++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันจันทร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ธรรมะวันนี้เสนอเรื่อง"ธรรมะสดใสหัวใจเบิกบาน"

ธรรมะสดใสหัวใจเบิกบาน

ทำไม...ต้องทุกข์
หลายต่อหลายคนมีความทุกข์ แม้บางครั้งอาจจะเป็นเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง แต่ก็สามารถทำให้เรานั้นเกิดความทุกข์ได้ บางคนก็เก็บเอาเรื่องที่มันผ่านไปตั้งหลายวันแล้วกลับมาคิดก็ทำให้ตนเองนั้น เกิดความทุกข์อีกเช่นกัน ปัญหาที่เกิดความทุกข์ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้เรานั้นต้อง ทุกข์ ส่วนใหญ่อยู่ที่ความรู้สึกของเราเอง หากเรามองว่าเรื่องนั้นมันผ่านไปแล้ว แม้หากว่าเราจะนำมันมาคิดสักเพียงใดก็ตาม เรื่องนั้นก็ไม่สามารถที่จะแก้ไขอะไรได้อีกแล้ว
ดังนั้นหากเรารู้จักปัญหาที่เกิดขึ้น ว่ามาจากอะไร ที่ทำให้ใจของเรานั้นเป็นทุกข์ เราก้ควรที่จะแก้ไขที่ใจของเราเอง ยิ้มรับปัญหาที่เกิดขึ้น และควรที่จะหาทางออกมากกว่าการที่เราจะไปทุกข์กับมันว่าทำไมต้องเกิดขึ้นกับ เรา ต่าง ๆ นานา


อิทธิบาท 4 หลักธรรมที่ไม่เคยล้าสมัย
อิทธิบาท 4 หรือหลักธรรมอันเป็นหลักแห่งความสำเร็จ หรือทางแห่งความสำเร็จ 4 ประการ ที่ในปัจจุบันแม้เราจะหลงลืมกันไปบ้างว่า คืออะไร แต่ถ้าหากได้ย้อนรำลึกกันบ้างว่ามีอะไร และคืออะไร จะเห็นได้ว่าหลักธรรมอายุ 2 พันกว่าปีนี้ ไม่มีคราวใดที่จะเรียกว่าล้าสมัย
ฉันทะ : รักงาน (การเห็นคุณค่า ความรัก ความพอใจ)
วิริยะ : สู้งาน (ความเพียร เห็นเป็นความท้าทาย ใจสู้ ขยัน)
จิตตะ : ใส่ใจงาน (ความคิด อุทิศตัวต่องาน ใจจดจ่อ จริงจัง)
วิมังสา : ทำงานด้วยปัญญา (ไตร่ตรอง พิสูจน์ ทดสอบ ตรวจตรา ปรับปรุงแก้ไข)

ชีวิตที่สมบูรณ์
พระธรรมปิฎก (ประยุทธ์ ปยุตโต) ที่ในปัจจุบันแม้จะได้รับพระราชทานสถาปนาสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรอง ชั้นหิรัณยบัฏ ที่ พระพรหมคุณา��รณ์ฯ แล้วก็ตาม แต่ในนามพระธรรมปิฎกยังเป็นที่คุ้นหูของคนทั่วไปอยู่เสมอ ซึ่งนอกจากท่านจะรับนิมนต์ในงานเทศนาแล้ว ท่านยังมีหนังสือธรรมะ ที่คนอย่างเราๆ สามารถเข้าถึงและเข้าใจ นำไปปฏิบัติต่อการดำเนินชีวิตได้ ในหนังสือ “ชีวิตที่สมบูรณ์” ของท่าน ได้กล่าวถึง การมีความสุขของคนที่ต้องมี��ารกิจในการทำงานได้อย่างน่าฟังและเห็นจริงว่า เราดำเนินชีวิตไป เราก็นึกว่าถ้าเรายิ่งมีมากเราก็จะยิ่งมีความสุขมาก เราก็หาเงินหาทรัพย์ยิ่งขึ้นไป แต่แล้วบางทีกลายเป็นว่า ไปๆ มาๆ เราก็วิ่งไล่ตามความสุขไม่ถึงสักที ยิ่งมีมากขึ้น ความสุขก็ยิ่งวิ่งหนีเลยหน้าไป แต่ก่อนเคยมีเท่านี้ก็สุข แต่ต่อมาเท่านั้นไม่สุขแล้ว ต้องมีมากกว่านั้น เคยมีร้อยเดียวก็สุข ต่อมาเราคิดว่าต้องได้พันหนึ่งจึงสุข พอได้พันแล้ว หนึ่งร้อยที่เคยมีและทำให้สุขได้กลับกลายเป็นทุกข์ คราวนี้ถ้ามีแค่ร้อยไม่เป็นสุขแล้ว ต้องมีพัน ทีนี้ พอมีพันก็อยากได้หมื่น ต้องได้หมื่นจึงสุข มีพันตอนนี้ไม่สุขแล้ว แต่ก่อนทำไมมีร้อยก็สุข มีพันก็สุข แต่เดี๋ยวนี้มันสุขไม่ได้ ร้อยและพันนั้นกลับเป็นทุกข์ไป มันไม่น่าจะเป็นไปได้ เมื่อก่อนโน้นยังไม่มีอะไร พอได้ร้อยครั้งแรกดีใจเหลือเกิน สุขยิ่งกว่าเดี๋ยวนี้ที่ได้หมื่น พอหาเครื่องบำรุงความสุขได้เพิ่มขึ้น สุขเก่าที่เคยมีกลับลดหาย ความสุขมันหนีได้

