มนุษย์ล้วนถูกศรเสียบ
ลูกศร 2 ดอก ที่ปักกายหนึ่งดอก ปักที่ใจอีกหนึ่งดอก
ลูกศรลูกแรก คือทุกข์กาย ลูกที่สอง คือทุกข์ใจ
คนขาดเสน่ห์
ได้อ่านตามหาแก่นธรรมจากผู้เขียนหน้าใหม่หลายคนแล้ว ยอมรับนะครับว่าท่านฝึกใจของท่านมาได้ไม่น้อย แม้ในคำพูดที่มีคนกล่าวหาว่าท่านดัดจริตเขียน แต่ผู้เขียนเข้าใจว่า มันเป็นของแท้ เหมือนทองแท้ย่อมไม่กลัวไฟลน จะลนไฟกี่ครั้งต่อกี่ครั้งก็ยังเป็นทองอยู่วันยังค่ำ
นอกจากจะรื้อเปลื่ยนชื่อเรียกจากทองไปเป็นอย่างอื่นเท่านั้นเอง แต่ดูเหมือนบางคนไม่มีอะไรทำ ก็เลยเอาชื่อสัตว์ประเภทหนึ่งที่เชื่อว่ามีชื่อไม่เป็นมงคลคือเหี้ย มาเปลี่ยนให้คนที่ชื่อ...วร.ุช หรือพูดเปรียบเปรยเช่นนั้น ซึ่งทำให้เขาเสียหายสะเทือนใจ
คนที่คิดเช่นนั้น ดูเหมือนว่าเขาจะคิดอะไรดีๆไม่เป็น ที่มันสร้างสรร เกื้อกูลคนในชาติด้วยกัน ให้รู้รักสามัคคี ไม่่ใช่มัวแต่เล่นลิ้นกะลาวน เสียเเวลาเปล่าๆไปวันๆ หรือเขาเชื่อว่าอาชีพของเขาวัน ๆต้องทำเช่นนั้น แต่สักวันเมื่อเขารู้ตัว ก็น่าจะทำประโยชน์ให้ใครต่อใครได้
มีทอล์คโชว์อยู่ตอนหนึ่งของดีเจชื่อดังฯน้าแ๊๊ ๊..ก. ที่ท่านนำคำพูดว่าเหี้ยมาเล่น และพยา ยามจะให้ผู้ชมและแขกรับเชิญ ได้สัมผัสกับคำๆนี้อย่างไม่เคอะเขิน
ด้วยความเชื่อที่ว่าการพูดคำว่าเหี้ยไม่ดี...ไม่จริง เพราะสังคมไปยึดติดกันเอง เพียงแต่ดีเจท่านนี้พยายามนำเสนอแค่ไม่ทำเหี้ยๆเท่านั้นก็พอ เล่นกันอยู่นาน จนคนดูยอมรับและสนิทใจกับคำว่าเหี้ย และพูดกันได้อย่างไม่เคอะเขินเลย ถือว่าเป็นความสำเร็จของนักแสดงปากจัดท่านนี้อย่างงดงาม ที่ทำให้คนรู้จักสมมุติสัจจะ หรือความจริงที่ตั้งกันขึ้นมา...แค่นั้นเอง
มันเป็นเสน่ห์ของท่านอย่างหนึ่งนะครับ ที่มาทำให้คนทั่วไปรู้จักคำว่ายึดติดอย่างง่ายๆ และคลายตัวมันลงไป เรื่องเหล่านี้ แม้จะเป็นแค่ระดับศีลธรรมก็ตาม แต่ถ้าหากรู้จักเหี้ยตัวจริง เหี้ยตัวปลอมกันบ้าง...ก็จะดี และขออนุโมทนากับท่านอย่างจริงใจครับ
เมื่อพูดถึงคำว่าเสน่ห์ หากเป็นสมัยเมื่อหลายสิบปีก่อน ผู้คนคงจะนึกถึง คุณเสน่ห์ โกมารชุน นักแสดงและนักสร้างหนังผีไทยที่โด่งดัง จากเรื่องแม่นาคพระโขนง จนเป็นระดับตำนานการสร้างหนังผีแนวนี้ มีตัวอย่างที่ท่านทำมาเป็นแบบอย่างเช่นในฉากที่คนหนีผี จนไม่รู้จะหนีไปไหน มองเห็นแต่ตุ่มใบเดียวเ่ท่านั้น ก็จะหนีผีลงในตุ่ม ไม่ว่าจะกี่คนต่อกี่คนก็จะหนีลงตุ่มใบเดียวกัน ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว แค่ลงไปในตุ่มคนเดียวก็เต็มแล้ว แต่นักแสดงก็ยังคงลงไปกันได้ เรียกเสียงหัวเราะของคนดูหนังจนท้องคัดท้องแข็ง แม้กระทั่งเดี๋ยวนี้ก็ยังมีนำมุกนี้มาใช้
