++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพุธที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2554

ข่าวคราวความเคลื่อนไหวการชมนุมของพันธมิตร 25 มกราคม 2554 (วันที่ 1 ของการชุมนุม)

พันธมิตรฯ พรึบ! ยังทยอยสมทบต่อเนื่อง
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 มกราคม 2554 17:31 น.
บรรยากาศการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย บนถนนราชดำเนินนอก จากสะพานมัฆวานรังสรรค์ ไปจนถึงสวนมิสกวันต่อเนื่องไปจนถึงถนนพิษณุโลก ถึงสะพานชมัยมรุเชฐ พันธมิตรฯ จากต่างจังหวัด และภาคีแนวร่วมอุดมการณ์ ทยอยเดินทางเข้ามาสมทบต่อเนื่อง ต่างปักหลักจับจองพื้นที่เพื่อรอฟังการปราศรัยจากแกนนำ ขณะที่การติดตั้งเวทีปราศรัยขนาดใหญ่นั้นจะแล้วเสร็จในช่วงเย็นวันนี้ ล่าสุดเป็นการปราศรัยบนรถขยายเสียง บริเวณเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจกลุ่มผู้ชุมนุมที่ปักหลักรออยู่ เนื่องจากการชุมนุมเป็นการปักหลักพักค้าง เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลปฏิบัติตาม 3 ข้อเสนอของกลุ่ม โดยขณะนี้สถานการณ์ทั่วไปยังคงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่


โฆษก กต.คาดสัปดาห์นี้มีความชัดเจนการยื่นขอประกันตัว"วีระ-ราตรี"
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 มกราคม 2554 17:15 น.
นายธานี ทองภักดี อธิบดีกรมสารนิเทศ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงความคืบหน้าคดีคนไทย 2 คน คือ นายวีระ สมความคิด และ น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูลย์ ที่ยังคงอยู่ที่ประเทศกัมพูชา ซึ่งคาดว่าสัปดาห์นี้น่าจะมีความชัดเจนในเรื่องการยื่นขออุทธรณ์ประกันตัว ต่อศาลฎีกา ซึ่งทนายความกัมพูชาได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลฎีกาไปแล้วเมื่อวันที่ 20 มกราคม ที่ผ่านมา และตามกฎหมายของกัมพูชา ไม่มีกำหนดระยะเวลาในการขออุทธรณ์ ซึ่งวันนัดพิพากษาคดีของทั้งสองคน ยังคงเป็นวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ส่วนกรณีที่รัฐบาลไทยขอให้ศาลกัมพูชาส่งคำพิพากษาคดีคนไทยทั้ง 5 คน มาให้เพื่อจัดแปลเป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษนั้น ล่าสุด ศาลกัมพูชาได้ส่งคำพิพากษาให้กับสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ แล้ว และจะเร่งแปลคำพิพากษาดังกล่าวให้เร็วที่สุด เพื่อส่งให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป


ปชป.เตือนพันธมิตรฯ ระวังมือที่ 3-อย่านำ ปท.สู่สงคราม
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 มกราคม 2554 16:54 น.
นายอรรถพร พลบุตร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ แสดงความเป็นห่วงคนเสื้อแดงว่า อาจตกเป็นเหยื่อผู้นำที่มีความคิดเปลี่ยนแปลงการปกครอง ขณะเตือน พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยว่า ระวังผู้ไม่หวังดีสร้างสถานการณ์ และต้องระมัดระวังการชุมนุมต้องไม่นำประเทศไปสู่ความเสี่ยงต่อการเกิดสงคราม กับประเทศเพื่อนบ้านด้วย


แกนนำพันธมิตรฯ เตรียมขึ้นเวทีแฉพื้นที่พิพาทกัมพูชา เย็นนี้
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 มกราคม 2554 15:44 น.
นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เดินทางมาถึงบริเวณการชุมนุมของพันธมิตรฯ ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์แล้ว พร้อมกับ กล่าวยืนยันว่า ในช่วงเย็นวันนี้ 5 แกนนำพันธมิตรฯ จะขึ้นเวทีปราศรัยกันครบทุกคน โดยเนื้อหาที่จะปราศรัยในวันนี้ คงเป็นเรื่องเกี่ยวกับข้อพิพาทพื้นที่ทับซ้อน ระหว่างประเทศไทยกับประเทศกัมพูชา
ส่วนกรณีที่ ตำรวจจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาครอบครองอาวุธสงคราม และเตรียมก่อเหตุกับกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ นั้น นายพิภพ กล่าวว่า ไม่รู้สึกกังวลกับเรื่องนี้ เพราะกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ ผ่านเหตุการณ์ในลักษณะนี้มามากแล้ว ซึ่งการเฝ้าระวังจะเพิ่มชุดรักษาความปลอดภัยของพันธมิตรฯ หรือ การ์ดพันธมิตร ให้มากขึ้น แต่หน้าที่หลักในการความปลอดภัยนั้นน่าจะเป็นหน้าที่ของตำรวจมากกว่า
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีการตั้งเวทีปราศรัย บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์แต่อย่างใด ซึ่งแกนนำพันธมิตรฯ อยู่ระหว่างประชุมเพื่อประเมินจำนวนผู้ชุมนุม และจะเริ่มตั้งเวทีในช่วงเย็นวันนี้


