++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันอาทิตย์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

มหัศจรรย์การร่วมงานของคน 2 วัย 2 รุ่น เพื่อในหลวง

            ถึงแม้จะมีความแตกต่างทางด้านฐานะ ความรู้ โอกาสในชีวิต และโอกาสในสังคม แต่คนที่มีความแตกต่างกันแบบตรงกันข้ามกัน ก็สามารถที่จะทำงานร่วมกันได้ หากมีความคิดและจุดร่วมเดียวกัน เพียงมีโอกาสที่ผ่านเข้ามาในชีวิต สิ่งที่ดีก็เกิดขึ้นในสังคมไทย

            ผมได้เปิดเจอหน้าเวบนี้ http://suwet2487.blogspot.com/2011/05/3-video-kat-dinrakfha-10.html เป็นภาพวิดีโอของบุคคล 2วัย 2 รุ่น กำลังประสานมือประสานใจร่วมกันทำบางสิ่งเพื่อในหลวง เมื่อได้นั่งดูและวิเคราะห์ถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ถือว่า เป็นความมหัศจรรย์ในสังคมไทยที่ไม่น่ามองผ่านเลยไปง่ายๆ กรณีแบบนี้ ใช่ว่าจะเกิดขึ้นได้ง่ายนัก



            จากรูปภาพของในหลวง เมื่อบุคคลทั้ง 2 วัย 2 รุ่น มีโอกาสได้หยิบภาพของในหลวงและพูดเกี่ยวกับภาพที่เห็นนั้น บุคคลทั้ง 2 ต่างพูดความรู้สึกที่กลั่นออกมาจากใจ บางเรื่องตรงกันบ้าง บางเรื่องต่างกันบ้าง แต่สิ่งที่สัมผัสได้คือ ความจงรักภักดีต่อในหลวงเช่นเดียวกัน

            คนหนึ่งอายุน่าจะถือได้ว่าเป็นรุ่นคุณพ่อ อีกคนน่าจะเป็นรุ่นลูก คนรุ่นพ่อ อยู่ต่างจังหวัด ดูเป็นคนรุ่นเก่า มีโอกาสชีวิต การศึกษาเรียนรู้น้อยกว่า คนรุ่นใหม่ มีความแตกต่างกันอย่างสุดขั้ว และไม่น่าจะมาพบเจอ หรือร่วมงานกันได้ แต่สิ่งนี้ก็เกิดขึ้นมาแ้ล้ว เมื่อได้ร่วมวิเคราะห์วิดีโอที่เห็นกับเพื่อนครูด้วยกัน ต่างยอมรับว่า เป็นความมหัศจรรย์ของการร่วมงานกันเพื่อในหลวงจริงๆ

            ไม่มีโอกาสมากนัก ที่คนไทยจะได้พูดถึงในหลวงจากความรู้สึกในหัวใจได้นานหลายนาทีขนาดนี้ หลายคนพูดถึงในหลวงได้แค่ ทรงพระเจริญ หรือ พูดความรู้สึกได้ส่วนหนึ่ง แต่ส่วนมากแล้ว พูดได้ไม่ถึงนาที ก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว เพราะต่างรู้สึกติ้นตันในหัวใจ และรับรู้ในสิ่งที่พ่อหลวงได้ทำเพื่อคนไทยเป็นอย่างดี แต่สำหรับบุคคลทั้งสองนี้ สามารถที่จะพูดถึงในหลวง จากภาพที่เห็นได้นานหลายนาที ย่อมแสดงว่า เป็นคนที่มีความสามารถ และมีความจงรักภักดีต่อในหลวงที่เปี่ยมล้ม เต็มหัวใจ และสามารถที่จะเรียบเรียงออกมาเป็นคำพูดได้ยาวนานหลายนาทีอย่างที่เห็นในวิดีโอที่ได้ชมนี้

            ความมหัศจรรย์ที่ค้นพบนี้ น่าเสียดาย ที่ไม่กลายเป็นกระแสความสนใจในสังคม เหมือนอย่างละครน้ำเน่าในทีวีที่หาคุณค่าอะไรไม่ได้เลย มัวแต่วนเวียนกับเรื่องผู้หญิงแย่งผู้ชายตลอดทั้งเรื่อง แล้วผู้ชมต่างพุ่งความสนใจตามกระแสนั้น แต่เรื่องดีๆ เรื่องของคนสองคน ต่างวัย ที่ทำเพื่อในหลวงกลับไม่ได้รับความสนใจ ใส่ใจ คงจะเป็นข่าวที่ขายไม่ได้กระมัง  แต่อย่างน้อย ความมหัศจรรย์ก็เกิดขึ้น ในเวบเล็กๆของ สุเวศน์ ภู่ระหงษ์ ที่พยายามถ่ายทอดเรื่องราวที่กำลังเกิดขึ้นด้วยความตั้งใจ อย่างดีทีุ่สุด

            เมื่อคนที่คิดดี ทำดีเช่นนี้ ย่อมมีบุญวาสนา ที่ทำให้มีโอกาสได้มาร่วมงานกัน ซึ่งไม่น่าจะเป็นไปได้เลย แต่พราะเทคโนโลยีสมัยใหม่ การนำข้อมูลผ่านเทคโนโลยีเ้หล่านี้ ทำให้เรื่องยากกลายเป็นเรื่้องง่ายขึ้นมาทันที ดังนั้น แม้บุคคลทั้ง2 วัย 2 รุ่น จะไ่ม่ใช่ดารา หรือผู้ที่มีชื่อเสียงในสังคมเมืองไทย แต่ก็มีผู้ที่เข้ามาค้นพบเวบหน้านี้ในอินเตอร์เนต และคงจะมีผู้เข้ามาค้นพบเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามวันเวลาที่ผ่านไป

