++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพุธที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

"ยายแดง" วัย 78 โชว์ภาพถ่ายในหลวง น้ำตาคลอวอนหยุดทำร้ายประเทศไทย

"ยายแดง" วัย 78 โชว์ภาพถ่ายในหลวง น้ำตาคลอวอนหยุดทำร้ายประเทศไทย
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์


สตูล - คุณยายวัย 78 โชว์ภาพถ่ายในหลวงที่สะสมไว้กว่า 100 ชิ้น
น้ำตาคลอเบ้าพร้อมยกมือพนมร้องให้หยุดทำร้ายประเทศไทย "สงสารในหลวง"
สวดมนต์ขอให้สิ่งศักดิ์ดลบันดาลให้ประเทศชาติสงบสุข


วันนี้ (5 พ.ค.)
หลังมีหลายหน่วยงานออกมาทำกิจกรรมรณรงค์ยุติความรุนแรง
หยุดทำร้ายประเทศไทย ประชาชนต่างนำธงชาติไทย
ธงตราสัญลักษณ์ติดตามอาคารบ้านเรือน
เพื่อร่วมกันแสดงความจงรักภัdดีต่อพระมหากษัตริย์และประเทศชาติ

นางกระบวน แสงอาภา หรือคุณยายแดง อายุ 78 ปี บ้านเลขที่ 11
ต.พิมาน อ.เมืองสตูล
ถึงกลับน้ำตาคลอเบ้าและยกมือพนมร้องขอให้ทุกคนที่พยายามจะทำร้ายประเทศไทย
ได้หยุดเสีย เพราะประเทศไทยบอบช้ำมามากพอแล้ว
ทุกครั้งที่ได้ยินข่าวความขัดแย้งรู้สึกเครียด
เมื่อไปถือศีลที่วัดจะสวดมนต์ขอให้สิ่งศักดิ์ดลบันดาลให้ประเทศชาติสงบสุข
และทุกคนปรองดองกัน
และหรือรู้สึกสงสารในหลวงทุกครั้งที่มีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศ
เพราะพระองค์ทรงเหน็ดเหนื่อยในการพัฒนาบ้านเมืองแค่ไหนที่จะทำให้พวกเราอยู่
สบาย พระองค์ไม่เคยรังเกียจไม่ว่าจะเป็นชนชาติหรือศาสนาไหน
ก็มาอยู่ร่วมกันได้ในประเทศไทยอย่างสงบสุข

ตลอดอายุ 78 ปีที่ผ่านมาคุณยายแดง บอกว่า
ไม่เคยเห็นประเทศไทยต้องมาแตกแยก แตกสามัคคีเช่นนี้
คุณยายบอกว่าทุกวันนี้ทำได้แค่เพียงนั่งสวดมนต์ขอพรให้สิ่งศักดิ์ช่วยปกป้อง
ประเทศชาติและสถาบันพระมหากษัตริย์ให้อยู่ร่มเย็น
เพราะสถาบันพระมหากษัตริย์เปรียบเสมือนร่มโพธิ์ร่มไทรของปวงชนชาวไทย
พร้อมวอนขอให้คนที่พยายามล้มล้างสถาบันเลิกเสียเถิด
และขอให้คนไทยหันกลับมาสมัคคีกัน

นอกจากนี้ คุณยายแดงยังพาไปดูภาพถ่ายโปสการ์ด ภาพจากปฏิทิน
และภาพจากหนังสือที่คุณยายแดงเก็บไว้ไม่น้อยกว่าร้อยชิ้น
รวมทั้งที่แขวนติดตามฝาผนังไว้ชื่นชมและปราบปลื้มทุกครั้งที่ได้เฝ้ามองใน
สำนึกพระมหากรุณาธิคุณของทุกเชื้อพระวงศ์ทุกพระองค์
โดยเชื่อว่าภาพเหล่านี้ต่อไปจะหาดูได้ยาก
จึงนำมาเก็บสะสมไว้จำนวนมากเพื่อหวังว่าภาพถ่ายเหล่านี้จะมีไว้ให้ลูกหลาน
ได้ชื่นชมถึงพระกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
และทุกเชื้อพระวงศ์ที่เก็บแผ่นดินนี้ไว้ให้เราคนไทยทุกคนเพื่อระลึกถึงพระ
คุณอันล้นพ้น

http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9520000050132

---------------
นอภ.สัตหีบไอเดียเก๋ดึงธรรมะสอนกำนัน-ผญบ.ให้สามัคคีรักชาติ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

