++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันเสาร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

อย่าเสียดาย

ในหลายๆ ครั้งที่เราจำเป็นต้องเผชิญกับ การเปลี่ยนแปลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

แต่ก่อนที่การเปลี่ยนแปลงนั้นจะมาถึง สิ่งที่ถึงตัวเราก่อนมักจะเป็นความกลัว กลัวที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลง ทั้งที่บางทีเราก็ไม่ทราบว่าฉากต่อไปของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะเป็นอย่างไร

เคยอ่านเจอเรื่องสั้นเรื่องหนึ่งแต่หาต้นฉบับไม่เจอแล้ว

เล่าถึงเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองเล็กๆ เมืองหนึ่ง หล่อนอาศัยอยู่ในบ้านหลังเล็กนี้มานานตั้งแต่เด็ก หน้าบ้านของหล่อนมีต้นไม้ใหญ่แผ่กิ่งก้านสาขาจนทำให้บริเวณนั้นดูร่มรื่นเป็นพิเศษ

และแล้ววันหนึ่งเมื่อต้นไม้นั้นพ่ายแพ้แก่กาลเวลา กิ่งก้านที่เคยร่มเย็นกลับก่อให้เกิดความยุ่งยากขึ้น
เมื่อมันหักและหล่นใส่บ้านข้างเคียงบ่อยๆ จนกระทั่งเป็นปัญหาถึงขั้นที่จะต้องโค่นล้มต้นไม้ใหญ่นั้นทิ้ง

หลังจากหญิงสาวทราบว่าไม่สามารถจะคงต้นไม้นี้ไว้ได้ หล่อนถึงกับกังวลถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาต่อไปนี้ จะเอาร่มเงาจากไม้ใหญ่ที่ไหนคอยกำบังแดดฝนไม่มีภาพที่เคยมีอีกแล้ว ยามมองออกไปนอกหน้าต่าง ยิ่งคิดไปต่างๆ นานาก็ยิ่งให้รู้สึกเสียดายไม้ใหญ่นั้นยิ่งวันที่ต้องตัดต้นไม้นั้น
หล่อนได้ยินคำพูดจากเพื่อนของเธอที่ต้องการปลอบใจว่า

อย่าเสียดายกับสิ่งที่เสียไป จงตื่นเต้นและยินดีกับสิ่งที่กำลังจะตามมา

แน่นอนว่าตอนนี้ไม่มีคำพูดใดๆ เจาะไชเข้าไปถึงตัวเธอๆได้
วันเวลาผ่านไปเป็นสัปดาห์ ชีวิตของเธอหลังต้นไม้ใหญ่ถูกโค่นเริ่มเปลี่ยนแปลง
ทุกเช้าที่เธอตื่น เธอจะได้รับแสงแดดส่องเข้ามาในบริเวณห้องของเธอ จนทำให้วันนั้นเกิดรู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นทันที

เธอได้บริเวณบ้านมากขึ้น

สำหรับปลูกไม้ดอกที่อยากจะปลูกมานาน เธอกลับเริ่มรู้สึกดีๆ กับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
มันไม่ได้แย่ไปอย่างที่เธอคาดไว้เสียทีเดียว

ถ้าต้นไม้ใหญ่นั้นไม่ถูกโค่นลง วันนี้เธอคงไม่ได้เห็นภาพเด็กๆ วิ่งขึ้นลงรถรับส่งโรงเรียนอย่างร่าเริงในอีกมุมตึกถัดไปอย่างชัดเจนเช่นนี้ตอนนี้เธอเข้าใจกับคำว่า

อย่าเสียดายกับสิ่งที่เสียไป จงตื่นเต้นและยินดีกับสิ่งที่กำลังจะตามมา

เรื่องนี้บางทีคงถ่ายทอดได้ไม่ดีเท่าต้นฉบับ แต่ตอนอ่านพออ่านจบแล้วรู้สึกว่ามันเป็นความจริงที่ส่วนมากแล้ว

เรามักจะกลัวการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น ทุกอย่างมันอยู่ที่ความคิดจริงๆนะ คนเรามักกลัวที่จะเข้าไปในห้องมืด ทั้งที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าในห้องนั้นมีอะไรบ้าง แต่ไอ้ที่กลัวๆ อยู่น่ะมันอยู่ในความคิดทั้งนั้น

อย่างบางคนก็กลัวที่จะสูญเสียคนรักไป ทั้งๆ ที่ก็ไม่ได้มองหรอกนะว่าไอ้ที่กอดๆอยู่น่ะ มันเหมาะมันดีกับเราแล้วจริงหรือ กลัวว่าต่อไปถ้าขาดเขาหรือเธอไปชีวิตจะเป็นยังไง

เดินห้างคนเดียว ไปไหนมาไหนคนเดียว กลัวเจอคนที่แย่กว่าเดิม อะไรก็ตามที่คุณกลัวและคิดไปเรื่อยจนทำให้คุณกลัวที่จะเปลี่ยนแปลง จนบางทียอมที่จะทนกับสิ่งที่ทำให้ชีวิตคุณ แย่ลงไปยิ่งกว่าการเปลี่ยนแปลง คุณลองมองในอีกมุมที่หญิงสาวคนในเรื่องไม่ได้มองดูสิมุมมองที่เป็นบวกกับชีวิตคุณมุมมองที่จะทำให้คุณก้าวต่อไปได้ด้วยความตื่นเต้นและยินดี

อย่าเสียดายในสิ่งที่เสียไป แต่จงตื่นเต้นและยินดีกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น