"ลุงจำลอง"ลั่น! ปิดประตูเจรจา รบ.ชี้ยื่นข้อเสนอหลายครั้งแล้ว
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 มกราคม 2554 14:52 น.
การจับกุมผู้ต้องหาพร้อมวัตถุระเบิด เครื่องกระสุน โดยรับสารภาพว่าเตรียมการก่อเหตุระหว่างการชุมนุมทางการเมือง ไม่เป็นเหตุกระทบกับการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ให้ต้องยกเลิกหรือเลื่อนการชุมนุม เพื่อยื่นเงื่อนไข 3 ข้อให้รัฐบาลยกเลิก MOU 2543 ถอนตัวจากคณะกรรมการมรดกโลก และผลักดันชาวกัมพูชาออกนอกพื้นที่
โดย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง หนึ่งในแกนนำ มั่นใจการดูแลรักษาความปลอดภัย และมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อยการชุมนุม ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังจากได้ประสานทำความเข้าใจกันก่อนหน้านี้ พร้อมกับกล่าวย้ำที่จะชุมนุมอย่างยืดเยื้อ และปฏิเสธแนวทางการเจรจากับรัฐบาล เนื่องจากได้ยื่นข้อเสนอไปหลายครั้งก่อนหน้านี้
ขณะที่ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 เข้าหารือกับ พล.ต.จำลอง เพื่อประสานทำความเข้าใจในเรื่องการอำนวยความสะดวกด้านการจราจร โดยร้องขอไม่ให้มีการปิดกั้นการจราจรบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ พื้นที่ตั้งเวทีการชุมนุมทั้งหมด โดยเว้นพื้นผิวการจราจร จำนวน 2 ช่องทาง แต่เบื้องต้น พล.ต.จำลอง ยังไม่ตอบรับ โดยอ้างเหตุผลเรื่องความปลอดภัยของผู้ชุมนุม ล่าสุดแม้ผู้ชุมนุมทยอยเดินทางมา แต่ยังไม่ส่งผลให้การจราจรถนนราชดำเนิน ช่วงพื้นที่การชุมนุมต้องปิดลง



ผบก.น.1 เจรจาพันธมิตรฯ อย่าปิดช่องจราจรหมด ชี้กระทบ ปชช.
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 มกราคม 2554 14:49 น.
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ทยอยเดินทางมาชุมนุมบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ โดยผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ยังอยู่บนทางเท้า และเส้นทางคู่ขนานตลอดถนนราชดำเนินนอก ตั้งแต่เชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ถึงมิสกวัน ขณะที่ผู้ชุมนุมบางส่วนนำเต็นท์พักแรมมากางจองพื้นที่ และเตรียมกระเป๋าสัมภาระเพื่อปักหลักชุมนุมยืดเยื้อ
ทั้งนี้ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 (ผบก.น.1) ได้เข้าเจรจากับ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ ขอให้มีการตั้งเวทีปราศรัยบริเวณเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ โดยใช้เพียง 2 ช่องทางจราจรเท่านั้น ไม่ให้ปิดการจราจรทั้งหมด เนื่องจากเกรงว่าจะกระทบประชาชน
นอกจากนี้ ยังขอความร่วมมือให้การ์ดพันธมิตรฯ เป็นหูเป็นตาตรวจสอบวัตถุต้องสงสัย ขณะที่เจ้าหน้าที่ยังใช้กำลัง 20 กองร้อย และไม่จำเป็นต้องเพิ่มกำลังแต่อย่างใด
ส่วนการชุมนุมของกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ช่วงเย็นวันนี้นั้น มีการเจรจากับแกนนำแล้ว ได้รับการยืนยันว่า จะไม่มีการเคลื่อนขบวนมาเผชิญหน้ากับพันธมิตรฯ


ตื่นตูม!! ตร.ทำเนียบฯ พบกระเป๋าต้องสงสัย ตรวจสอบเป็นแค่แก้วน้ำ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 มกราคม 2554 14:26 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำทำเนียบรัฐบาลพบกระเป๋าต้องสงสัย สีขาวคาดดำ วางอยู่บริเวณสะพานอรทัย ข้างทำเนียบรัฐบาล ห่างจุดตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 10 เมตร จึงเรียกหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าทำการตรวจสอบ หลังใช้เวลาตรวจสอบไม่นานนัก พบว่าภายในกระเป๋ามีกล่องสีน้ำตาล บรรจุแก้วน้ำไว้ 11 ใบ ไม่พบสิ่งผิดปกติอื่นๆ

นร.ระวังตัวขึ้นหลังพบข่าวเตรียมบึ้มม็อบ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 มกราคม 2554 12:03 น.
เช้าวันนี้ โรงเรียนในพื้นที่กรุงเทพฯ บริเวณใกล้พื้นที่การชุมนุมทางการเมือง ทั้งกลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติ และจะมีการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในช่วงบ่าย ยังคงมีนักเรียนเดินทางมาเรียนตามปกติ ทั้งมาด้วยตนเองและผู้ปกครองมาส่ง เช่น โรงเรียนราชวินิตมัธยม ซึ่งมีนักเรียนระดับ ม.1-6 นักเรียนยังคงเดินทางมาเรียน ส่วนใหญ่ทราบข่าวการพบระเบิดถูกวางบริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ ค่ำวานนี้ ซึ่งห่างจากโรงเรียนไม่ถึง 50 เมตร แม้จะมีความกังวลในความปลอดภัยแต่ตัดสินใจมาเรียนตามปกติ ขณะที่ผู้บริหารโรงเรียน จะประชาสัมพันธ์แจ้งผู้ปกครองวางแผนการเดินทางไปกลับล่ววหน้า ส่วนกรณีการวางระเบิด ยอมรับว่ามีความกังวล
ส่วนบรรยากาศที่โรงเรียนวัดโสมนัส ที่มีนักเรียนระดับอนุบาลและประถมศึกษา ตั้งอยู่ใกล้สะพานมัฆวานรังสรรค์ ซึ่งเป็นพื้นที่ชุมนุม นักเรียนยังคงเดินทางมาตามปกติ โดยผู้ปกครองติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เช่น น.ส.วารุณี เพชรชัย ผู้ปกครองนักเรียนชั้นอนุบาล 1 กล่าวว่า ครั้งแรกที่ทราบข่าววางระเบิด จะไม่ให้ลูกมาโรงเรียน แต่ในที่สุดตัดสินใจมา โดยตนจะดูแลอย่างใกล้ชิด และรับกลับบ้านเร็วขึ้น