            ความรักในหลวง และพยายามถ่ายทอดเรื่องราวของในหลวง ในแนวทางของแต่ละคน เมื่อได้มาร่วมงานกัน ย่อมจะทำให้มีพลัง ไม่รู้เหมือนกันว่า บุคคลทั้ง 2 วัย 2 รุ่น กำลังร่วมมือกันทำสิ่งใดเพื่อในหลวง แต่ดูจากวิดีโอ และไล่เปิดดูข้อมูลในเวบ คงจะเ้ป็นงานที่มีคุณค่าพอสมควร บุคคลทั้ง 2 รุ่น 2 วัย จึงร่วมมือร่วมใจกันทำงานนี้

            วิเคราะห์ดูอีกที ไม่น่าจะมีเพียงแค่บุคคลทั้ง 2 นี่เท่านั้น คงจะมีทีมงานที่ร่วมช่วยเหลือสนับสนุนอีกหลายคนพอสมควร  เพราะ ชื่อของ "กลุ่มดินรักษ์ฟ้า" ย่อมมีสมาชิืกของกลุ่มนี้ ร่วมช่วยเหลือสนับสนุนกิจกรรมตามแนวทางของกลุ่มอยู่แล้ว ชื่อกลุ่มมีความหมาย และความไพเราะอย่างมาก เมื่อค้นหาข้อมูลจาก google พบข้อมูลหลายอย่างของกลุ่มดินรักษ์ฟ้า แสดงว่า มีความตั้งใจในการทำเพื่อในหลวงมากพอสมควร ส่วนผลการค้นหาด้วยคำว่า สุเวศน์ ภู่ระหงษ์ ทำให้เห็นลักษณะผลงานที่ผ่านมาของเขา ดูข้อมูลแล้วต่างฝ่ายไม่ใช่คนธรรมดา แต่เป็นคนที่มีความมั่งมั่น ตั้งใจในการทำงาน และสร้างผลงานในแนวทางของตนออกมาอย่างต่อเนื่อง

            ความมหัศจรรย์อีกอย่างที่ค้นพบ เพียงแค่ "รักในหลวง" เหมือนกัน ทำให้บุคคลทั้ง 2 รุ่น 2 ฝ่าย ได้มาร่วมงานกันอย่างเหลือเชื่อ แต่ก็เป็นไปแล้ว ถือว่าเป็นบุญที่ได้มาร่วมงานกัน เป็นบุญของเมืองไทยที่ประเทศนี้มีในหลวง และมีพสกนิกรที่จงรักภักดีและพยายามเดินตามรอยของพ่อหลวง อย่างทั้ง 2 บุคคลนี้
            สิ่งที่เกิดขึ้น เพื่อนครูด้วยกันบอกว่า เอาไปสอนเด็กนักเรียนได้เ้ป็นอย่างดีทีเดียว ตัวอย่างดีๆแบบนี้ น่าจะถูกเปิดเผยเื่รื่องราวสู่สังคมบ้าง แต่็ต้องทำใจ เพราะสังคมไทยพุ่งความสนใจไปที่ดารา นักแสดง บุคคลที่มีชื่อเสียงในสังคม หน้าตาดี บุคลิกดีเป็นหลัก คนธรรมดาสามัญมีพื้นที่น้อยเหลือเกิน

            ข้อคิดหนึ่งที่ได้คือ คนเราไม่ควรดูถูกดูแคลนคนที่มีฐานะต่างกัน มีโอกาสต่างกัน แต่ให้มองที่คุณค่าของบุคคลเหล่านั้นมากกว่า แน่นอนว่า แต่ละคนย่อมมีประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมา ซึ่งเป็นประโยชน์ทั้งนั้น อย่าตัดสินแต่หน้าตา หรือฐานะ

            อยากจะส่งบทความนี้ ไปยังบุคคลทั้ง 2 และทีมงานของบุคคลทั้งสองท่าน อยากให้กำลังใจในสิ่งที่ท่านกำลังร่วมกันทำอยู่ แม้ไ่ม่รู้ว่า สิ่งที่กำลังจะทำนั้น คืออะไร แต่น่าจะเ็ป็นสิ่งที่ดีต่อสังคมไทย เพราะจากการติดตามวิดีโอ และข้อมูลที่ได้อ่าน สิ่งที่ได้สัมผัส ก็มีคุณค่ามากเหลือเกิน และไม่เคยเห็นใครมีความตั้งใจทำอย่างนี้มาก่อน อยากให้ผู้ที่ได้มาอ่านบทความนี้ ส่งต่อไปยังผู้ที่เกี่ยวข้อง เก็บไปคิด และติดตามดูผลงานการร่วมงานกันของ คนสองวัยสองรุ่นนี้

            ดูวิดีโอแล้ว เดา่ว่า ต่อไป บุคคลทั้งสอง น่าจะได้มาพบกันจริงๆ หรือ น่าจะได้เห็นทีมงานคนอื่นๆ มาร่วมงานกัน สร้างสรรค์สิ่งดีๆ บนความรักในหลวงเหมือนกัน ในฐานะคุณครูชนบทคนหนึ่งขอเป็นกำลังใจให้บุคคลทั้ง 2 และทีมงาน ทำงานให้ประสบผลตามที่ได้ตั้งใจไว้ด้วยเทอญ..


ครูตัวน้อย
โรงเรียนบ้านข่อย  หมู่ที่  4
 ต.หนองหิน อ.เมืองสรวง จ.ร้อยเอ็ด

1 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณสำหรับกำลังที่ให้ เพราะมันคือพลังให้ดินรักษ์ฟ้าก้าวเดินต่อไปค่ะ

    ตอบลบ