ศูนย์ข่าวศรีราชา - นายอำเภอสัตหีบ
จ.ชลบุรีไอเดียสุดเก๋นิมนต์พระครูทัสนีย์คุณากร เจ้าคณะอำเภอสัตหีบ
เทศนาสอนธรรม กำนัน ผู้ใหญ่บ้านหล่อหลอมจิตใจให้ช่วยกันต่อต้านความรุนแรง
ลดความขัดแย้ง หยุดทำร้ายประเทศไทย รู้รัก สมัครสมานสามัคคี
โดยการใช้ธรรมคำสั่งสอนของพระศาสนามาใช้ในการดำรงชีวิต

วันที่5 พ.ค.2552 นายชายชาญ เอี่ยมเจริญ นายอำเภอสัตหีบ
ได้นิมนต์พระครูทัสนีย์คุณากร เจ้าคณะอำเภอสัตหีบ และเจ้าอาวาสวัดบางเสร่
ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี มาเทศนาสอนธรรม ให้กับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน
และฝ่ายปกครอง ณ ศาลาประชาคม ที่ว่าการอำเภอสัตหีบ
เพื่อเป็นการหล่อหลอมจิตใจ ให้ทุกคนรู้จักกับความรับผิดชอบ ความดี
ความชั่ว ผลแห่งกรรมดี ผลแห่งกรรมชั่ว
เพราะผลเหล่านี้จะบังเกิดกับตัวผู้กระทำโดยตรง
ซึ่งในสภาวะปัจจุบันประเทศชาติกำลังขาดความรัก ความสามัคคี ความเอื้ออาทร
และระบบอุปถัมภ์ต่อกัน ถูกแบ่งเป็นฝ่าย
ให้การขับเคลื่อนในการพัฒนาประเทศมีปัญหา
เพราะประชาชนในประเทศแตกความสามัคคี

นายชายชาญ เอี่ยมเจริญ เปิดเผยว่า กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน
เป็นบุคคลที่ประชาชนในแต่ละชุมชน ได้คัดเลือกกันเข้ามา
ในเบื้องต้นต้องยอมรับว่าบุคคลเหล่านี้มีอิทธิพลทางด้านจิตใจของลูก
บ้านอย่างมาก สามารถเป็นแกนนำประชาชนได้อย่างดีเยี่ยม
จึงได้อาศัยศักยภาพของกำนัน ผู้ใหญ่บ้านเป็นแกนนำในการ ต่อต้านความรุนแรง
ให้ทุกคนรู้จักบาป บุญ คุณ และโทษในผลของการกระทำ
โดยเฉพาะการทำร้ายประเทศ สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
ซึ่งเป็นเสาหลักสำคัญของแผ่นดินสยามมาโดยตลอด จึงได้นิมนต์พระสงฆ์มาเทศนา
สอนธรรมให้ทุกคนได้รับฟังคำสั่งสอนให้จิตใจสงบ
มีความสำนึกในความผิดทั้งทางตรงและทางอ้อม

นายอำเภอสัตหีบ กล่าวอีกว่า กระทรวง มหาดไทย
ได้ให้นโยบายเร่งด่วนในการลดปัญหาความขัดแย้ง
ความแตกแยกในหมู่ประชาชนชาวไทยในทุกภูมิภาคให้หันหน้าเข้ามาร่วมกัน
รณรงค์ยุติความรุนแรง และให้ทุกฝ่ายที่มีความขัดแย้งกันเรื่องประชาธิปไตย
เพราะความเป็นประชาธิปไตยเห็นต่างกันได้ แต่ต้องไม่ใช้ความรุนแรง
"หยุดทำร้ายประเทศไทย"
เนื่องจากในปัจจุบันทุกคนคงทราบดีอยู่แล้วว่านอกจากสถานการณ์โลกในเรื่องของ
เศรษฐกิจได้ถดถอยลง ก็ถือว่าได้รับความเดือดร้อนกันอย่างถ้วนหน้า

แต่คนไทยได้สร้างปัญหาให้กับแผ่นดินเกิดของตัวเองจนเป็นสาเหตุให้
อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบจากเรื่องของความแตกแยก
ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในสายตาของประชาคมโลก
ถ้าคนไทยยังไม่หันหน้าเข้ามาร่วมกันรณรงค์ความสามัคคี
ก็จะทำให้ต่างประเทศขาดความไว้วางใจขาดความเชื่อมั่นในเรื่องของความปลอดภัย
ในชีวิต และทรัพย์สิน ถ้าเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย
จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเร่งสร้างความสามัคคีในภาคประชาชนอย่างรวดเร็ว

http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9520000050427

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น