ทำงานเป็นสุขตามหลักธรรมะ
บางคนในชีวิตการทำงานได้ถือโอกาสเริ่มต้นใหม่ บางคนอาจพบกับการเปลี่ยนแปลง ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนั้นมีได้ทั้งทางบวกและทางลบ แต่ไม่ว่าจะอย่างไรการเปลี่ยนแปลงทำให้มีผลต่อความรู้สึกได้ หรือแม้แต่ผู้ที่คิดว่าตนเองนั้นไม่ว่าปีไหนๆ ก็ไม่มีสิ่งใหม่ๆ เกิดขึ้นเลย หากวันใดที่สมองคิดวนเวียนอยู่แต่เรื่องเหล่านี้ ก็มีแต่จะทำให้การทำงานมีอุปสรรคไม่ก้าวหน้า อย่างไรเสียก็ต้องคิดว่า “งานเป็นหน้าที่” ที่ต้องดำเนินต่อไป คำว่าถอยหลังไม่ควรเกิดขึ้นในชีวิตทำงาน แต่ว่าถ้าจะมีการชะงักหรือหยุดเพื่อตั้งหลักบ้าง เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ แต่ถ้าเมื่อคิดในทุกๆ แนวทางแล้วยังไม่สามารถที่จะปลดปลงเพื่อให้ชิวิตดำเนินต่อได้ ลองใช้วิธีพึ่งหลักธรรมะในท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติที่สุขสงบ เชื่อว่าจะทำให้ดีขึ้นได้ เพราะขนาดกฎแห่งธรรมชาติเองก็คือ การเปลี่ยนแปร ไม่มีอะไรคงที่ ฤดูยังมีความแตกต่างกันได้ เพราะฉะนั้นดับความฟุ้งซ่านและให้ความสำคัญกับการที่ต้องทำจะเป็นการที่ดี กว่า
หลักธรรมะในทางศาสนาพุทธมีพระสงฆ์หลายรูป ที่ได้น้อมนำคำสั่งสอนแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัม พุทธเจ้า และพยายามถ่ายทอดไปยังฆราวาสทั้งหลาย ซึ่งหากเปิดใจให้กว้างแล้ว เชื่อว่าสามารถประยุกต์ใช้ได้ดีแม้กับผู้ไม่ใช่เพศบรรพชิต

เกิดมาทำไม..?
หลายคนเกิดมาในโลกใบนี้และใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้จนวินาทีสุดของลมหายใจยัง ไม่สามารถที่จะตอบคำถามให้ตัวเองได้ว่า “เกิดมาทำไม” บางคนเกิดมามีชีวิตที่สุขสำราญทุกสิ่งทุกอย่างมีพร้อม แต่ในขณะที่อีกหลายคนเกิดมาบนโลกใบนี้ยังหาความสุขไม่ได้เลย หลายต่อหลายคนที่ใช้ชีวิตบนโลกนี้ไปโดยปราศจากคำตอบหรือเป้าหมายที่แน่นอน และชัดเจนให้กับตัวเองว่าเราเกิดมาทำไม เกิดมาเพื่ออะไร เราอาจจะเคยได้ยินหลายคนหลายท่านบอกว่าเราเกิดมาเพื่อชดใช้กรรมเก่า แต่หากเป็นอย่างนั้นแล้วชีวิตในขณะนี้เราชดใช้กรรมเก่ากันหมดหรือยัง แล้วเราจะชดใช้กันไปอีกนานเท่าไร และเราต้องเกิดมาอีกกี่��พกี่ชาติถึงจะใช้กรรมเก่าหมด แล้วกรรมใหม่ที่เราสร้างขึ้นละ เป็นคำถามที่หลายคนยังไม่สามารถที่จะให้คำตอบได้ ดังนั้นแล้วเราเกิดมาทำไม

เครดิต:หนังสือธรรมะ(จากงานศพ)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น