ชาวภูมิซรอลร้องเขมรปลดป้ายประณามคนไทย
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 มกราคม 2554 11:47 น.
ชาวบ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต่างเรียกร้องให้กัมพูชาปลดป้ายประณามคนไทยและทหารไทยว่ารุกล้ำดินแดนเขมร บนวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระออกไป เนื่องจากเป็นการกระทำที่ไม่สมควร แต่ทั้งนี้ ชาวบ้านยังไม่ห่วงสถานการณ์ชายแดน และยังใช้ชีวิตกันตามปกติ


ชาวภูมิซรอลร้องเขมรปลดป้ายประณามคนไทย
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 มกราคม 2554 11:47 น.
ชาวบ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต่างเรียกร้องให้กัมพูชาปลดป้ายประณามคนไทยและทหารไทยว่ารุกล้ำดินแดนเขมร บนวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระออกไป เนื่องจากเป็นการกระทำที่ไม่สมควร แต่ทั้งนี้ ชาวบ้านยังไม่ห่วงสถานการณ์ชายแดน และยังใช้ชีวิตกันตามปกติ


"สุเทพ"อ้าง 3 ข้อเสนอพันธมิตรฯ เป็นอันตรายต่อบ้านเมือง
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 มกราคม 2554 10:40 น.
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ระบุว่า ในวันนี้ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง จะมารายงานความคืบหน้า และรายละเอียดที่สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัย พร้อมกับอาวุธระเบิดจำนวนมาก ที่เตรียมใช้ก่อความไม่สงบกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเป็นผลจากการกำชับให้กวดขันและเข้มงวดเป็นพิเศษ ถือว่าวานนี้เป็นการทำงานที่ได้ผล และจะมีการขยายผลต่อเนื่อง เพื่อให้บ้านเมืองสงบ
นายสุเทพ กล่าวถึงกรณีที่พันธมิตรฯ ประกาศข้อเรียกร้อง 3 ข้อ เพื่อแก้ปัญหาไทย-กัมพูชา และขู่ว่าจะชุมนุมยืดเยื้อนั้น ยอมรับว่าข้อเสนอทั้ง 3 เป็นอันตรายต่อบ้านเมือง จะทำให้รัฐบาลนั้นเหนื่อยขึ้น ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีจะเป็นฝ่ายพูดคุยทำความเข้าใจกับพันธมิตรฯ
นายสุเทพ ยืนยันว่า จะใช้กฎหมายปกติในการดูแล หากถึงจุดที่จำเป็นจึงจะมีการหยิบยก พ.ร.ก.ฉุกเฉินมาใช้ ส่วนกระแสปฏิวัติยอมรับว่า มีความพยายามของกลุ่มคนที่ต้องการสร้างสถานการณ์ แต่ขอให้มั่นใจว่า กองทัพจะไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมือง

พันธมิตรฯ พิจิตร จัดกำลัง 3 ชุดพร้อมสับเปลี่ยนร่วมชุมนุม
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 มกราคม 2554 10:12 น.
เครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จ.พิจิตร ในนามของคนไทยหัวใจรักชาติ ได้มีการจัดแบ่งกำลังออกเป็น 3 ผลัด เพื่อสับเปลี่ยนกำลังใจการร่วมชุมนุม หากมีการยืดเยื้อเกิน 3 วัน หรือ 7 วัน โดยจัดเป็นชุดๆ ละ 100 คน พร้อมอุปกรณ์ที่พักแรม และของใช้ส่วนตัว เนื่องจากมีการประสบการณ์การชุมนุมใหญ่มาแล้ว
ทั้งนี้ ตั้งแต่เวลา 06.00 น.ที่ผ่านมา กลุ่มผู้ชุมนุมได้ทยอยเดินทางเข้ากรุงเทพมหานครแล้ว ด้วยรถบัส รถตู้ และรถส่วนตัว ซึ่งจะรับเครือข่ายในเส้นทางผ่านอีกหลายจุดด้วย

