วันนี้มีวิธีใหม่ในการลดความอ้วนเพื่อสุขภาพพลานามัยที่ดีมาแนะนำกันค่ะ ใช่แล้ววิธีนี้คือ "กล้วยมื้อเช้า" ค่ะ
สืบเนื่องมาจากหนังสือหน้าตาไม่ชวนซื้อเล่มนี้
playground
เปิดมาตัวหนังสือเล็กๆยุบยับ ไม่น่าซื้อเอาซะเลย แต่ตอนนั้นกำลังจะไปเที่ยวพอดี ต้องหาอะไรไปอ่านแก้เบื่อบนเครื่องซะหน่อย ช่วงนั้นรู้สึกว่าตัวอืดๆด้วย หนังสือเล่มนี้แค่ 150 เองไม่แพง ซื้อมาอ่านขำๆก็ได้
พออ่านจบแล้วพบว่า.............. เฮ้ย!! ซาร่ามันน่าจะเจ๋งนะเนี่ยยยยยยย
ตอนนี้ทำตามหนังสือบอกมาได้เกือบเดือนแล้ว รู้สึก ok เลย มันมีแนวโน้มที่น่าจะผอม และทำให้ผู้ปฎิบัติตามมีสุขภาพที่ดีได้จริงๆ ไม่ได้ยากเกินไปด้วย เลยเริ่มชวนเพื่อนสนิทให้ทำตาม เพื่อนๆก็จะมาขอยืมหนังสือกันใหญ่ เลยมาเขียน Blog ดีกว่าจะได้เป็นอานิสงส์ให้คนอื่นๆด้วย
กล้วยมื้อเช้าบนรถทุกวันเลย อร่อยย
My breakfast
หนังสือเล่มนี้เขียนโดยคุณ ฮามาจิ (จิน วาตานาเบะ) เค้าเป็นกูรู ผู้นำเสนอหลักการกล้วยมื้อเช้าเป็นคนแรก (เริ่มนำเสนอในปี 2006) โดยคนคิดค้นหลักการนี้ก็คือ เภสัชกร นักเวชศาสตร์ป้องกันซึ่งเป็นภรรยาของเค้าเอง ชื่อ คุณ สิมิโกะ วาตานาเบะ
กล้วยมื้อเช้าที่เป็นหลักการที่ฮอตฮิตมากๆที่ญี่ปุ่นเลยหล่ะ แบบที่บนหน้าปกหนังสือนี้บอกว่าขายมาแล้วกว่า 1 ล้านเล่มที่ญี่ปุ่น ปรากฏการณ์กล้วยมื้อเช้าที่ญี่ปุ่น ทำให้ในปี 2008 ราคากล้วยที่ญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 20%, กล้วย ใน supermarket จะหมดก่อนบ่ายสามโมง และ ญี่ปุ่นต้องนำเข้ากล้วยเพิ่มขึ้นถึง 25% เลยทีเดียววว
เห็นแบบนี้แล้วชักอยากรู้แล้วใช่มั้ยหล่ะ ว่าหลักการของกล้วยมื้อเช้าเป็นยังไง
เรามีสรุปมาให้แล้วสั้นๆ แต่แนะนำว่าให้ไปซื้อหนังสือเล่มนี้มาอ่านกัน เพราะในหนังสือเค้าจะอธิบายละเอียดเลยว่าทำไมหลักการของกล้วยมื้อเช้าถึง work , มีตัวอย่างของคนที่ปฏิบัติแล้วเห็นผลแตกต่างกันมาเล่า, มีภาพประกอบที่ทำให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น และ มีคำตอบของ FAQ ที่คนเค้าถามคุณฮามาจิมาด้วย บางอันตรงกับที่เราอยากถามพอดีเลย
กล้วยที่รอกินอยู่ วางแผ่ๆไว้ :D
Banana Diet
อร่อยสุดต้องกล้วย Dole ขายตาม Tops, Carrefour, Tesco 4 ลูก 30-35 บาท
ไปวันที่มีเยอะๆจะเลือก Size ใหญ่ๆได้แบบนี้ ลูกเดียวอิ่มเลย
(ที่ Tops คุณภาพดีสุด Spot rewards ได้ลดเหลือ 30 บาท)
Banana Diet
หลักการของกล้วยมื้อเช้า มี 8 ข้อ (สรุปจากหนังสือหน้า 38 - 43)
1. กินกล้วยหอมอย่างเดียวในมื้อเช้า เคี้ยวให้ละเอียดปล่อยให้ลิ้นได้รับรสอร่อยของกล้วย
