++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพุธที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

พธม.สุราษฎร์ฯมั่นใจขยายเครือข่ายครอบคลุมทั้งจ.ปลายปี52

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

สุราษฎร์ธานี -พันธมิตรฯ
สุราษฎร์ธานีร่วมเวทีสัญจรเพื่อขยายเครือข่ายครั้งที่ 7 คึกคัก
เผยพร้อมเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องเหตุทำให้เครือข่ายมีความเข้มแข็ง
การเมืองภาคประชาชนเดินหน้าได้ มั่นใจ
พันธมิตรฯขยายเครือข่ายได้ครบทั้งจังหวัดภายในสิ้นปี 52

นายเกียรติศักดิ์ ชาครหัตถะการ ประธานศูนย์ประสานงาน
สมัชชาพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดสุราษฎร์ธานี(สมช.พธม.
สุราษฎร์ธานี )กล่าวถึงความคืบหน้าการประชุมสัญจรเพื่อขยายเครือข่ายพันะมิตรฯ
และให้ความรู้เรื่องการเมืองใหม่ ว่า
การจัดเวทีสัญจรของสมัชชาพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดสุราษฎร์
ธานีนั้นได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 7 แล้ว
และยืนยันที่จะดำเนินการต่อไป
เพราะจากการจัดเวทีสัญจรเพื่อขยายเครือข่ายและให้ความรู้ทางด้านต่างๆ
แก่เครือข่ายพันธมิตรฯ
ที่ผ่านมาทำให้ทราบถึงการมีส่วนร่วมของแต่ละพื้นที่
จนทำให้ได้รับทราบความต้องการของพี่น้องในพื้นที่นั้นๆ
และคณะกรรมการพันธมิตรฯสุราษฎร์ฯ
ได้เคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องไม่หยุดยั้งแม้จะมีอุปสรรคบ้าง
เพราะเห็นผลแล้วว่าการขยายเครือข่ายได้ผลอย่างชัดเจน
ทำให้เกิดความสามัคคี
รักเป็นห่วงซึ่งกันและกันเกิดการติดต่อสอบถามกันตลอดเวลา
เมื่อเกิดเหตุที่ต้องการความร่วมมือก็จะร่วมมือกันอย่างทันท่วงที

สำหรับ เป้าประสงค์เบื้องต้น คณะทำงานพันธมิตรฯสุราษฎร์ธานี
ต้องการพันธมิตรฯหน้าจอมาเป็นแนวร่วมเพิ่มขึ้นให้มากที่สุด
และสามารถทำให้ผู้ที่เคยดูASTV
ทุกคนในแต่ละท้องที่เข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมของ พันธมิตรฯสุราษฎร์ธานี
ได้มากขึ้น จากการที่เราได้ลงพื้นที่ให้ความสำคัญกับพวกเขา
เพราะทุกคนที่ดูASTV ต่างได้รับข้อมูลที่เท่าเทียมกันจนสามารถรับรู้
และร่วมเผยแพร่ความรู้ต่อไปได้เมื่อมาร่วมกิจกรรมการขยายเครือข่ายในลักษณะ
สมัชชาด้วยแล้ว ก็สามารถร่วมเป็นคณะทำงานในระดับตำบลจนถึงระดับหมู่บ้านได้

การเมืองภาคประชาชนในจังหวัดสุราษฎร์ฯ
สามารถเดินหน้าได้ด้วยดีเพราะเราจัดตั้งสมัชชาสำเร็จในขั้นต้นแล้ว
และต่อไปนี้ชาว พันธมิตรฯสุราษฎร์ธานี จะใช้ชื่อว่า
สมัชชาพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยสุราษฎร์ธานี (สมช.พธม.สุราษฎร์ฯ)

นายเกียรติศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า
พื้นที่มีการขยายเครือข่ายไปแล้วมีดังนี้ 1.อ.นาสาร 2.ต.พรุพรี
3.ต.บางสวรรค์ 4.อ.ชัยบุรี 5.อ.เสวียด 6.อ.ท่าชนะ และครั้งที่ 7 คือที่
อ.พนม จากการขยายเครือข่าย สมัชชาพันณมิตรฯสุราษฎร์ฯ
จนมีคณะทำงานระดับอำเภอ ตำบล และหมู่บ้านในขั้นต้น 260 คน สมาชิกทั้งหมด
2,100 คน ทุกคนดูASTVกันทุกคน
จึงทำให้เป็นคนใฝ่รู้จนมีความเข้าใจการเมืองภาคประชาชน
เข้าใจสถานการณ์จริงจากASTVและมีจิตอาสาสามารถสร้างกิจกรรมได้อย่างต่อ
เนื่อง จนช่วยขยายแนวร่วมได้เป็นอย่างดี