พันธมิตรฯ ย้ำปักหลักมัฆวานฯ ยืดเยื้อจี้ รบ.ปฏิบัติตาม 3 ข้อเสนอ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 มกราคม 2554 09:24 น.
นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยืนยันว่า การชุมนุมของพันธมิตรฯ ในวันนี้ จะปักหลักที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ เพื่อกดดันรัฐบาลให้ดำเนินการตาม 3 ข้อเรียกร้องของกลุ่มพันธมิตรฯ คือให้ประเทศไทยถอนตัวออกจากการเป็นคณะกรรมการมรดกโลก ยกเลิก MOU ปี 43 และผลักดันชาวกัมพูชาออกจากแผ่นดินไทย เนื่องจากเชื่อว่าแนวทางดังกล่าวจะช่วยคลี่คลายปัญหาข้อพิพาทระหว่าง ไทย-กัมพูชา และเป็นหนทางเดียวที่จะทำให้ไทยไม่ต้องสูญเสียดินแดน โดยจะปักหลักชุมนุมยืดเยื้อไปจนกว่ารัฐบาลจะยอมทำตามข้อเรียกร้องบางส่วน
ส่วนการจับกุมชายต้องสงสัย 5 คน พกระเบิดเตรียมป่วนการชุมนุมของพันธมิตรฯ เมื่อคืนที่ผ่านมานั้น นายปานเทพ กล่าวว่า ยังไม่อยากกล่าวหาว่าผู้ที่เตรียมก่อเหตุดังกล่าวเป็นกลุ่มใด


พันธมิตรฯ ย้ำปักหลักมัฆวานฯ ยืดเยื้อจี้ รบ.ปฏิบัติตาม 3 ข้อเสนอ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 มกราคม 2554 09:24 น.
นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยืนยันว่า การชุมนุมของพันธมิตรฯ ในวันนี้ จะปักหลักที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ เพื่อกดดันรัฐบาลให้ดำเนินการตาม 3 ข้อเรียกร้องของกลุ่มพันธมิตรฯ คือให้ประเทศไทยถอนตัวออกจากการเป็นคณะกรรมการมรดกโลก ยกเลิก MOU ปี 43 และผลักดันชาวกัมพูชาออกจากแผ่นดินไทย เนื่องจากเชื่อว่าแนวทางดังกล่าวจะช่วยคลี่คลายปัญหาข้อพิพาทระหว่าง ไทย-กัมพูชา และเป็นหนทางเดียวที่จะทำให้ไทยไม่ต้องสูญเสียดินแดน โดยจะปักหลักชุมนุมยืดเยื้อไปจนกว่ารัฐบาลจะยอมทำตามข้อเรียกร้องบางส่วน
ส่วนการจับกุมชายต้องสงสัย 5 คน พกระเบิดเตรียมป่วนการชุมนุมของพันธมิตรฯ เมื่อคืนที่ผ่านมานั้น นายปานเทพ กล่าวว่า ยังไม่อยากกล่าวหาว่าผู้ที่เตรียมก่อเหตุดังกล่าวเป็นกลุ่มใด


นายกฯ ย้ำ!! พันธมิตรฯ ชุมนุมห้ามบุกยึดทำเนียบ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 มกราคม 2554 18:36 น.
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการชุมนุมเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในวันพรุ่งนี้ (25 ม.ค.) ว่า ล่าสุด นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง หารือกับ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แล้ว โดยมีการวางแนวทางในการดูแลความสงบเรียบร้อย และต้องมีการประสานไปยังแกนนำ เพื่อให้การชุมนุมเป็นไปตามกรอบของกฎหมาย รวมทั้งไม่กระทบกับประชาชนส่วนใหญ่ ขณะเดียวกัน ย้ำว่า จะต้องไม่มีการบุกยึดทำเนียบรัฐบาล เหมือนกับการชุมนุมเมื่อปี 2551 ซึ่งในวันพรุ่งนี้ข้าราชการต้องสามารถเข้าทำงานภายในทำเนียบรัฐบาล และรัฐสภา ได้ตามปกติ
สำหรับบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาลตลอดช่วงบ่ายที่ผ่านมานั้น เจ้าหน้าที่จากกรุงเทพมหานครได้นำแท่งปูนกว่า 100 แท่ง มาปิดกั้นบริเวณประตูทางเข้า-ออก ของทำเนียบรัฐบาลด้านสะพานชมัยมรุเชฐ และด้านสะพานมัฆวานรังสรรค์ โดยมีการเรียงแท่งปูน 2 ชั้น และในช่วงค่ำของวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 4 กองร้อย หรือประมาณ 600 นาย จะเข้าประจำการภายในทำเนียบรัฐบาล เพื่อเตรียมรับมือกับการชุมนุมในวันพรุ่งนี้ ตามแผนกรกฎ 52


ผบ.ทบ.ฝัน!! จะมีข่าวดีกรณีประสานเขมรปลดป้ายประณามคนไทย
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 มกราคม 2554 17:14 น.
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงความคืบหน้าการเจรจากับกัมพูชาในการให้รื้อถอนป้ายประณามไทย ว่า ขณะนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และเจ้าหน้าที่ทหาร กำลังเร่งดำเนินการเจรจา ซึ่งทางกัมพูชาได้รับเรื่องไปแล้ว โดยคาดว่าจะได้รับข่าวดีภายใน 1-2 วันนี้ ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารบก ยืนยันว่า ทหารไม่ได้นิ่งนอนใจในการดำเนินการแก้ไขปัญหา และขอให้ประชาชานอย่ากังวลหรือตื่นตระหนกไปก่อน ซึ่งการเจรจาครั้งนี้ไม่ได้เป็นการร้องขอทางกัมพูชา แต่เป็นการอาศัยความสัมพันธ์ที่ดีระหว่าง 2 ประเทศ ซึ่งมีมานาน และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการทะเลาะกัน ซึ่งหากทะเลาะกันประชาชนทั้งสองฝ่ายอาจได้รับความเดือดร้อน
สำหรับกรณีพื้นที่พิพาทไทย-กัมพูชา ที่ยังไม่มีความชัดเจนนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของกลไกทางกฎหมาย ซึ่งขอยืนยันว่า ตนเองและทหารทุกนายรักประเทศชาติ
นอกจากนี้ ผู้บัญชาการทหารบก ยังระบุด้วยว่า ไม่รู้สึกกังวลการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในวันพรุ่งนี้ เพราะทุกอย่างต้องว่ากันไปตามกฎหมาย



