++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันอาทิตย์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2550

คิดพลิกมุม การดึงผู้ชมเพิ่มสถิติการเข้าชมเวบบนหนทางของความขัดแย้งและสิทธิของผู้ชม

บันทึกนี้ มาแนวแปลก แต่เป็นข้อสังเกตที่น่าคิด ... น่าคิดว่า คิดได้อย่างไร
คนดีๆ คงไม่คิด คนที่คิด ย่อมไม่ดี

สืบเนื่องมาจากบันทึก

ทำยังไงถึงจะทำงานเพื่อชุมชน เพื่อชาวบ้านได้อย่างที่ตั้งใจไว้

ที่คนจุดตะเกียงเขียนเนื้อหาในประเด็นให้ความรู้และ search รูปภาพจาก google นำภาพมาประกอบบทความให้น่าสนใจ

มีมิตรรักนักอ่านของ แม่ไอ่ภู่ เข้ามาเห็นรูปที่คุ้นเคย เลยไปแจ้งให้เจ้าของภาพตัวจริงเข้ามาตรวจสอบ
เจ้าของภาพ เห็นแล้วไม่พอใจ จึงเขียนในบันทึกของท่านด้วยความหงุดหงิด ที่มีใครก็ไม่รู้ มาแอบจิ๊กเอารูปของเธอไปใช้ โดยไม่บอกไม่กล่าว

คนจุดตะเกียงเห็นข้อความที่เธอมาเขียนความเห็นแล้ว ยอมรับในความผิดพลาด ทำการลบภาพนั้นออกให้ แม้ว่า เธอจะบอกว่า ไม่หวง แต่ก็ไม่สบายใจ

เพื่อความสบายใจลบออกดีกว่า และน้อมรับความผิดพลาดด้วยดี

มีเพื่อนของคนจุดตะเกียง เห็นข้อความ สิ่งที่เกิดขึ้น จึงโทรมาให้แง่คิดอีกด้านหนึ่ง

”น่าเสียดายที่ตั้งใจเขียนประเด็นให้ความรู้ แต่คนที่เข้ามาเปิดดู กลับจับประเด็นอื่น ความผิดพลาดเรื่องการำนรูปภาพมาใช้โดยไม่บอกเจ้าของ แล้วนำประเด็นนี้ ไปแจ้งให้เจ้าของภาพรับทราบ เจ้าของภาพมาเปิดดูและเขียนความเห็นทักท้วง มาซึ่งความจริงเป็นสิ่งที่ถูกต้องในการรักษาสิทธิ์..... และคนที่ตามคลิกเข้ามาดู ก็เป็นคนที่ติดตามอ่านบันทึกของเจ้าของภาพนั้น ..... สรุปว่า เข้ามาดูปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้มาดูเนื้อหาที่ตั้งใจถ่ายทอดในบันทึก...”

”คนเขียนบันทึกชาวไทย ที่จะเขียนบันทึกให้ความรู้มีน้อยอยู่แล้ว ความเห็นที่น่าจะได้รับ ควรจะเกี่ยวกับเนื้อหาในบันทึก แต่กลับมีความคิดเห็นเรื่องอื่นเสียนี่ “

”หลายคนสร้าง blog เพื่อคาดหวังจำนวนผู้ชม ข้อสังเกตที่เกิดขึ้น เราเขียนเนื้อหาอะไรก็ได้ อาจจะไปเอารูปของคนอื่นมาใส่ไว้ แล้วแอบไปกระซิบบอกเพื่อนเจ้าของรูปว่า มาดูที่นี่สิ มีคนแอบเอารูปเพื่อนของคุณไปใช้โดยไม่ขออนุญาตินะ เจ้าของรูปรู้หรือยัง...”

”สักพัก เจ้าของรูปจะเข้ามาดู เขียนทักท้วง เรียกร้องสิทธิ และคนอื่นจะคลิกตามเข้ามาดู เพียงแค่นี้ จำนวนผู้เข้าชมเวบ จะพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว....”

แหม คิดไปได้ หากินบนความขัดแย้งนี่หรือ

ความจริงในประเด็นนี้คนจุดตะเกียง ก็ไม่รอบคอบเอง ทำการค้นหาข้อมูลรูปภาพจาก google และ copy ภาพขนาดเล็กมาใส่ไว้เท่านั้น ซึ่งความจริงถือว่า ผิดเช่นกัน เมื่อเจ้าของภาพทักท้วง จึงยอมรับ และยินยอมลบภาพนั้นให้ด้วยความเต็มใจ

แต่ข้อสังเกตของเพื่อนที่ว่ามานั้น ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะเนื้อหาที่เขียน ถ่ายทอด เพื่อให้ข้อมูลกับผู้ที่สนใจ แม้จะมีผู้ที่ไม่ได้สนใจในเนื้อหาเข้ามาดู เพื่อตรวจสอบสิ่งที่เกิดขึ้น ก็ถือว่า เป็นการชดเชยความผิดพลาดไปละกัน แต่น่าน้อยใจที่คนที่เข้ามาเปิดดู ไม่ได้สนใจรายละเอียดในบันทึกเรื่องที่เขียนนั้นเลย

ถ้าไม่เข้ามาเปิดดูยังจะดีกว่า

สำหรับข้อสังเกตที่เพื่อนว่ามานั้น ไม่เห็นด้วยครับ
ถึงจะเรียกคนเข้ามาดูเวบได้เพิ่มขึ้น แต่มันไม่ยั่งยืนหรอกครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น