อีกมุกหนึ่งที่ผีแม่นาคชอบทำมือยาวลงมาเก็บของใต้ถุนบ้าน ก็น่าที่จะมาจากหนังไทยเรื่องนี้ นี่เป็นเสน่ห์หนังผีไทยสมัยก่อน และเป็นเสน่ห์ของผู้ชายที่ชื่อเสน่ห์ โกมารชุน ที่ร่ำรวยจากผีแม่นาคพระโขนง
โดยธรรมชาติของคนแล้ว เสน่ห์ที่แปลว่าลักษณะชวนให้หลงชอบหรือหลงรัก ส่วนใหญ่ ก็มาจากความสวยความงามเป็นหลัก ที่เขาเรียกกันว่าหลงรูป เหมือนพระเอกยี่เก ที่พี่ป้าน้าอาผู้หญิงหลงเสน่ห์ในรูปสมบัติ จนต้องตามไปดู ตามไปคล้องพวงมาลัยติดธนบัตรกันลานตา ไปไหนก็ตามไปด้วยที่เรียกกันว่าแม่ยกนั่นแหละ บางคนถึงกับลืมวัย ซื้อของมีค่า แม้กระทั่งบ้านให้พระเอกลิเกก็มี ตามข่าวที่ได้ยินมา
สตรีที่มีรูปเป็นทรัพย์ก็เช่นกัน ก็จัดได้ว่ามีเสน่ห์ เพราะมีคนมาตามรุมจีบ เหมือนแมลง วันรุมตอมของหวาน อย่างไรอย่างนั้น เรื่องนี้มีมานานมากแล้ว ไม่ใช่เพิ่งเกิด
นอกจากนี้แล้วเสน่ห์ยังสิงอยู่ตามโภคทรัพย์ ไม่ว่ารถยนต์ บ้าน เงินทอง ทรัพย์สิน ยศถาบรรดาศักดิ์ และการได้รับการยกย่อง ที่เราได้ยินพระท่านสอนกันมานานแล้วว่าโลกธรรมแปด อันมีลาภ เสื่อมลาภ ยศ เสื่อมยศ สรรเสริญ นินทา ทุกข์ สุข
มาใกล้ตัวกันอีกหน่อยกับคำว่าเสน่ห์ ก็เสน่ห์ปลายจวักผัวรักจนวันตาย คือหมายถึงสตรีที่มีฝีมือการทำอาหารและการดูแลเอาใจใส่สามี เป็นเสน่ห์ที่ทำให้เขารักกันจนตายจากกันไป
กาม...ไม่ว่าจะอยู่ในรูปใด จะเป็นรูป เสียง กลิ่น รส โผฐัพพะหรือสัมผัส ที่เรียกรวมกันว่าวัตถุกามหรือกามคุณห้า ที่ยั่วยวนและมีเสน่ห์จากภายนอกที่ทำให้เกิดกำหนัดยินดีคือราคะ และเกิดความพึงพอใจในกามคือกามฉันทะ หรือที่เรียกกันว่ากิเลสกามคือความใคร่ที่อยู่ภายใน ที่ออกฤทธิ์เมื่อใจถูกกระทบ ( กิเลสกามมีด้วยกัน ดังนี้ โลภ อยากได้ โกรธ อยากแกล้งคนอื่น หลง ไม่รู้อะไรควรไม่ควร มานะ คิดว่าตัวเองฉลาดสุด ทิฐิเกรียน รู้ว่าตัวเองผิดก็ยังเกรียนหรือชอบหาเรื่อง วิจิกิจฉาสงสัยในความดี ถีนะ หดหู่ท้อแท้ เบื่อเซ็ง อุทธัจจะอยู่เฉยไม่ได้ ไม่สงบ อหิริกะ ทำชัวไม่ละอายคิดว่าเท่ห์มาก อโนตตัปปะ ไม่กลัวผลกรรมชั่วเลย )
การที่คนผู้ใดผู้หนึ่งตอบสนองทางกาม ไม่ว่าจะเป็นทางกายหรือใจให้แก่ผู้อื่นที่ต้อง การได้ ทางโลกๆคงจะเรียกคนผู้นั้นว่าเป็นคนมีเสน่ห์ เพราะทำให้เขาเหล่านั้นใจฟูหรือมีความสุข ในทางตรงกันข้ามคนผู้ใดผู้หนึ่งตอบสนองทางกามให้ใครไม่ได้เลย ก็จะเป็นผู้ขาดเสน่ห์ด้วยเหมือนกัน ถ้าหากทำให้เขาเหล่านั้นใจแฟ่บหรือขาดความสุข