“สนธิ”ซัด “มาร์ค”จอมโกหกเอาใจเขมร-พร้อมสู้สุดชีวิตไม่ให้เสียชาติเกิด

วันนี้(25 ม.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 20.45 น.ที่ผ่านมา นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ขึ้นปราศรัยที่เวทีสะพานมัฆวาน รังสรรค์ ถึงการต่อสู้ของพันธมิตรฯ กัลรัฐบาลนายอภสิทธิ์ เวชชาชีวะ กรณีดินแดนไทย-กัมพู โดยนายสนธิ กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2548 ที่ตนนำพันธมิตรฯ ออกมาสู้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็เป็นการสู้เพื่อศีลธรรม เพื่อขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณออกไป เพราะเขาทำร้ายทำลายประเทศไทย เราสู้วันนั้น ไม่มีการแบ่งว่าเป็นคนใต้ เหนือ อีสาน ตะวันออก ตะวันตก แต่เราสู้ด้วยพลังศีลธรรม จนกระทั่งมีการปฏิวัติ 19 ก.ย.เราก็สู้มาตลอด ผ่านเหตุการณ์ 7 ตุลาฯ 51 ที่พี่น้องต้องสูญเสีย ผ่านวันที่ 17 เม.ย.52 ที่ตนโดนยิง ล้วนแต่เป็นการสู้เพื่อหลักการทั้งสิ้น ไม่ได้สู้เพื่อพรรคประชาธิปัตย์หรือใครเลย

นายสนธิ กล่าวต่อว่า วันนั้นมีพี่น้องภาคใต้มากมายมาร่วมสู้กับเรา ส่วนหนึ่งเพราะเขารักความเป็นธรรมเหมือนเรา แต่ส่วนหนึ่งเขามาสู้เพราะเห็นว่าประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่ดี จึงอยากให้ได้ปกครองบ้านเมือง แต่นับจากวันแรกจนวันนี้ สาบานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ พ่อแม่ครูบาอาจารย์ได้เลยว่า เราไม่เคยคิดสู้ให้พรรคประชาธิปัคย์เลย เราสู้ให้ชาติบ้านเมือง เมื่อรเาสู้เพื่อบ้านเมือง ไม่ว่าใครก็ตาม นายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ เมือกสุบรรณ นายศิริโชค โสภา ไม่สำคัญ ชาติบ้านเมืองต้องมาก่อน ขอฝากพี่น้องคนใต้บางส่วนที่ไม่สนใจมาสู้ให้ชาติบ้านเมืองเพียงเพราะว่าเรา สู้กับประชาธิปัตย์ พี่น้องชาวใต้หลายคนที่ดูยู่ขอให้เอาชาติเป็นตัวตั้ง อย่าเอาพรรคเป็นตัวตั้ง ไม่เช่นนั้นตนจะเสียใจมาก ในฐานะที่เราเคยสู้ถึงขั้นหลั่งเลือดมาด้วยกัน

นายสนธิกล่าวต่อว่า มีคนถามตนว่าแก่ขนาดนี้ ยังจะออกมาประท้วงทำไม ตนก็บอกไปว่า ออกมาเพื่อไม่ให้เสียชาติเกิด เราไล่ทักษิณเพราะเขาเป็นนักการเมืองที่ไม่มีจริยธรรม คอร์รัปชั่น แต่งตั้งโยกย้ายคนของตัวเอง และยังจาบจ้วงเบื้องบน เมื่อไล่ทักษิณออกไป ก็มีการปฏิวัติ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เป็นหัวหน้าคณะปฏิวัติก็ตั้ง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นนายกฯ ตนเป็นคนบอกว่า นี่เป็นเพียงการเปลี่ยนสมบัติผลัดกันชม เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว การเมืองภาคประชาชนนับวันจะตกต่ำลงไป แทนที่ พล.อ.สุรยุทธ์จะพลิกแผ่นดินแก้ปัญหาทุกอย่างให้จบ กลับมาผลัดกันชมในหมู่พวกของตัวเอง แทนที่จะสร้างจริยธรรมใหม่ๆ ขึ้นมา ก็ไม่ทำ

