++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันอาทิตย์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2550

คุณเป็นอีกคนหนึ่งหรือเปล่าที่กินเจ

คุณเป็นอีกคนหนึ่งหรือเปล่าที่กินเจ

หากใช่คุณนับว่าได้พบกับช่วงเวลาที่ดี ในการบังคับใจและฝึกฝนตนเอง อย่างน้อยก็ช่วงระยะหนึ่ง
แต่ถ้าท่านต้องการให้ได้รับผลจากการกินจริงๆ แล้ว

มีอีกวิธีหนึ่งที่มีผลต่อการกินอย่างคุ้มค่าและเหมาะสมอย่างยิ่ง ที่มนุษย์ผู้เลือกอาหารการกินได้หลากหลาย พึงกระทำ เพื่อความพอดีและพอเหมาะพอควร นั่นคือการกินเพื่ออนุรักษ์ ท่านเคยกินอาหารเหล่านี้หรือเปล่า หูฉลาม รังนก กุ้งมังกร อาหารป่า (ทำมาจากสัตว์ป่า) ยาต่างๆ จากชิ้นส่วนสัตว์ ฯลฯ
ถ้าท่านเคย


สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ท่านควรรู้ก่อนจะตักชิ้นส่วนของพวกเขาเหล่านั้นใส่ปากอีกครั้ง

1. หูฉลาม เป็นส่วนของครีบปลาฉลาม
ชิ้นส่วนนี้จะมีกระดูกเป็นแกนกลาง
กระดูกปลาฉลามจะไม่แข็งเหมือนกระดูกสัตว์อื่นๆ
เมื่อนำมาตุ๋น จะมีลักษณะเช่นเดียวกับเอ็นหมู การจะได้มาซึ่งหูฉลาม
นักล่าจะต้องเข้าไปในแหล่งที่อยู่อาศัยของปลาจากนั้นจะโยนอาหาร
ที่มีคาวเลือดล่อปลาเข้ามาแล้วใช้ปืนฉมวกยิงและนำขึ้นเรือมาตัดส่วนของครีบออก
ตัวปลาจะถูกโยนทิ้งทะเลเพราะไม่มีราคาคุ้มค่ากับการบรรทุกน้ำหนัก
ปลาที่ถูกโยนทะเลจะว่ายน้ำไม่ได้ ร่างของพวกเขาจะค่อยๆ
จมลงสู่ก้นทะเล บางตัวอาจโชคร้าย กลายเป็นอาหารของพวกเดียวกัน
คิดจากน้ำหนักแล้ว ไม่ถึง 1/25 ที่ถูกคนนำมาบริโภค

2. รังนก
เป็นส่วนที่ได้จากรังของนกนางแอ่นซึ่งนกจะสร้างจากน้ำลาย
ในหนึ่งปีนกจะมีความสามารถในการสร้างรัง 3 ครั้ง
ครั้งแรกจะใช้เวลาในการสร้างทั้งหมด (ประมาณ) 45
วันซึ่งขณะนี้แม่นกจะเริ่มมีไข่อยู่ในท้องแล้ว
หากรังแรกถูกทำลายนกจะสร้างรังครั้งที่สองจะใช้เวลาสร้าง
(ประมาณ)21 วัน และรังจะมีสีเหลือง
อีกทั้งไข่ในท้องแม่นกจะแก่พร้อมที่จะไข่แล้ว
ถ้าหากรังที่สองถูกทำลาย นกจะสร้างรังที่ 3 อีกครั้ง ใช้เวลาสร้าง (ประมาณ)
7วัน รังที่สามนี้จะมีสีออกแดง
ทั้งนี้เป็นเพราะนกต้องเร่งผลิตน้ำลายเพื่อให้ทันการไข่ของแม่นก
น้ำลายจึงมีเลือดปนออกมาด้วย
(จะเรียกว่ากระอักเลือดสร้างก็คงไม่เกินจริงนัก)
และถ้าหากรังที่สามนี้ถูกทำลายนกจะไม่สร้างรังอีก
ไม่ใช่เพราะไม่มีน้ำลายจะสร้างแต่เป็นเพราะไม่มีนกจะไข่
แม่นกไม่สามารถรอได้และจะไม่ออกไข่ได้ถ้าไม่มีรัง
ผลก็คือ แม่นกจะตายพร้อมลูกในท้อง
การสำปะทานรังนกนั้น อนุญาติให้เก็บได้เฉพาะรังที่ 1
เท่านั้นแต่ความเชื่อที่ว่ารังนกที่มีสีแดงจะมีคุณค่าบำรุงร่างกายสูง
ซึ่งมีผลโดยตรงต่อราคา
ทำให้มีการลักรอบนำรังที่นกกระอักเลือดสร้างมาขายอย่างเป็นล่ำเป็นสัน

