จาก The Book of Goals
ชีวิตจะเป็นเช่นใด ถ้าหากเรามัวแต่สนใจคนอื่น แต่ไม่มีเวลาพอสำหรับดูแลตัวเอง เมื่อสมัยที่ผมเรียนอยู่เกรด 4 มิสแมคมานารา ครูของผมได้เชิญคุณพ่อผมมาพบและบ่นเกี่ยวกับผมว่า ผมใช้เวลาฝันกลางวันมากเกินไป เมื่อคุณพ่อถามผมว่า ผมทำอะไร ผมเรียนท่านว่า ผมไม่ได้ฝันกลางวัน แต่ผมกำลังใช้ความคิด
การฝันกลางวันไม่ใช่เรื่องเลวทราม แต่คนส่วนใหญ่จะดูแคลนการฝันกลางวัน สำหรับในยุคปัจจุบันนี้ ผมคิดว่า เราควรมองออกไปนอกหน้าต่างและให้จิตใจของเราโลดแล่นออกไปบ้าง
ในภาวะที่ต้องต่อสู้ดิ้นรน การปล่อยใจกลับไปอดีตหรืออนาคตอาจช่วยให้คุณคลายเครียด ผมเคนเตือนคุณถึงอันตรายถึงการคิดคำนึงถึงแต่เรื่องเสียใจในอดีต และความกลัวเรื่องในอนาคต แต่ผมไม่ได้หมายความว่า เราจะไม่สามารถจำสิ่งที่ผ่านไปแล้วได้ และฝันถึงสิ่งในอนาคตได้ แม้แต่คนที่รักงานของเขา จำเป็นต้องได้รับการผ่อนคลายทางจิตใจ จากเรื่องงานและให้ความคิดอื่นแวบเข้ามาในสมองบ้าง
วัฒนธรรมของเราในปัจจุบันไม่เห็นคุณค่าของการอยู่คนเดียว เราไม่มีเวลาที่จะอยู่คนเดียวเพียงพอ แม้แต่การเดินทางไปทำงานของเราก็ไม่เป็นส่วนตัว เพราะการต้องใช้รถยนต์ร่วมกัน การมีโทรศัพท์ติดรถ และเครื่องเล่นวิทยุ ผู้บริหารซึ่งเป็นผู้หญิงคนหนึ่งเคยบอกผมว่า เธอพบว่าเธอไม่มีความเป็นส่วนตัวแม้ในห้องน้ำของเธอเอง เพราะว่าเมื่อลูกๆของเธอเดินได้ พวกเขาก็จะตามเธอเข้าไปในห้องน้ำด้วย และที่ที่เป็นส่วนตัวสำหรับเธออย่างแท้จริง คือ ในอ่างอาบน้ำ ขอบคุณพระเจ้าที่เด็กๆกลัวน้ำร้อน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น