สำหรับสิ่งที่ได้จากการประชุมครั้งนี้
คือสามารถได้คณะทำงานที่เป็น สมช.พธม.ในพื้นที่ได้อย่างแท้จริง
โดยในส่วนของคณะทำงานในพื้นที่อำเภอพนม มีคณะทำงานประกอบด้วย 1.คุณจำรัส
ธรฤทธิ์ 2.คุณสหัส นิลเพ็ช 3.คุณสมปอง ชาญณรงค์ รายชื่อคณะทำงานในตำบล
ในอำเภอพนม 1.นายพิษณุ อัคนี 2.สัญชัย ดำมณี 3.สมบูรณ์ เสนากรรณ์ 4.จำนัน
แป้นเจริญ 5.สุนทร สุวรรณรัตน์ 6.ชัฎ ศรีรักษา 7.ธรรมรงค์รัก เบญจรัตน์

อย่างไรก็ตามจากการจัดประชุมสัญจรครั้งล่าสุดที่อ.พนม
มีสมาชิกเข้าร่วมประชุมจำนวนมากบรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก
แกนนำจังหวัดได้ให้ความรู้แนะนำการจัดตั้งเครือข่ายพร้อมส่งเสริม
สนับสนุน การขยายเครือข่ายให้มีความพร้อมในระดับสูง
และได้ให้ความรู้ในด้านการพัฒนาชุมชน
รู้ทันและปรับตัวให้สู้กับค้าปลีกข้ามชาติให้ได้ ร่วมกันดูแลสิ่งแวดล้อม
เกิดความรักสามัคคีและความสำคัญของสถาบันกษัตริย์กับสังคมไทย
รู้เท่าทันกับสถานการณ์บ้านเมืองและตื่นตัวพร้อมที่จะร่วมกับ
พันธมิตรฯส่วนกลางและในทุกระดับอย่างจริงจัง และสามารถจำหน่ายข้าวASTV
จำนวน 300 ถุง โดยเฉพาะข้าวกล้อง พร้อมแนะนำการทำข้าวกล้องงอก
ด้วยข้าวกล้องของASTV
ที่เป็นข้าวกล้องใหม่ที่มีจมูกข้าวสามารถทำข้าวกล้องได้ดี

นายเกียรติศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า
สิ่งที่จำเป็นและต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนของสมัชชาพันธมิตรฯสุราษฎร์ธานี
คือการหาแนวร่วมสร้างมวลชน
พร้อมกับคณะทำงานที่มีคุณภาพมีจิตอาสาให้ได้มากที่สุดครบทุกพื้นที่
ขณะนี้ได้ดำเนินการมาครึ่งทางแล้ว คาดว่าทั้งจังหวัดที่มี 19 อำเภอ 131
ตำบล 1,058 หมู่บ้าน จะขยายเครือข่ายสำเร็จประมาณ สิ้นปี 2552
การเมืองใหม่เกิดขึ้นได้ถ้าภาคประชาชนเข้มแข็งในทุกภาคส่วนและร่วมมือกับ
พรรคการเมืองที่ดี
แต่ถ้าการเมืองภาคประชาชนไปเป็นพรรคการเมืองทั้งหมดแล้ว
ใครจะเป็นผู้ตรวจสอบนักการเมืองในอนาคต
เพราะผู้ที่เข้าสู่สนามการเมืองทุกคนไม่มีใครยืนยันได้ว่าจะเป็นคนดีตลอดไป
หรือไม่

การดำเนินการทางการเมืองภาคประชาชนในจังหวัดสุราษฎร์ฯ
จากนี้ไปจะเป็นไปอย่างไม่สร้างศัตรูเพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็น
แต่จะมีแนวทางที่ชัดเจนในการปกป้องสถาบัน ต่อต้านคอร์รัปชัน
พัฒนาความรู้สร้างจิตสำนึกในการมีส่วนร่วมในทางการเมืองภาคประชาชนทั้งใน
เรื่องท้องถิ่นและในเรื่องระดับชาติ
แต่ที่สำคัญต้องรู้เท่าทันไม่ตกเป็นเครื่องมือของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งใน
สังคมที่ทุกวันนี้มีความซับซ้อนมากขึ้น


http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9520000047521

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น