++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพฤหัสบดีที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2554

มีเดียมอนิเตอร์ เผย นสพ.-ทีวี-อินเทอร์เน็ต ตัวการให้ ปชช.เล่นพนันบอล วอนสื่อต้องรู้ขอบเขต

มีเดียมอนิเตอร์ แฉ! เซียนบอลกาง นสพ.เป็นคู่มือแทงบอล มีทั้งอัตราต่อรองเปิดเผยไร้การควบคุม ส่วนทีวีแม้ถูกคุมเข้มแต่ยังแฝงด้วยเบอร์ทำนายผล 1900 ชี้ อินเทอร์เน็ตยังมีช่องโหว่ แนะ จนท.ต้องมีความรู้ ด้านนักวิชาการ ระบุ 4 ปัจจัยให้คนเล่นพนัน วอนสื่อต้องรู้ขอบเขตในการนำเสนอ

วันนี้ (13 ม.ค.) ที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับมูลนิธิสดศรี-สฤษดิ์วงศ์ จัดเสวนาเพื่อหาแนวทางแก้ปัญหา “การพนันทายผลฟุตบอล” ในสังคมไทยภายในงานมีการนำเสนอข้อมูลผลการศึกษาการพนันกับบทบาทของสื่อไทย โดยนายธาม เชื้อสถาปนศิริ ผู้ศึกษาโครงการศึกษาและเฝ้าระวังสื่อเพื่อสุขภาวะของสังคม (Media Monitor)

นายธาม กล่าวว่า การวิจัยครั้งนี้เป็นข้อมูลของปี 2553 โดยเป็นการศึกษาเชิงคุณภาพ คัดเลือกข่าว คอลัมน์ บทความ โฆษณาจาก นสพ.ส่วนกลาง ระดับประเทศ และ นสพ.กีฬา พบว่า ปัจจุบันความก้าวหน้าของระบบการพิมพ์ การแข่งขันทางธุรกิจ และมีกลุ่มบุคคลชื่นชอบกีฬาฟุตบอลจำนวนเพิ่มขึ้น รูป แบบและเนื้อหาของหนังสือพิมพ์จึงตอบสนองผู้อ่านมากขึ้น มีการนำเสนอที่หลากหลาย มีการวิเคราะห์เกม อัปเดตข่าวคราว และความเคลื่อนไหวนักเตะ และบางฉบับมีการนำเสนออัตราต่อรองด้วย ส่วนหนังสือพิมพ์กีฬามีรายละเอียด สถิติ เบื้องหน้า-เบื้องหลัง วิเคราะห์วิจารณ์เกม และมีการนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับการพนัน โดยเขียน เป็นสีสันให้ทราบว่าทีมใดเป็นตัวเต็ง เสนอเป็นอัตราต่อรอง มีราคาพูลของต่างประเทศ การคาดการณ์ความน่าจะเป็นของเกม มีหยอดคำว่า “ครึ่งลูก” ทำให้ได้รับความนิยมจากผู้อ่านอย่างมาก

“การนำเสนอข้อมูลลักษณะนี้น่า จะมีความสัมพันธ์ต่ออัตราการเติบโตของผู้เล่นพนันอย่างมาก ดังนั้น นสพ.จึงถือว่าเป็นสื่อที่เป็นที่นิยมโดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มแฟนฟุตบอลต่าง ประเทศที่นิยมการเล่นพนัน เนื่องจากการนำเสนอข้อมูลด้านการพนันครบถ้วน”นายธาม กล่าว

นายธาม กล่าวอีกว่า สื่อสิ่งพิมพ์สามารถนำเสนออย่างเปิดเผย ไม่มีหน่วยงานใดควบคุมอย่างชัดเจน การเอาผิดในเรื่องการนำเสนอเป็นสิ่งที่ทำได้ลำบาก เพราะคอลัมนิสต์อ้างว่าไม่ได้ระบุให้ผู้อ่านนำข้อมูลไปใช้เพื่อการเล่นพนัน ผิดกฎหมาย จึงมีการนำเสนอได้ต่อไป และทำให้นสพ.ยังคงเป็นสื่อที่ยอดนิยมของผู้เล่นในการเป็นแหล่งข้อมูลหรือ เครื่องมือประกอบการตัดสินใจเล่นพนัน

นายธาม กล่าวต่อไปว่า สื่อ โทรทัศน์มีอิทธิพลต่อผู้ชมอย่างสูง สร้างความตื่นเต้น เร้าใจอย่างดี เรตติ้งสูง มีการวิเคราะห์เกมทั้งก่อนแข่ง ช่วงพักครึ่ง และหลังจากจบเกม ยังมีการจับรางวัลสำหรับผู้ชมที่โทรศัพท์เข้ามาทายผล ผ่านหมายเลข 1900xxxx xx อย่างไรก็ตาม การพนันทางสื่อโทรทัศน์ไม่สามารถทำได้อย่างเปิดเผยเท่าหนังสือพิมพ์เนื่อง จากเป็นสื่อที่เข้าถึงมวลชน ถูกจับตามองมากกว่า อีกทั้งมีการควบคุมอย่างเคร่งครัดจากสถานีจากคณะกรรมการบริหารสถานี ฝ่ายตรวจสอบรายการซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของคณะกรรมการควบกิจการวิทยุ โทรทัศน์แห่งชาติ (กกช.) สังกัดกรมประชาสัมพันธ์อีกขั้นหนึ่ง แต่ก็ยังพบว่าผู้ดำเนินรายการใช้วิธีเลี่ยงโดยการให้ข้อมูลธรรมดา การวิเคราะห์โดยหลักการและเหตุผล คือ สถิติต่างๆ ฟอร์มการเล่นและทรรศนะส่วนตัว

