ว

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น