“ผมไปออกช่อง 11 ได่แค่ 11 วัน พล.อ.สุรยุทธ์ก็โทรศัพท์มาบอกให้ผมหยุด เพราะว่าปัญญาของประชาชนกำลังจะเริ่มเปิด เมื่อเริ่มเปิด ทักษิณก็ต่อสายเข้ามาถึงคนในรัฐบาล ต่อรองว่าเขาจะไม่เคลื่อนไหว ถ้าผมไม่ออกมา หลัง 19 ก.ย.แล้ว นี่จึงเป็นที่มาของการต้องมีเลือกตั้งใน 1 ปี เมื่อครบ 1 ปี นายสมัคร สุนทรเวช กลับมา เรายังอยู่เฉยๆ จนนายสมัครเริ่มใช้อำนาจที่ไร้จริยธรรม ย้ายนายสุนัย มโนมัยอุดม อธิบดีดีเอสไปที่กำลังทำคดีเอสซี แอสเซท และย้ายข้าราชการหลายคนออกไป เสร็จแล้วยังอหังการมมังการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้ทักษิณพ้นผิด เพราะเขาเชื่อว่าา การที่เขาชนะเลือกตั้งด้วยการซื้อเสียงเข้ามา เขาสามารถทำอะไรก็ได้ไม่ผิด เพระเขาถือว่าสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการเมืองไทยคือสภา เขาไม่สนใจการเมืองข้างถนนอย่างไร เมื่อนายสมัครไป นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ก็มา”

นายสนธิ กล่าวว่า ตนกำลังชี้ให้เห็นว่านายอภิสิทธิ์ พรรคประชาธิปัตย์ ไมได้ต่างจาก พ.ต.ท.ทักษิณและพรรคไทยรักไทย การทุจริตคอร์รัปชั่นเหมือนกันทุกประการ การประมูลข้าว โกงข้าว มีนักการเมืองได้ประโยชน์หลายพันล้าน คนเป็นรองนายกฯ ได้ไป 500 ล้าน การอนุญาตนำเข้าน้ำมันปาล์มเข้ามาในประเทศ ที่จริงคือการให้นักการเมืองของประชาธิปัตย์ขนน้ำมันปาล์มเถื่อนเข้ามาได้ กำไรมากขึ้น การตั้งปลัดมหาดไทยก็ข้ามหัวอาวุโส 50 คน การแต่งตั้งตำรวจระดับผู้กำกับ ก็ตั้งโต๊ะในทำเนียบ เก็บเงินหัวละ 3-5 ล้าน แล้วจะต่างอะไรกับทักษิณ ทักษิณกล้าทำกล้ารับ เราก็กล้าสู้กับมัน แต่นายอภิสิทธิเหยียบเท้ากับนายสุเทพแล้วเล่นคนละบทบาท นายอภสิทธิ์บอกรัฐบาลโปร่งใสพร้อมรับฟังความคิดเห็นทุกฝ่าย แต่อีกคนกลับไปพูดที่ชุมพร บอกว่านายสนธิเป็นอันตรายต่อชาติบ้านเมือง

นายสนธิ กล่าวอีกว่า มีที่ไหนที่คนเป็นรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคงไปเป็นประธานคณะกรรมการเจรจาผลประโยชน์ทางทะเลกับเขมร ไปเป็นประธานจคณะกรรมการพิจารณานำเข้านำมันปาล์ม แล้วนายอภิสิทธิ์ก็ไม่ทำอะไรแม้แต่นิดเดียว นอกจากแต่งตัวหล่อ พูดจาสุภาพ แต่หลงๆ ลืมๆ นึกไม่ออกว่าจะแก้ตัวเรื่องชายแดนเขมรยังไงดี

ทำไมนายสุเทพ และพรรคร่วมฯ ชูนายอภิสิทธิ์ ทำไมมีการจับมือลับๆ ระหว่างประชาธิปัตย์กับเพื่อไทย โดยผ่านคนที่เป็นเจ้าของค่ายเพลงคนหนึ่ง และเจ้าของดิวตี้ฟรีอีกคนหนึ่ง ที่ไปจับมือกับคนดำๆ ว่า เมื่อเลือกตั้งเสร็จจะร่วมตั้งรัฐบาลกัน ขออย่างเดียวให้นายอภิสิทธิเป็นนายก ดังนั้น จึงไม่แก้ เอ็มโอยู.43 เพราะเป็นเงื่อนไขในการไปไปสวมตอผลประโยชน์ทางทะเล มีการตกลงแล้ว ถ้าเอ็มโย.43 ที่ให้เขมรได้พื้นที่ไป 1.8 ล้านไร่ทำสำเร็จ ข้อตกลงทางทะเลก็จะคุยกันรู้เรื่อง

นายสนธิ กล่าวต่อว่า ทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ นายสมัคร นายสมชาย นายอภิสิทธิ์ไม่ต่างอะไรกัน พ.ต.ท.ทักษิณกอดกับนายเนวินได้ นายอภิสิทธิ์ก็กอดกับนายเนวินได้ นายบรรหารอยู่กับ พ.ต.ท.ทักษิณได้ก็มาอยู่กับนายอภิสิทธิ์ได้ ไม่เห็นข้อแตกต่างเลย บ้านเมืองที่พินาศฉิบหายก็เพราะนักการเมืองอย่างเดียว เหตุนี้เขาต้องชูนายอภสิทธิ์ เพราะยังขายได้ ขายได้กับคนโง่ๆ ประเทศไทยฉิบหายนอกจากเพราะนัการเมืองเลวทรามแล้ว ยังมีคนโง่ๆ ที่หลงในความหล่ออยู่

นายอภสิทธิ์บอกว่าพร้อมที่จะฟังพี่น้อง แต่ผู้ใหญ่ที่ออกมาพูดกันค้านกัน ก็ไม่ยอมฟัง ยังไม่เเคยเห็นนายกฯ คนไหนที่โกหกเท่านายกฯ คนนี้ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นนายกฯ ที่ปลิ้นปล้อนที่สุด แต่นายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ ที่โกหกมากที่สุด วันนี้ นอกจากเข้าจะวิชามารเรื่องข่าวแล้ว เขายังฝันว่า เราจะมีอยู่แค่หยิบมือเดียว แต่เขาเข้าใจผิด ที่ผ่านมาเราไม่ได้สู้เพื่อประชาธิปัตย์ แต่เราสู้เพื่อชาติบ้านเมือง
เมื่อเราสู้เพื่อชาติบ้านเมือง พี่น้องก็ออกมาเอง ไม่ต้องขอร้องแม้แต่นิดเดียว