นายธาม กล่าวต่อว่า สำหรับข้อความสั้นผ่านโทรศัพท์มือถือหรือSMS ถือว่าได้รับความนิยมจากแฟนบอลเช่นกัน เพราะเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้สะดวกยิ่งขึ้นส่วนสื่ออินเทอร์เน็ตยังมีช่อง โหว่ในการบังคับใช้กฎหมาย การพนันเกิดขึ้นได้ทุกที่โดยใช้เวลาในการเล่นสั้นมาก อาจใช้เวลาสั้นกว่า 1/100 วินาที ในการรับ-ส่งผ่านข้อมูลระหว่างผู้เล่นและโฮมเพจเจ้ามือ อีกทั้งพยานหลักฐานของกลางเป็นเพียงสัญญาณคอมพิวเตอร์ที่เป็นเพียงคลื่น กระแสไฟฟ้าและรหัสโปรแกรมที่ไม่สามารถจับต้องได้ จึงไม่สามารถตรวจค้นและยึดของกลางได้เหมือนจับกุมการพนันประเภทอื่น หากเจ้าหน้าที่ไม่มีความรู้ความเข้าใจ ก็จะทำการตรวจยึดเพียงเครื่องคอมคอมพิวเตอร์ตามวิธีการดั้งเดิม

ด้าน ผศ.ดร.สุณีย์ กัลยจิตร อาจารย์คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ปัจจัยที่นำไปสู่การเล่นพนันมี 4 ประเด็นคือ 1.ความอยากเล่นการพนันฟุตบอลส่วนบุคคล ที่มีความอยากเล่นอยากลอง2.อยากได้เงิน ส่วนใหญ่คิดว่าการพนันเป็นการหาเงินที่ง่ายที่สุด ไม่ต้องเหนื่อยและลงทุนอะไรมาก3.เมื่อเล่นเสียจึงอยากได้คืน จึงนำไปสู่การเล่นพนันที่เป็นลูกโซ่ และ 4.เพื่อนแนะนำ ดังนั้น สถาบันครอบครัวและสถาบันการศึกษา ต้องปลูกจิตสำนึกสอดแทรกคติข้อคิดว่าการพนันเป็นสิ่งที่ผิดในทางศีลธรรมและ ผิดกฎหมายให้กับเยาวชน และผู้ใหญ่เองจะต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเยาวชนด้วย ขณะเดียวกัน “สื่อ” จะต้องรู้จักควบคุมการเผยแพร่ นำเสนอให้อยู่ในขอบเขต เพราะทุกวันนี้สื่อนำเสนอเรื่องการแข่งขันฟุตบอล และมีข้อความที่ชักชวนโดยไม่ได้คำนึงถึงผลที่ตามมา ดังนั้นนอกจากสื่อจะควบคุมตนเองแล้ว และใช้วิจารญาณในการนำเสนอแล้ว ทางด้านหน่วยงานของรัฐที่ส่วนเกี่ยวข้อง จำเป็นที่จะต้องออกมาดูแล ควบคุมอย่างจริงจัง ออกมากฎหมาย กฎระเบียบ ควบคุมที่ชัดเจน และเป็นรูปธรรมมากขึ้นด้วย

ขณะที่ ผศ.ดร.กิตติ กันภัย อาจารย์ภาควิชาสื่อสารมวลชน คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงอิทธิพลจากสื่อที่ส่งผลในการเล่นการพนันฟุตบอลว่า จากการวิจัยของคณะนิเทศศาสตร์ภาควิชาสื่อสารมวลชน เห็นชัดเจนว่า สื่อมีอิทธิพลอย่างมาก ในการชักนำเล่นการพนันฟุตบอล ทำให้เกิดวัฒนธรรมส่งเสริมการพนัน ดังนั้นสื่อเหล่านี้ไม่เรียกว่าเป็นนักวิชาชีพสื่อแต่เรียกว่านักธุรกิจ เพราะสื่อจะเป็นผู้ที่จรรโลงสังคม ให้เข้มแข็งมากกว่าการส่งเสริมเล่นการพนัน ที่สนับสนุนการส่งบัตรทายผลฟุตบอลชิงโชค หรือส่งSMSทายผลฟุตบอล นอกจากนี้การจัดทำตารางการแข่งขันยังบอกใบ้โดยให้เหตุผลประกอบ บอกราคาต่อรอง สำหรับข้อความที่สื่อควรนำเสนอ คือ นำเสนอในสิ่งที่ถูกต้อง เช่นวิธีการเล่นกีฬา ประโยชน์ที่ได้รับจากการเล่ากีฬามากกว่า ขณะเดียวกัน การนำเสนอข้อความของสื่อทางสมาคมวิชาชีพสื่อควรดูแลและควบคุมอย่างจริงจัง บ้าง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น