ผู้เขียนเคยดูหนังสั้นของญี่ปุ่นเรื่องหนึ่งชื่อchess เป็นเรืื่องของหมากรุกหรือเกมส์กีฬาที่ถือว่าเป็นของพวกมีปัญญามาก ฝ่ายหนึ่งเป็นแชมป์โลกหลายสมัย อักฝ่ายหนึ่งเป็นคอม พิวเตอร์ทันสมัยที่สุดในโลก คิดอะไรได้ซับซ้อนมากกว่าคนหลายร้อยเท่า สุดท้ายแชมป์ก็เป็นฝ่ายแพ้
พอแพ้เสร็จก็เสียผู้เสียคนไป เรียกว่าบ้าก็คล้ายจะใช่ เพราะกลับไปบอกเมียที่บ้านว่า จบสิ้นกันทีนะคุณ เพราะผมไม่ได้เป็นแชมป์หมากรรุกอีกแล้ว คุณเป็นเมียแชมป์ เมื่อไม่มีแชมป์คุณก็ไม่ใช่ แล้วเขาก็หายไปนานสามปี
จนกระทั่งมีคนมาตามตัวและบังคับให้เขากลับมาเล่นเกมส์หมากรุกกันใหม่ พอเขาเสียเบี้ยไปตัวหนึ่ง เขาก็จะเห็นคนถูกฆ่าตายไปหนึ่งคน จนมาถึงคิวเพื่อนสนิทแล้วก็เมีย หมากรุกเล่นมาจนถึงตอนที่เขาเข้าตาจน ว่าจะยอมแพ้หรือจะให้เมียตาย สุดท้ายเขาก็ยอมแพ้หรือยอมตาย เพื่อป้องกันเมียของตัวเอง
เรื่องมาสรุปที่ว่าเกมส์นี้เป็นการจัดฉาก ทุกคนที่เกี่ยวข้องไม่ได้ตาย แต่จัดฉากขึ้นมาเพื่อรักษาเขาให้หายจากความเจ็บป่วยทางใจจากการพ่ายแพ้เสียแชมป์ พอเขาแพ้จริงๆ ทุกคนกลับบอกว่าเขาชนะ เพราะคอมพิวเตอร์ที่เอามาเล่นด้วยไม่รู้จักคำว่าเสียสละ
ผู้เขียนสะท้อนใจในเสน่ห์ของแชมป์หมากรุกคนนี้ที่ว่า เขาหลงว่าการเป็นแชมป์นั้นมีเสน่ห์ให้ทุกคนรอบข้างหลงใหล รวมทั้งเมียของตัวเอง แล้วก็เสียทุกอย่างไปเพราะเสน่ห์แบบที่เขาคิด แต่เขากลับมาเป็นที่รักของทุกคนหรือเรียกว่ามีเสน่ห์ เพราะรู้จักคำว่าเสียสละหรือการให้นั่นเอง ...ให้ได้แม้กระทั่งชีวิตตัวเอง
ครูบาอาจารย์ที่เป็นที่นับถือของผู้คนมากหลาย แม้จะไม่มีเสน่ห์เช่นที่กล่าวข้างต้นเลย แต่ท่านมีศีลสำรวม ที่หอมชวนติดตาม หอมปัญญา หอมเมตตา หอมกรุณา หอมอุเบกขา หอมในสิ่งที่ผู้คนขาดแคลน
แม้จะหาสิ่งที่ขาดแคลนได้ด้วยตัวเอง แต่ไม่ค่อยมีคนทำ เพราะมัวแต่จะหาสิ่งที่ขาด แคลนจากผู้อื่น เพราะมันดูขลังและศักดิ์สิทธิ์
อาราธนาศีลกับตนเองก็ไม่ได้ ต้องหาผู้อื่นเป็นพยาน เพราะไม่เชื่อในตน ไม่เชื่อในศักยภาพของตนเอง ที่พัฒนาได้เฉกเช่นธรรมอื่นๆ ธรรมญาณในตัวเองที่จำศีลอยู่นาน จึงไม่ได้ถูกปลุก ก็เลยเป็นคนขาดเสน่ห์แห่งการเป็นพุทธะหรือขาดเสน่ห์ที่แท้จริงอย่างน่าเสียดาย เพราะไม่เชื่อในศักยภาพของตัว มัวแต่หลงในตัวตนที่เรียกว่าตัวกูของกูนั่นเอง เอวัง
ธรรมะสวัสดี
สะมะชัยโย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น