นายสนธิกล่าวต่อว่า คนที่เป็นนายกฯ ทำให้ชาติบ้านเมืองเสียหายมา 3 ครั้ง 3 ครา และกำลังจะทำให้เสียดินแดนมีสิทธิยืนอยู่บนแผ่นดินไทยหรือไม่ ครั้งแรกที่พัทยา มีที่ไหนการประชุมระดับโลกปล่อยให้กุ๊ยไปป่วนแล้วนายกฯ วิ่งหนีเหมือนหมาถูกนำร้อนลวก ครั้งที่ 2 ปล่อยให้คนเสื้อแดงเผาเมืองวันที่ 14 เมษา (2552) ครั้งที่3 เผาราชประสงค์ แล้วพวกเสื้อขาวรักนายกฯ ไม่ใช่หรือ ไปจัดการกับเสื้อแดงเองสิ เพราะนายกฯ บอกให้ไปคุยกันเอง

“คุณไม่ยอมที่จะจัดการกับปัญหาของชาติบ้านเมือง กลัวว่าต่างชาติจะมองว่าคุณมือเปื้อนเลือด แต่คุณปล่อยให้เขาเผาไปครึ่งเมือง ให้ทหารตายไปเป็น 10 คน ไม่คิดว่าคุณมือเปื้อนเลือดเหรือ ถ้าไม่เหลืออด ผมก็ไม่อยากวิพากษณ์วิจารณ์ นายกฯ อภิสิทธิ์ เพราะผมเป็นคนให้โอกาสเขา เหมือนที่เคยให้โอกาส พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เพราะว่าพันธมิตรฯ ไม่ใช่คนที่ไม่มีเหตุผล หรือคนที่จะทวงบุญคุณ”

นายสนธิ กล่าวต่อว่า ต่อไปนี้ พี่น้องอย่าไปทวงบุญคุณพรรคประชาธิปัตย์ ถือเสียว่าที่เขาได้เป็นรัฐบาลเพราะเราเที่ยวนี้ เหมือนหมาตัวหนึ่งที่มาเยี่ยวราดเรา อย่าไปสนใจมัน ที่เราอยู่ยงคงกระพันอยู่ทุกวันนี้ เพราะเรายืนอยู่บนหลักการปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ พ.ต.ท.ทักษิณรับผลกรรมไปแล้ว จะขอพูดต่อ 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดินว่า อีกไม่นานนายอภิสิทธิ นายสุเทพ จะได้รับกฎแห่งกรรมในเร็วๆ นี้เช่นกัน

นายสนธิได้ยกตัวอย่างว่า นายอภิสิทธิจะได้รับผลกรรมอย่างไร กรณีแรก คือการให้นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงนามในข้อตกลงกับคณะกรรมการมรดกโลก กรณีการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหาร ซึ่งตนได้พบกับนายสุวิทย์ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อปลายปีที่แล้ว จึงถามว่าไปเซ็นทำไม นายสุวิทย์บอกว่าได้โทรศัพท์ถามนายกฯ แล้วว่าจะถอนตัวจากภาคีมรดกโลกดีหรือไม่ เพื่อจะได้ไม่มีพันธะ และประท้วงได้ แต่นายกฯ บอกว่าให้เซ็นไปเลย เมื่อเราพูดเรื่องนี้ เขาก็ให้สมุนออกมาพูดว่า การที่นายสุวิทย์เซ็นไป 4 ข้อนั้น เพื่อให้เรามีสิทธิประท้วงในการประชุมมรดกโลกเดือนมิถุนาปี 2554 นี้ แต่เมื่อเอา 4 ข้อมาดู ปรากฏว่าเป็นการยืนยันสถานภาพของเขมรที่จะจดทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดก โลกและพื้นที่ 4.6 ตร.กม. คำถามมีอยู่ว่า เมื่อเดือนมิถุนายนมาถึง มีการพิจารณาของคณะกรรมการมรดกโลก นายอภิสิทธิ์จะยกมือประท้วงประเด็นไหน ถ้าไปยกมือค้าน นายฮุนเซนก็จะเอา4 ข้อตบหน้า แล้วบอกก็ไปเซ็นมาแล้ว

เรื่องที่ 2 เมื่อศาลกัมพูชามีคำพิพากษา 5 คนไทยเรียบร้อยแล้ว นายอภสิทธิ์ก็มาปากกล้าว่าไม่ยอมรับคำตัดสินของศาลกัมพูชา ก็ถ้าไม่ยอมรับแล้วยอมให้ขึ้นศาลทำไม การที่ยอมให้นายฮุนเซนลากคนไทยไปขึ้นศาล แสดงว่าให้ศาลเขามีอำนาจบนอธิปไตยไทยไปแล้ว อย่างนี้ถือว่าเสียดินแดนแล้ว องค์ประกอบครบตามมาตรา 119 ทำให้ประเทศสูญเสียอธิปไตยเหนือดินแดน แล้วคนที่ถูกจับเขาก็บอกว่า ถูกเขมรลากตัวเข้าไปที่ฝั่งเขา ที่รัฐบาลไม่ประท้วงตั้งแต่ต้น ก็เพราะจิตใจบูชานายฮุนเซนตั้งแต่เช้าจนกลางคืน จะไปประท้วงได้อย่างไร ที่นายกฯ ออกช่อง 11 ครึ่งชั่วโมงวันั้น ก็แก้ตัวให้เขมรทั้งสิ้น แต่ละคนที่ออกมาให้สัมภาษณ์ก็ให้ร้ายคนไทยทั้งสิ้น

