++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพุธที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2550

ทำอย่างไร ให้รักงานที่ทำ

ในเมื่อเศรษฐกิจยังไม่จ๊าบถาวร ผู้มีรายได้ น้อยอย่างเราๆ ท่านๆ จงก้มหน้าก้มตา ทำงานไปเถิดจะเกิดผล ถ้าขยันทำมาหากิน ตัวเป็นเกลียว หัวเป็นนอตอยู่แล้วก็น่า สรรเสริญ ตรงข้ามกับพวกไม่ค่อย มีแรงบันดาลใจชวน ให้อยากทำงานนี่สิ ควรปรับปรุงกันหน่อย ว่าแล้วอยากเขียนถึง วิธีทำให้คุณรักงานที่ทำ (8 ways to Love the Job You Have) เผื่อ จะได้ กระตือรือร้นอยากทำงานทำการ กันอย่างสุดฤทธิ์สุดเดชมั่ง อ้อ แล้วการเสริมความรักให้กับงานที่จะฝอยให้ฟังคราวนี้ ไม่ได้เขียนเอาใจเฉพาะคน ทำงานออฟฟิศเท่านั้นนะ เพราะแม้แต่ผู้ที่มีธุรกิจเป็นของตนเองก็ควรรักสิ่งที่ท่านทำอยู่ไม่ใช่รึ งั้นมาดูกันเลยว่า ทำไงถึงจะรักงาน กันดีกว่า เช่น

1. มีสมาธิอยู่กับงานที่คุณทำ

สมัยเนี้ย สมาธิของคนเรารู้สึกสั้นๆยังไงก็ไม่รู้ เวลาทำงานจึงใจคอไม่อยู่กะเนื้อกะตัวชอบกล แถมบางคนนะ มีเรื่องมีราวในชีวิตส่วนตัวให้ต้องคิดมากคิดมายซะเหลือเกิน คิดไปคิดมาชวนฟุ้งซ่านจนทำงานไม่ได้ไปเลยก็มี เพราะฉะนั้น ถ้าอยากปรับทัศนคติ ให้รักในงานที่คุณทำอยู่ล่ะก็ ควรเริ่มด้วยการมีความแน่วแน่ที่อยากจะ ทำงานซะก่อนเหอะ แล้วอย่างอื่นค่อยว่ากันต่อไป

2. หาเพื่อนร่วมงานที่ดีไว้คอยปรับทุกข์ เสริมสุข และให้กำลังใจซึ่งกันและกัน จะช่วยให้คุณรู้สึกอยากทำงานที่ทำอยู่ต่อไปเพราะมีเพื่อนร่วมงานที่ดีอะไรงี้ไง

แต่คนเราจะหาเพื่อนร่วมงานที่ดีได้หรือเปล่าก็น่าคิดนะ เพราะแค่หาเพื่อนธรรมดาที่ดีๆ ยังหายากเลย แล้วนับประสาอะไรจะหาเพื่อนร่วมงานที่มาคอยเป็นห่วง เป็นใยเราเสมอ ใช่ไหมล่ะ แต่พูดงี้ก็อย่าเพิ่งท้อไป ถ้าฟ้าเข้าข้าง เดี๋ยวก็เจอเพื่อนร่วมงานที่ดีเองหล่ะ

3. แสดงความสามารถออกมาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ อย่าทำงานอย่างกั๊กๆ หรือทำงานด้วยความรู้สึกที่แห้งเหี่ยวไม่มีกะจิตกะใจ เพราะอารมณ์และความรู้สึกแบบนี้มัน จะย้อนกลับมาทำร้ายตัวเองนะ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน

4. ยอมรับสภาพว่าทุกคนย่อมมีจุดด้อยจุดนึงเป็นอย่างน้อย และควรเอาชนะ ข้อด้อยของตัวเองให้ได้ เพราะเราเป็นเพียงคนธรรมดา ไม่ใช่ซุปเปอร์ ฮีโร่ซะที่ไหนล่ะ จงอย่ากลัวที่จะยอมรับว่าเราไม่ได้เลอเลิศ ประเสริฐศรีไปซะทุกอย่าง เพราะบางทีคุณอาจมีความสามารถเหนือคนอื่นในอีกแง่มุมหนึ่งก็ได้

5. มีจุดยืนเป็นของตนเอง มีกูรูผู้สันทัดกล่าวไว้ว่า ผู้ที่ประสบความสำเร็จ ในหน้าที่การงาน คือ คนที่ไม่เดินตามคนอื่นและไม่คาดหวังที่จะได้รับคำชมจากคนอื่นว่าเราทำได้ดี แค่ไหน เพราะขอแค่ได้ทำอะไรสักอย่างให้ดีที่สุดก็พอ

6. พัฒนาตัวเองอย่างสม่ำเสมอ ตราบใดที่คุณยังคงทำงานอยู่ล่ะก็ คุณควรแอ็กทีฟ กระฉับกระเฉง ว่องไวและขยันเรียนรู้อยู่เป็นนิจมั่งฮี่นะ หากขืนมีธุรกิจเป็นของตัวเอง แต่ยังเอ้อระเหยอยู่ละก็ ถ้าธุรกิจเกิดเจ๊งขึ้นมาก็ไม่ต้องโทษใคร บ๋าย บาย.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น