จะกินกี่ลูกก็ได้ (เรากิน 1-2 ลูกแล้วแต่วัน คุณฮามาจิตอนเริ่มทำใหม่ๆกิน 4 ลูก ตอนหลังๆลดเหลือ 2 ลูก) คนที่ไม่ชอบกินกล้วยหอมจริงๆจะเลือกกินผลไม้อื่นก็ได้แต่ให้เป็นชนิดเดียวอย่ากินปนกันหลายอย่าง ที่คุณฮามาจิเลือกกินกล้วยหอม เพราะ กล้วยหอมทานง่าย และมีประโยชน์มากเลย
ถ้ากินกล้วยแล้วรู้สึกว่ายังหิวอยู่ ให้เว้นระยะซัก 15-30 นาที แล้วค่อยทานอย่างอื่นได้ (เค้าแนะนำให้กินพกวอาหารประเภทข้าว เช่น ข้าวปั้นโอนิงิริ ชั้นต้องไป Paragon มั้ยเนี่ย :D)
2. ดื่มเฉพาะน้ำเปล่าเท่านั้นและดื่มบ่อยๆ
เครื่องดื่มที่ดื่มกับกล้วยหอมในตอนเช้า เค้าให้ดื่มน้ำเปล่าที่อุณหภูมิห้อง ถ้าจะดื่มอย่างอื่นก็ให้เว้นระยะ 15-30 นาทีเหมือนเดิม หลักการของกล้วยมื้อเช้าเค้าให้ดื่มน้ำเปล่าบ่อยๆตามที่ต้องการ เค้าว่าการดื่มน้ำเปล่าจะทำให้ประสาทรับรสชาดดีขึ้น กระเพาะและลำไส้ทำงานน้อยลง พอรับรสชาดได้มากขึ้น ความต้องการอาหารในแต่ละมื้อจะลดลงเอง แต่ นานๆครั้งจะนอกใจไปดื่มอย่างอื่นก็ไม่เป็นไร กล้วยมื้อเช้าเน้นสบายๆ ไม่เครียด
3.กินอาหารกลางวันตามปกติ
มื้อกลางวันกินอะไรก็ได้ แต่ขอให้เคี้ยวให้ละเอียด รับรสชาดอาหารให้เต็มที่ เพราะถ้าเราทานอาหารกลางวันน้อยๆเราก็อยากจะทานขนมมากขึ้น เค้าให้ทานให้เต็มที่ไปเลย แต่อยากให้เน้นที่อาหารประเภทข้าว เค้าให้ทานข้าวเยอะๆลดปริมาณกับข้าวลง
4. กินของว่างได้ตอนบ่ายสาม
จริงๆเค้าว่ากินของว่างได้ทุกวันหากต้องการ แต่เพื่อไม่ให้กินมากเกินไปเลยจำกัดให้กิน 1 อย่างต่อวัน เค้าแนะนำให้กิน Chocolate หรือ ขนมญี่ปุ่น (คนแปลบอกว่า มักทำจากแป้ง ถั่ว น้ำตาล) พวกไอศกรีม โดนัท มันฝรั่งทอด เค้าว่านานๆครั้งดีกว่า แต่ถ้าอยากให้ไดเอ็ทเห็นผลเร็ว เค้าให้เลือกกินผลไม้ แต่เลือกกินชนิดเดียวพอนะ อย่าปนๆกัน
5. กินอาหารเย็นให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ถ้าเราทานอาหารเย็นดึกจนเกินไป ตอนนอนกระเพาะลำไส้ก็ยังไม่ได้พัก ทำให้ร่างกายไม่สามารถขจัดความเหนื่อยล้าที่มีในแต่ละวันได้ อันเป็นสาเหตุของการอ้วน กล้วยมื้อเช้าบอกให้เราทานอาหารเย็นประมาณ 6โมง และดึกสุดไม่เกิน 2 ทุ่ม ถ้ายากก็ลองขยับให้เร็วขึ้นสัก 30 นาทีดูก่อน และให้ฝึกไม่กินของหวานหลังอาหารเย็นด้วย ให้กินของหวานแค่บ่ายสามเท่านั้น (อันนี้ยากเหมือนกัน เราก็ทำไม่ได้ 555 ยังกินของหวานนิดๆหน่อย วันละ 2-3 ครั้งอยู่เลย แต่ก็พยายามลดนะ)
6. นอนก่อนขึ้นวันใหม่
พยายามนอนเร็วให้เป็นนิสัย ดึกสุดไม่เกินเที่ยงคืน การนอนเร็ว และ ท้องไม่เต็มไปด้วยอาหาร จะทำให้นอนหลับสบาย ร่างกายเราจะฟื้นฟูสภาพกันตอนหลับนี่แหละ
7. ออกกำลังกายเมื่อต้องการออก อย่าหักโหม
การออกกำลังกายเค้าให้ทำอย่างพอเหมาะ ทำให้ร่างกายสดชื่น การออกกำลังกายอย่างหักโหม ร่างกายจะรู้สึกทรมานไม่เป็นผลดีเอา เค้าแนะนำให้แกว่งแขนสองข้างขึ้นลงเนี่ยแหละให้ผลดีกับการไดเอ็ทมากกว่าที่คิด