“คนที่โตเมืองนอก ชีวิตไม่เคยสัมผัสข้อเท็จจริงในเมืองไทย ไม่มีครูอาจารย์พ่อแม่ที่เคารพ ไม่เคยศึกษาปฏิบัติธรรม จะไม่มีวันเข้าใจความศักดิ์สิทธิ์ของดินแดนนี้ วันนี้เป็นศิริมงคลของแผนดินที่เรามีคนมากมายมหาศาล ที่มาครั้งนี้เพราะไม่ต้องการให้เสียชาติเกิด เมื่อเกิดเป็นคนไทย มันต้องทำทุกอย่างเพื่อปกป้องแผ่นดินไทย ไม่อย่างนั้นก็เหมือนพวกชิงหมาเกิด” นายสนธิกล่าว


ราษฎรโนนหมากมุ่นตบหน้ารัฐ ร้อง กสม.เรียกร้องสิทธิที่ทำกิน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 มกราคม 2554 18:16 น.
ชาวบ้านโนนหมากมุ่น หมดหวังขอความช่วยเหลือรัฐบาล เปลี่ยนร้อง กสม.ให้เร่งช่วยเหลือการเข้าไปมีสิทธิทำกินในเขตหลัก กม.46-48 ยันมีเอกสารสิทธิเป็นที่ดินของคนไทย ด้าน กก.สิทธิฯ ชี้ ท่าทีของรัฐบาลเหมือนเกรงใจฝ่ายเขมร เพราะไม่เห็นดำเนินการที่เป็นชิ้นเป็นอัน

วันนี้ (25 ม.ค.) นายธิติพัทธ์ เสมาทอง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านใหม่หนองไทร จ.สระแก้ว พร้อมด้วยตัวแทนชาวบ้านหมู่บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว จำนวน 20 คน ได้เข้าร้องเรียนต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ผ่าน นายปริญญา ศิริสารการ กรรมการสิทธิฯ ขอให้ช่วยเหลือให้สามารถเข้าไปทำกินในที่ดินที่เป็นข้อพิพาทระหว่างชาย ไทย-กัมพูชา โดยกล่าวว่า ตนและชาวบ้านทั้งหมด ถือเอกสารสิทธิ ส.ค.1 ส.ค.2 ในที่ดินบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 46-47-48 ที่ได้รับตกทอดจากบรรพบุรษมาตั้งแต่ปี 2498 รวมพื้นที่ทั้งหมดราว 300-400 ไร่ แต่กลับไม่สามารถเข้าไปทำกินได้เนื่องจากถูกรัฐบาลและชาวกัมพูชา ยึดพื้นที่มาตั้งแต่ปี 2518 จนถึงปัจจุบัน โดยมีการล้อมรั้วลวดหนาม ทั้งที่ตลอดเวลา 30 ปี ตนและชาวบ้านต่างก็เสียภาษีที่นามาโดยตลอด และเมื่อปลายปี 2553 ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ที่ดิน จ.สระแก้ว ประกาศว่า ให้ชาวบ้านที่ถือครองเอกสารสิทธิ ส.ค.1 ส.ค.2 มายื่นเอกสารสิทธิเพื่อที่ราชการจะออกโฉนดให้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ได้ลงพื้นที่จะไปรังวัดให้กับชาวบ้าน แต่ปรากฏว่า ไม่สามารถเข้าไปรังวัดพื้นที่ดังกล่าวได้ เนื่องจากว่าทางการเขมรไม่ยินยอมให้เข้าไป จึงต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งกรรมการสิทธิฯเข้าไปช่วยแก้ปัญหา เพื่อให้ได้พื้นที่ทำกิน เพราะปัจจุบันต้องไปเช่าที่ทำกินอย่างยากลำบาก

ด้าน นายปริญญา กล่าวว่า จะรับเรื่องไปตรวจสอบ แต่เรื่องดังกล่าวมีความเปราะบาง อ่อนไหว และไม่รู้ว่ารัฐบาลจะกล้าดำเนินการหรือไม่ แต่ท่าทีของรัฐบาลเหมือนเกรงใจฝ่ายกัมพูชา เพราะถ้ามีปัญหาอย่างที่เกิดขึ้นรัฐบาลก็น่าจะประท้วงหรือทำอะไรสักอย่าง แต่ท่าทีที่ออกมาหน่อมแน้มเหมือนมีอะไรซ่อนเร้น

“อย่างนายกรัฐมนตรีที่ออกโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ เมื่อวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา ผมฟังแล้วก็ไม่รู้ว่านายกฯต้องการจะบอกอะไรกับคนไทย รู้สึกว่าไม่ออกยังจะดีกว่า เพราะออกทีวีแล้วมันเหมือนกับจะยิ่งทำให้ 2 คนไทยที่ยังถูกควบคุมอยู่ที่กัมพูชาพบกับความอันตรายเข้าไปอีก” นายปริญญา กล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น