มีของใกล้ตัวอย่างหนึ่งที่เรามักใช้อย่างไม่คุ้มค่า และทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์ ทราบหรือไม่ว่าของที่ว่านั้นคืออะไร?
ถ้าตอบว่า น้ำ ไฟ กระดาษ ก็ขอบอกว่า “ผิด”
คำตอบคือ ลมหายใจ
พูดอย่างนี้ บางคนอาจสงสัยว่า ทุกวันนี้มีชีวิตอยู่ได้ก็เพราะอาศัยลมหายใจ เท่านี้ยังไม่พออีกหรือ? จริงอยู่ ลมหายใจช่วยให้เราเป็นผู้เป็นคนอยู่ได้ แต่นี้ก็เป็นคุณอนันต์แล้ว แต่ลมหายใจยังมีคุณค่านอกเหนือจากนั้น คุณค่าอย่างหนึ่งที่เรามักมองข้ามก็คือ ลมหายใจนั้นเป็นเพื่อนเตือนใจเราได้
เวลาเราโกรธใครสักคน ก่อนที่จะหลุดปากด่าว่าเขา ลองหายใจเข้าลึก ๆ แล้วผ่อนออกมาช้า ๆ สัก ๕ เที่ยว ๑๐ เที่ยว ความอัดอั้นเก็บกดอยากระบายโทสะหรือแผดเสียงใส่เขา จะลดลงไปมาก สติที่เกือบจะหลุดหายไปจะกลับคืนมาอย่างรวดเร็ว ถึงตอนนั้น เราจึงจะนึกขึ้นมาได้ว่าหากเราหลุดปากไป เราเองนั้นแหละจะเป็นฝ่ายเสียหายหลายแสน ไม่ใช่เขาคนนั้น
ยาสลายนิ่ว ยาละลายไขมันก็มีแล้ว ไม่สนใจยาสลายความโกรธบ้างหรือ ลมหายใจนี่แหละเป็นยาสลายความโกรธชั้นดี แถมยังมีสรรพคุณอเนกประสงค์ ใช้สลายความกลัวก็ได้ สลายความเครียดก็ยิ่งดีเข้าไปใหญ่
กายกับใจนั้นสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด เวลาเกิดโทสะขึ้นมาในใจหัวใจจะเต้นเร็ว ลมหายใจถี่กระชั้น นี่เรียกว่าใจมีผลต่อกาย แต่ขณะเดียวกันกายก็มีผลต่อใจด้วย ไม่เชื่อลองหายใจเร็ว ๆ สั้น ๆ สักพัก จะรู้สึกเครียด คนที่หายใจตื้นและถี่จะเป็นคนหงุดหงิดง่าย ในทางตรงกันข้าม ถ้าหายใจเข้าลึก ๆ และหายใจออกยาว ๆ ใจจะเบาคลาย
ลองสังเกตดูเถิด เวลาเราโกรธ กลัว ประหม่า ลมหายใจจะถี่และตื้น แต่ถ้าเรารู้ตัวหรือจับความรู้สึกของตัวเองทันท่วงที รีบเอาลมหายใจมาใช้ให้เป็นประโยชน์ด้วยการกำหนดลมหายใจเข้าออกลึก ๆ ความรู้สึกโปร่งโล่งจะเข้ามาแทนที่ความเร่าร้อนวุ่นวายใจ
คนที่เครียดบ่อย ๆ ลองหายใจแบบนี้ดูบ้าง จะรู้สึกสบายขึ้นมาก
ถ้าใช้ลมหายใจให้เป็น นอกจากลมหายใจจะเป็นเพื่อนเตือนสติ และเป็นยาคลายความเครียดชั้นดีแล้ว เรายังจะพบต่อไปด้วยว่า ในลมหายใจนั้นมีทรัพย์ล้ำค่าที่ใช้เท่าไรก็ไม่มีวันหมด ทรัพย์ที่ว่าก็คือ ความสุขสงบ
คนเรามักแสวงหาความสุขนอกตัว เสียเงินเสียทองไปมากมายกับสิ่งเสพนานาชนิด แต่เท้ที่จริงความสงบนั้นมีอยู่แล้วในลมหายใจของเรา การหายใจเข้าออกช้า ๆ อย่างที่ว่ามา เป็นบันไดเบื้องต้นสู่ความสงบ ถ้าอยากให้เกิดผลดียิ่งขึ้นก็ให้น้อมใจไปจดจ่ออยู่ที่ลมหายใจด้วย ยิ่งจิตใจแนบชิดสนิทกับลมหายใจมากเท่าไร ก็ยิ่งดีมากเท่านั้น หรือจะนับด้วยก็ได้ เช่น หายใจเข้านับ ๑ หายใจออกนับ ๑ จากนั้นหายใจเข้านับ ๒ หายใจออกนับ ๒ เรียงไปจนถึง ๕ หรือต่อไปถึง ๑๐ ก็ได้
ที่แล้วมาเราหายใจออกแบบทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ กันจนเป็นนิสัย ส่วนลมหายใจเข้าเราก็นึกว่ามีแต่ออกซิเจนเท่านั้น แท้จริงลมหายใจเข้าและออกมี “ของดี” มากมายกว่านั้น ในลมหายใจมีทั้งสติ มีทั้งความผ่อนคลายและความสุขสงบ มีอะไรต่ออะไรมากมายที่ลมหายใจสามารถให้เราได้
ข้อสำคัญคือเราต้องใส่ใจกับลมหายใจของเรา ให้มากกว่านี้ แทนที่จะละเลยจนลืมตัวบ่อย ๆ ว่าเรากำลังหายใจอยู่.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น