8.จดบันทึกไดอารี่ให้เป็นนิสัย พร้อมเปิดเผยให้คนอื่นอ่านด้วย
การจดบันทึกไดอารี่ไว้ เช่น จดลงบล็อคมีข้อดีคือ จะมีคนมาคอยเชียร์ มาให้คำแนะนำ เป็นบ่อเกิดของกำลังใจได้ (เราก็จดแต่ไม่ให้ใครดูยังเขินอยู่ 555)
อันนี้เป็นตัวอย่าง ไดอารี่ จากหนังสือหน้า 103
มื้อเช้า 7:10 กล้วย 2 ลูก, น้ำเปล่า
มื้อกลางวัน 12:00 ข้าวกล่องเอามาเอง (เค้าจดละเอียดเลยว่าอะไรบ้าง), ไก่ทอด 2 ชิ้น, น้ำเปล่า
อาหารว่าง 15:00 ช็อกโกแลตบาร์ครึ่งแผ่น, น้ำเปล่า
มื้อเย็น 19:00 ข้าวแกงกะหรี่ 1 จาน, สลัดมันฝรั่ง, ซุป, น้ำเปล่า
มื้อดึก 21:00 ส้ม 2 ลูก, น่ำเปล่า
เวลานอน 23:30
ออกกำลังกาย หายใจเข้าออกลึกๆ ก่อนอาหาร
การถ่าย ดีมาก
น้ำหนัก 59.8 กิโล เทียบกับอาทิตย์ที่แล้ว -0.5 โล
ข้อคิดเห็น
วันนี้งานยุ่งมากๆ สงสัยช่วงนี้ต้องทำโอทีซักหน่อยแล้ว วันนี้หายใจเข้าออกลึกๆ ก่อนอาหารได้ครบทุกมื้อ เคี้ยวข้าวละเอียดๆค่อยๆให้ลิ้นรับรู้รสชาดได้แล้ว
จะเห็นว่าเค้าจดละเอียดเหมือนกันว่า กินอะไรตอนไหนอย่างไร เราก็พยายามจดอยู่นะ ข้อดีคือได้บันทึกน้ำหนักทุกวันนี่ว่าเท่าไหร่แล้ว และก็รู้ด้วยว่ากินอะไรไปบ้าง พอถึงตรงออกกำลังกายจะได้รู้ว่าวันนี้ได้ทำรึยัง ข้อคิดเห็นก็จะบอกได้ว่า วันนี้เครียดมาก หรือ น้อยยังไง เพราะมีผลต่อการไดเอ็ทนะ
ผลหลังจากทำกล้วยมื้อเช้าแล้ว
บางคนอาจจะอยากรู้ว่า เราทำกล้วยมื้อเช้าแล้วมันเห็นผลยังไง เราทำมาได้ประมาณ 3 อาทิตย์แล้ว แต่ก็ไม่ได้เคร่งครัดทำเป๊ะๆทุกข้อนะ ยิ่งเรื่องทานข้าวเย็นก่อน 2 ทุ่ม นี่หลุดหลายวันเลย ของว่างก็ห้ามใจไม่อยู่ กินวันละหลายครั้งเหมือนกัน แต่น้ำหนักก็ลดลงอ่ะ (จาก 49.4 เป็น 48.3) แต่ที่เห็นชัดๆคือ เรื่องของการขับถ่าย ปกติก็ไม่มีปัญหาเรื่องนี้อยู่แล้ว แต่บ้างวันมันเยี่ยมมากๆ แบบหมดไส้ไปเลย ตอนนี้หน้าท้องแบนมั๊กๆ ชอบ
ที่แนะนำให้เพื่อนๆทำ สิ่งแรกที่เค้าจะเห็นผลเลยคือเรื่องของการขับถ่ายนี่แหละ ในหนังสือบอกว่าบางคนมีอุจจาระตกค้างเยอะมากที่ร่างกายไม่สามารถขับออกมาได้ เพื่อนๆที่ทำคนนึงน้ำหนัก 116 กิโล ทำกล้วยมื้อเช้าได้ 4 วัน น้ำหนักลงไป 2 โล คือเค้า งง มากว่ามันมากจากไหนเยอะเลย (เริ่มเหมือนพวกโฆษณาชวนเชื่อ) อีกคนหนัก 73 ทำมาพร้อมๆกัน ตอนนี้ลงไปแล้วโลครึ่ง เพราะขับถ่ายดีมั๊กๆ
ยังไงลองทำกันดูนะคะ ได้ผลหรือไม่ได้ยังไงมาบอกด้วย ส่วนตัวชอบหลักการนี้นะ และคิดจะลองเผยแพร่ให้เพื่อนๆได้ลองกัน เพราะมันไม่ยาก ไม่ต้องอดไม่ต้องทน ไม่เปลืองเวลา ไม่เปลืองเงินด้วย :D
ปล. อย่าลืมไปอุดหนุนซื้อหนังสือเค้าด้วยนะ เล่มละ 150 บาทเอง มีเนื้อหาดีดีเยอะเลย ตอนนี้เริ่มเห็นหนังสือขึ้นอันดับ Best Seller ของหลายๆที่แล้วด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น