ทำยังไงถึงจะทำงานเพื่อชุมชน เพื่อชาวบ้านได้อย่างที่ตั้งใจไว้

ข้าราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่ในหน่วยงาน, องค์กรหลายแห่ง ที่ต้องลงพื้นที่ทำงานคลุกคลีกับชาวบ้าน ต่างบ่นว่า ทำงานกับชุมชนกันชาวบ้าน ยากเหลือเกิน เมื่อให้คำแนะนำ มอบหมายงานไปแล้ว กว่าจะได้งาน ต้องรอเวลานานมากๆ

เมื่อทำงานหลายเดือน จึงทำใจได้ ทำใจยอมรับในความล่าช้ากับการทำงานในชนบทฅ
แต่ลึกๆแล้ว เขาก้อยากที่จะให้งานนั้น สำเร็จ เดินหน้าอย่างรวดเร็ว
ถ้าหากว่า เขา และทีมงานทำงานชิ้นนั้นเอง รับรองว่า จะเสร็จภายในเวลาไม่ถึงสัปดาห์
เมื่อสอบถามว่า งานอะไรบ้างที่เกิดความล่าช้าในการทำงานกับชาวบ้าน

”แค่งานสำรวจความคิดเห็น โดยมอบหมายให้ตัวแทนชาวบ้าน นำแบบสอบถามไปให้ชาวบ้านเขียนความคิดเห็น และรวบรวมส่งกลับมา เพื่อที่จะประมวลความต้องการของชาวบ้าน และจัดทำแผนการทำงานของโครงการต่อไป ที่แรกตั้งเป้าไว้ ภายใน 1-2 สัปดาห์ น่าจะเสร็จ แต่ถึงวันนี้ ดูท่าแล้ว น่าจะ 1- 2 เดือนเป็นอย่างน้อย”

ความจริงแล้ว ทุกคนมีความกระตือรือร้นในการทำงานกันทั้งนั้น แต่เมื่อมาเจอสภาพความเป็นจริง ที่ทำให้เกิดความล่าช้าทำให้ความตั้งใจของคนทำงานหลายคน ถดถอยลง

หากมีโอกาสมองไปยังหน่วยงาน องค์กรอื่นๆ ที่ทำงานในรูปแบบเดียวกัน งานในลักษณะเดียวกันนี้ เขาสามารถที่จะทำงานได้ตามเป้าหมายได้ ภายในระยะเวลาที่ตั้งไว้ หรือก่อนกำหนดระยะเวลา

เมื่อไม่อยากรอ คนทำงานต้องกระตือรือร้นติดตามงาน
แต่หลายคนมักจะท้อใจ เพราะอุปสรรค ความล่าช้าที่เกิดขึ้น

สิ่งหนึ่งที่ต้องถามใจตัวเองว่า คุณรักในสิ่งที่กำลังทำหรือไม่
และรักในงานที่กำลังทำนั้น มากแค่ไหน
ก่อนที่จะตอบ อ่านต่อไปอีกนิด

คู่รักหลายคู่ มีความอดทนในการรอคอยคนรักของตนได้อย่างยาวนาน ไม่เคยท้อใจ รวมทั้งการพยายามทำในสิ่งที่พิเศษหลายอย่าง เพื่อคนที่ตนรัก แม้ว่า สิ่งที่ทำลงไปนั้น จะใช้เวลา พลังงาน แรงกาย แรงใจมากมาย แต่คนรักไม่เคยท้อถอย ถอดใจ

เช่น การทำงานเพื่อสร้างเนื้อ สร้างฐานะเพื่อที่จะได้มีครอบครัวที่มั่นคง การอดใจรอคอยเพื่อรอให้อีกฝ่ายพร้อม จึงตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ฯลฯ สิ่งต่างๆเหล่านี้ ต้องใช้ความพยายามมากกว่างานอื่นๆ แต่ทำไมคนเหล่านั้นทำได้

เพราะเขารักในสิ่งที่เขากำลังทำ
มีเป้าหมาย อยากเห็นความฝัน ที่เป็นจริง
และมีความฝันร่วมกัน

การทำงานเพื่อชุมชน เพื่อชาวบ้านก็เช่นกัน
การทำงานหลายอย่างเมื่อเริ่มสะดุด หรือพบกับปัญหาอุปสรรค ทำให้งานเกิดความล่าช้า
เกิดปัญหาขึ้น ต้องหาทางปรับเปลี่ยน แก้ไขปัญหาเพื่อให้งานเดินต่อไป

กรณีการแจกแบบสอบถามสำรวจความคิดเห็นชาวบ้าน ไม่ใช่งานที่ยากนัก แต่ถ้าคำถามนั้น ยากเกินไป ชาวบ้านก็คิดไม่ออก

ความเข้าใจของคนเรานั้น แตกต่างกัน มีเรื่องธรรมดาๆหลายเรื่องที่ต้องอธิบายขยายความให้ชัดเจน จึงจะเกิดความเข้าใจที่ตรงกัน

หน่วยงาน องค์กรที่สามารถเก็บแบบสอบถามได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด ไม่รอนานเกินไปจนคนทำงานเกิดความท้อใจ เพราะมีการประเมิน ตรวจสอบตนเองเป็นระยะ ว่าสิ่งที่มอบหมาย ส่งไปถึงชาวบ้านนั้น ชาวบ้านเข้าใจมากน้อยเพียงใด

คำถามบางข้อ เพียงแค่การใช้คำพูดที่ต่างกัน ทำให้คนฟังเข้าใจได้ยากง่าย ต่างกันทันที

”คุณมีแนวทางที่จะดำเนินการเพื่อให้โรงสีข้าวมีความเจริญรุ่งเรือง และอยู่อย่างยั่งยืนอย่างไร?”

” สร้างโรงสีเสร็จแล้ว เราจะทำยังต่อกันดี มีโรงสีแล้ว ทุกบ้านมียุ้งข้าวแล้ว ไม่ต้องเสียเงินค่ารถเอาข้าวไปขายให้โรงสีในเมือง ตอนนี้พวกเราเป็นเจ้าของโรงสีเองแล้ว จะเอายังไงกันต่อ”

คำถามเดียวกัน แต่เปลี่ยนคำถามใหม่ให้เหมาะกับชาวบ้านมากขึ้น จะเห็นว่า คำถามแบบที่สอง ชาวบ้านจะให้ความเห็นที่ไหลลื่นมากขึ้น