3. อุ้งตีนหมี
เป็นอาหารที่นักเปิบมหาภัยชอบมากและเป็นเมนูสุดโหด
เพราะการตัดอุ้งตีนหมีนั้น
ไม่สามารถตัดขณะที่หมียังมีชีวิตได้
การฆ่าหมีเองก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะหนังหมีจะหนามาก
ยากต่อการฆ่า
ดังนั้นผู้ฆ่าจึงจับหมีถ่วงน้ำทั้งเป็น รอจนหมีหมดอากาศตาย
จึงใช้เลื่อยตัดมือและควักเอาดีหมีมาใช้ปรุงอาหาร

4. ดีเสือ กระดูกเสือ ที่นิยมนำมาดองเหล้า
รวมทั้งอวัยวะเพศเสือ
ที่นิยมทานเพื่อบำรุงร่างกาย สมรรถภาพทางเพศ ฯลฯ นั้น
ปัจจุบันจะหาผู้กล้าหาญ
เข้าป่าเพื่อล่าเสือโดยเฉพาะนั้นหายากมาก
มีแต่นักล่าตาขาวและมักง่าย
จะล่าสัตว์ประเภทกวาง ลิง และสัตว์อื่นๆ
นำมาใส่ยาฆ่าแมลงแล้วนำไปทิ้งในป่าที่มีเสืออยู่
เมื่อเวลาผ่านไปกลิ่นซากสัตว์จะส่งกลิ่น
ล่อเสือมากินและตายด้วยยาพิษ
นักล่าตาขาวจะแวะมาดูแล้วเก็บซากเสือไป
โดยเสือที่มากินอาจเป็นแม่เสือที่กำลังท้อง ลูกเสือ
หรืออาจเป็นสัตว์อื่นๆ
เช่นแร้ง กา หมาป่า ฯลฯ มากินแล้วตาย
สัตว์ที่ไม่ต้องการ นักล่าตาขาวจะไม่นำออก ปล่อยทิ้งไว้อย่างนั้น
แต่ถ้าเป็นเสือ จะถูกลอกหนังออกแล้วนำส่วนอื่นๆ ขาย
หนังเสือที่ได้จากวิธีการนี้
จะไม่มีรอยกระสุนที่จะทำไห้ราคาตก ชิ้นส่วนอื่น
เช่นกระดูกจะถูกนำมาบดดองเหล้าขาย
เช่นยาดองเหล้าที่มีรูปเสือติดอยู่ที่ซองเป็นต้น

5. นกยูง ตายเพราะความรักและความสวยงาม
แม้นกยูงจะไม่นิยมนำมาบริโภคในบ้านเรา
แต่นกยูงมักถูกนำขนมาตกแต่งตามที่ต่างๆ เสมอ
แม้แต่ร่างกายคนเรา
ในประเทศจีนชิ้นส่วนของนกยูงนำมาเข้าเครื่องยาเช่น ดี
เลือด ขน กระดูก เป็นต้น
การล่านกยูงจะกระทำในช่วงที่นกยูงจะผสมพันธุ์
ฤดูกาลนี้ นกจะแผ่หางอันสวยงาม
อวดตัวเมีย เราเรียกว่ารำแพน
นักฉวยโอกาสจะใช้จังหวะนี้เข้าด้านหลังนก
โดยที่นกไม่มีโอกาสเห็น เพราะถูกหางของตัวเองบังไว้
แม้ว่านกอาจจะรอดมาจากการจับจากด้านหลังได้แล้ว
นกยูงยังมีนิสัย เอาใจตัวเมีย
โดยการทำลานดินโล่ง ปราศจากต้นไม้ ต้นหญ้า
เพื่อให้ตัวเมียวิ่งเล่น อาบฝุ่น
การจะทำลานดินดังกล่าวได้
นกจะใช้คอพันรอบต้นหญ้าแล้วดึงขึ้น
นักล่าได้ใช้การกระทำดังกล่าว ฆ่านกโดยการใช้ไผ่ลวก
ปาดเป็นเส้น ลักษณะคล้ายมีดโกนสองคม ไปปักไว้กลางลานดิน
เมื่อนกยูงเห็นสิ่งแปลกปลอมก็จะตรงไป เอาคอพัน
คงเดาออกนะครับว่าจะเกิดอะไรขึ้น
พอถึงเวลานักล่าก็จะมาเก็บซากนก
เคราะห์ร้ายกลับไปทิ้งไว้เพียงลาน รักและนกตัวเมีย
นอกจากนี้ยังมีสัตว์เคราะห์ร้าย
ต้องตายลงเพราะพฤติกรรมการกินของคนอีกมาก
เช่น แรดถูกฆ่าเอานอ เต่าถูกนำกระดองไปทำยา
เลียงผาถูกฆ่าเอาน้ำมันไขข้อ ปลิงทะเล
ตุ่น งู นก ฯลฯ ยังไม่สายเกินไปนัก
สำหรับสัตว์บางชนิดที่เราจะให้โอกาสเขาดำรงเผ่าพันธุ์
อยู่ในโลกนี้เพียงแต่เรามีขอบเขตการกิน และใช้ปัญญากำกับความเชื่อ
ไม่ให้ความเชื่อผิดๆทำลายพวกเขา โดยเราไม่รู้ตัว