เชียงราย - "หม่อมหลวงปนัดดา" เตือนสติคนไทย
ใช้พระราชนิพนธ์ล้นเกล้ารัชกาลที่ 6 แก้วิกฤติชาติ
หลังปัญหาความแตกแยกหยั่งรากลึกทุกหย่อมหญ้า
ย้ำพระราชกรณียกิจของพระมหากษัตริย์ในราชวงศ์จักรีล้วนเป็นไปเพื่อประโยชน์
สุขของปวงชนชาวไทยทั้งชาติ ขณะที่กองทัพย้ำกลางวงประชุมกำนัน-
ผญบ.ไม่มีคนตายในการสลายชุมนุมหางแดงช่วงสงกรานต์ 52
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า จากกรณีที่ทางกระทรวงมหาดไทย
ได้จัดโครงการสร้างความสมานฉันท์และฟื้นฟูระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหา
กษัตริย์เป็นประมุข ณ หอประชุมสมเด็จย่า มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง อ.เมือง
จ.เชียงราย เมื่อ 1 พ.ค.52 ที่ผ่านมา โดยภาคเช้ามีบรรดากำนัน ผู้ใหญ่บ้าน
ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั่ว จ.เชียงราย เข้าร่วมประมาณ 1,800
คน และมีนายสุเมธ แสงนิ่มนวล ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย
เป็นประธานรวมทั้งนำคณะกล่าวปฏิญานนั้น
ในภาคบ่ายยังมีการจัดให้กำนัน
ผู้ใหญ่บ้านและผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจาก จ.พะเยา
เข้าร่วมด้วยจึงทำให้มีผู้เข้าร่วมประมาณ 3,000 คน
โดยมีการเชิญหม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล ที่ปรึกษาด้านความมั่นคง
กระทรวงมหาดไทย บรรยายพิเศษในหัวข้อเรื่อง
"หลักการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข"
ต่อผู้เข้าโครงการทั้ง 2 จังหวัดดังกล่าว
หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล
กล่าวถึงพระราชกรณียกิจของพระมหากษัตริย์ในราชวงศ์จักรีว่า
ล้วนเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขของมหาชนชาวสยาม โดยไม่มีการแบ่งแยกเชื้อชาติ
ชนชั้นและศาสนา ดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่คนไทยควรภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาเพราะทำให้
เกิดเป็นประเทศไทยในปัจจุบัน
ในโอกาสเดียวกันหม่อมหลวงปนัดดา
ได้อัญเชิญพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่
6 ไปสู่ที่ประชุมว่า "ชาติใดไร้รักสมัครสมาน จะทำการสิ่งใดก็ไร้ผล
แม้ชาติย่อยยับอับจน บุคคลจะสุขฤาอย่างไร"
โดยเน้นย้ำว่าเพื่อเป็นเครื่องเตือนใจทุกคน ให้รู้รัก สามัคคี
ไม่แบ่งเขาแบ่งเราเพื่อให้สังคมมีความสงบสุข
เนื่องจากสภาพในปัจจุบันประชาชนมีความคิดเห็นที่แตกต่าง
จนนำมาซึ่งความขัดแย้งทางการเมืองและมีการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย
ก่อให้เกิดการขาดความสามัคคี และเกิดการเผชิญหน้ากัน
ท้ายที่สุดทำให้คนในชาติขาดความปรองดองและสมานฉันท์อันเป็นปัญหาต่อความมั่น
คงของชาติในที่สุด
โดยย้ำว่า
ปัญหาดังกล่าวนับวันจะหยั่งรากลึกและแผ่ขยายสู่สังคมระดับฐานราก
ทั้งระดับตำบล หมู่บ้าน และครอบครัว ซึ่งมาจากประชาชนยังขาดความรู้
ความเข้าใจในหลักการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น
ประมุข และขาดกระบวนการพัฒนาการเมืองการปกครอง
ขาดความตระหนักและยึดมั่นการดำเนินชีวิตตามแบบประชาธิปไตยที่ถูกต้อง
ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทยและผู้ที่เกี่ยวข้องจะได้ช่วยกันให้
ความรู้กับภาคประชาชนต่อไป
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า วันเดียวกันพลโทดาวพงษ์ รัตนสุวรรณ
ผู้ช่วยเสนาธิการทหารบกฝ่ายยุทธการ
ได้ชี้แจงการดำเนินการยุติความรุนแรงในช่วงเทศกาลสงกรานต์ช่วงที่มีการ
ประกาศใช้พระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินต่อผู้เข้าร่วมการ
ประชุม ว่า ไม่มีผู้เสียชีวิตจากการดำเนินการและเจ้าหน้าที่รัฐได้ดำเนินการอย่างถูก
ต้องตามกฎหมายโดยไม่มีการใช้ความรุนแรงเกินควร
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9520000049196
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น