สธ.เผยคนไทยเสีย ชีวิตจากโรคอัมพาต ปีละกว่า 13,000 คน เฉลี่ยวันละ 37 คน มีแนวโน้มสูงขึ้นในผู้สูงอายุ พร้อมเปิดตัว “คัมภีร์ผู้สูงอายุ” นวัตกรรมแรกของโลก ใช้ตรวจสอบหา ความเสี่ยงป่วยจากโรคอัมพาต เพื่อให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพดี ไม่ล้มป่วยเป็นอัมพาตในบั้นปลายชีวิต
วันนี้ (19 ม.ค.) ดร.พรรณสิริ กุลนาถศิริ รัฐมนตรี ช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดกิจกรรมรณรงค์สร้างกระแสป้องกันควบคุมโรคหลอด เลือดสมอง หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่าโรคอัมพาต ในกลุ่มผู้สูงอายุ ที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ว่า จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติปี 2552 พบประเทศไทยมีผู้สูงอายุ 7,273,900 คน คิดเป็นร้อยละ 10.7 ของประชาชนทั้งประเทศ ในจำนวนนี้พบผู้ป่วยโรคความดันโลหิตถึงร้อยละ 32 เบาหวานร้อยละ 13 โรคหัวใจร้อยละ 7 โดยพบคนไทยเสียชีวิตจากโรคอัมพาตปีละ 13,353 คน เฉลี่ยวันละ 37 คน หรือประมาณ 3 คน ทุกๆ 2 ชั่วโมง และเป็นโรคที่มีอัตราการป่วยเพิ่มขึ้นในกลุ่มผู้สูงอายุ จึงต้องเร่งจัดการกับปัญหาดังกล่าว เพื่อรับมือกับการเป็นสังคมผู้สูงอายุของประเทศไทย และให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพดี ไม่ป่วยเป็นอัมพาตในบั้นปลายชีวิต
ดร.พรรณสิริ กล่าวต่อว่า ในการลดจำนวนการเจ็บป่วยและเสียชีวิตจากโรคอัมพาตในกลุ่มผู้สูงอายุ กระทรวงสาธารณสุข มีนโยบายเน้นที่การป้องกันให้รู้ปัญหาให้เร็วขึ้น เพื่อป้องกันก่อนเกิดโรค โดยในปีนี้กรมควบคุมโรคได้พัฒนาเครื่องมือตรวจหาความเสี่ยงโรคอัมพาต ที่เรียกว่า “คัมภีร์ผู้สูงอายุ” ซึ่งเป็นนวตกรรมง่ายๆ เป็นครั้งแรกในโลก
เครื่องมือนี้สามารถใช้ตรวจสอบหาปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรค อัมพาต ซึ่งมี 7 ปัจจัยด้วยตนเองได้ ได้แก่ ความดันโลหิตสูง ระดับคอเลสเตอรอล เป็นโรคเบาหวาน ญาติสายตรงเป็นอัมพาต สูบบุหรี่ น้ำหนักตัวเกิน และการออกกำลังกาย และมีการจัดระดับความเสี่ยงแบ่งเป็น 3 สี คือ สีแดง มีความเสี่ยงสูงต้องแก้ไข ป้องกัน สีเหลือง มีความเสี่ยงบ้าง ควรดูแลสุขภาพมากขึ้น และสีเขียว มีความเสี่ยงต่ำ ให้ส่งเสริมการมีสุขภาพที่ดีต่อไป ในรอบแรกจะผลิตแจกให้ผู้สูงอายุที่เข้าร่วมงานจำนวน 500 อันก่อน จะมีการตรวจคัดกรองสุขภาพเบื้องต้น พร้อมให้คำปรึกษาแนะนำการดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุอย่างเหมาะสม ฟรี และจะผลิตแจกจ่ายไปที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล 9,750 แห่ง เพื่อนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการป้องกันโรค ซึ่งสามารถใช้ตั้งแต่คนวัยทำงานและผู้สูงอายุได้
ทางด้านนายแพทย์ ศิริศักดิ์ วรินทราวาท รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า โรคหลอดเลือดสมองหรือโรคอัมพาต เกิดจากสมองขาดเลือดไปเลี้ยง เนื่องมาจากหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงสมองเกิดการตีบตันหรือแตก ทำให้สมองไม่สามารถควบคุมการทำงานของอวัยวะต่างๆ ได้ โรคอัมพาตมักเป็นโรคที่เกิดขึ้นปลายทางหลังจากที่ป่วยจากโรคเรื้อรังมาเป็น เวลานาน ที่สำคัญ 2 โรค คือ โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ทำให้หลอดเลือดแข็ง เปราะง่าย โดยเฉพาะในผู้สูงอายุซึ่งอยู่ในวัยที่อวัยวะต่างๆ เสื่อมถอย เป็นวัยที่เสี่ยงเกิดโรคเรื้อรังมากกว่าวัยอื่นอยู่แล้ว ฉะนั้น คัมภีร์ผู้สูงอายุ จะเป็นเครื่องมือชิ้นสำคัญที่ทำให้คนในวัยทำงานและผู้สูงอายุสามารถควบคุม ป้องกันได้ ภายใต้แนวคิด “รู้เร็ว รู้ทัน ป้องกันอัมพฤกษ์ อัมพาต” และแก้ไขได้ทันท่วงที
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น