++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันศุกร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

เหนื่อยนัก พักสักนิด

ในช่วงวันหยุดที่ว่างเว้นจากการทำงาน และมีเวลาพักผ่อนอยู่กับบ้านหรือไปท่องเที่ยวตากอากาศตามสถานที่ต่างๆ บางคนได้นอนตื่นสาย ได้มีโอกาสปฏิบัติภารกิจที่คั่งค้างมาตั้งแต่ต้นสัปดาห์ หรืออาจได้ทำในสิ่งที่อยากทำต่างๆ นานา ที่สำคัญจะเป็นโอกาสดีที่ทำให้มีเวลาทบทวนตัวเอง การพักผ่อนที่แท้จริงนั้นมิใช่อยู่ที่การพักกายอย่างเดียว จะต้องมีเวลาพักใจด้วย
การพักใจ ไม่ต้องวิตกกังวลถึงปัญหาต่างๆ ไม่ต้องวุ่นวาย หรือหมกมุ่นเรื่องงาน ด้วยการพยายามทำจิตใจให้ว่าง ผ่อนคลาย สบายๆ มีความรู้สึกที่สดชื่น เบิกบาน ผ่องใส ปลอดโปร่ง ซึ่งความรู้สึกเหล่านี้ก็เป็นความสุขอย่างหนึ่ง
ในทางธรรมะท่านบอกว่า " สุขหรือทุกข์อยู่ที่ความคิด " ความทุกข์เกิดจากตัวเราเท่านั้น ไม่ใช่เกิดจากใครทั้งสิ้น บุคคลอื่นและสิ่งแวดล้อมนั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ทำให้เราทุกข์ ถ้าใจของเราไม่ยอมเป็นทุกข์เสียอย่าง สิ่งเหล่านี้จะมาทำอะไรได้ จริงมั้ย.. จะแก้ทุกข์คงต้องแก้ตรงที่ " ตัวเรา " ไม่ใช่ไปแก้ที่ตัว " ตัวเขา " ตรงอื่นเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ไม่ใช่ส่วนที่สำคัญที่สุด
ลองสำรวจตัวเราสิว่า สิ่งเหล่านี้เป็นปัญหาที่ทำให้เราทุกข์ไหม
1. อยากจะควบคุมผู้อื่นหรือเปลี่ยนแปลงผู้อื่นอยู่บ่อยๆ
2. อยากให้เขาเป็นได้ดั่งใจของเราทุกเรื่อง
3. เราขาดแคลนมากไป
4. เรามีมากไป
5. มัวแต่คำนึงถึงเรื่องคั่งค้างใจแต่ในอดีต
6. มัวแต่จินตนาการและสร้างฝันในเรื่องอนาคต
7. ตั้งความหวังเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ในชีวิตไว้สูงเกินไป
8. ไม่ได้ใช้ศักยภาพของตนเองได้เต็มที่หรือสุดฤทธิ์
9. ขาดเพื่อนคิด เพื่อนคุย และเพื่อนร่วมทุกข์ ร่วมสุข
10. ชาตินี้เกิดมาไม่มีใครสักคนยอมรับตัวเราเลย
11. มักน้อยเนื้อต่ำใจ ไม่เคยมองเห็นคุณค่าในตัวเองเลย
หากสำรวจแล้วทั้ง 11 ข้อ พบว่าเป็นปัญหาแต่ไม่เกิดทุกข์ก็อย่าวิตกกังวลถึงมันเลย ถือว่าเป็นโชคดีที่ไม่ต้องมีใครมาเยือนบ่อยๆ แต่ถ้าเป็นปัญหาแล้วก่อให้เกิดทุกข์ทั้งกายและใจ คงต้องรีบหาหนทางแก้ไขปัญหานั้นๆ เพื่อจะให้ความทุกข์ลดน้อยลง จนกระทั่งหมดไป และมีแต่วันดีคืนดี ตามลำดับ
มีผู้รู้เขียนไว้ว่า " ความทุกข์สำหรับวันไหน ก็ควรจะเพียงพอสำหรับวันนั้น ทำไมต้องนำมาทุกข์มาทำให้ใจกระสับกระส่าย วุ่นวายในวันพรุ่งนี้อีกด้วยเล่า "
แม้ว่าบางช่วงของชีวิตจะเป็นทุกข์ก็ตาม แต่คนฉลาดและคนที่มีสติปัญญา ต้องพยายามแสวงหาความสุขจากชีวิตให้ได้ โลกนี้ สังคมนี้ จะดีและมีความสงบสุข ก็ด้วยสมองและฝีมือของมนุษย์ที่คิดเก่งและคิดดีทำดี
เราทุกคนล้วนมีส่วนในการปรุงแต่งชีวิตของเราเอง ปรุงแต่งสังคมให้น่าอยู่และปรุงแต่งโลกให้สวยงาม เพื่อจะได้อยู่ร่วมกันอย่างสันติไม่เบียดเบียนกันและกัน
รสอาหารมีการปรุงแต่งได้ฉันใด จิตใจของเราและร่างกายของเราก็สามารถปรุงแต่งได้ฉันนั้น ดังคำกล่าวที่ว่า " ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง " ซึ่งเป็นการบอกว่า คนเราจะสวยงามได้ก็เพราะการปรุงแต่งนั่นเอง คือการปรุงแต่งทางกาย ซึ่งเป็นการปรุงแต่งภายนอกด้วยเสื้อผ้าอาภรณ์ เครื่องประดับ และการปรุงแต่งทางใจ ซึ่งเป็นการปรุงแต่งภายในด้วยความรู้สึกที่ดี และคิดแต่สิ่งที่ดีๆ
แม้ในยามทำงานที่ต้องเหน็ดเหนื่อย ทั้งสมองและร่างกาย จิตใจ ก็ควรนึกถึงงานในทางที่ดี มีความรักในงานที่ทำ นึกแล้วให้สบายใจ มีความร่าเริงเบิกบานมีความสุขในการทำงาน ก็จะสามารถทำงานได้อย่างสร้างสรรค์และมีความสุข
ในครอบครัวแต่ละครอบครัวอาจพบปัญหาได้หลากหลาย หากคนในครอบครัวรู้จักจัดการ ให้อภัย มีความเอื้ออาทรต่อกัน มีความซื่อสัตย์ ความรัก ความจริงใจให้กันและกัน เชื่อว่าปัญหาต่างๆ ก็จะผ่านพ้นไปด้วยดี ทุกคนในครอบครัวมีความสุข
ชีวิตในช่วงวันหยุด เช่น วันหยุดสุดสัปดาห์ หากได้มีเวลาพักผ่อนทั้งกายและใจ ได้ออกกำลังกาย คิดทบทวนสิ่งต่างๆ ที่ผ่านมาทั้งดีและไม่ดี อย่างมีสติ มีเวลาปรุงแต่งจิตใจ เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันจิตใจ เตรียมพร้อมเพื่อการยิ้มรับวันใหม่ที่จะได้ทำงานอย่างมีความสุขกับงานและเพื่อนร่วมงาน รวมทั้งผู้บังคับบัญชา ที่เราคิดถึงเขาแต่ในส่วนที่ดีๆ เพื่อชีวิตของเราในการก้าวต่อไปจะได้พบแต่รอยยิ้ม มีความสุขกายและสุขใจ ทั้งตัวเราและคนรอบข้าง
วันหยุดหน้า อย่าลืมให้รางวัลชีวิตด้วยการพักกาย พักใจสักนิด นะคะ
By: คุณรัตน์รวี เวชยม พยาบาลวิชาชีพ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น